บุกหนัก!! รัสเซียจัดSu-35 ทิ้งระเบิดร่อนถล่มซาโปริชเชีย ทุบEWFยูเครนยับ อวด MiG-41 ยิงเลเซอร์ใส่ดาวเทียม

0

แนวหน้ายูเครนยังเดือดระอุ กองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียทำการโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดแบบร่อน บนวัตถุของกองทัพยูเครนในเมืองโอเรคอฟและกัลไยปอล ฝั่งยูเครนคุมในภูมิภาคซาโปริชเชีย ถล่มศูนย์สื่อสารอิเล็คโทรนิควอร์แฟร์ของยูเครนพังยับ ขัดขวางการบังคับบัญชาและ การส่งกำลังเสริมไปในพิ้นที่เชื่อมต่อถึงไครเมีย

เนื่องจากแผนเปิดสงครามตีโต้ด้วยกองทัพรถถังและบินรบนาโต้ในหน้าร้อน ฝ่ายนาโต้และเคียฟระดมพลและอาวุธเต็มที่ ฝ่ายรัสเซียจึงเดินหน้าทำลายเส้นทางขนส่ง และคลังแสงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรุกโจมตีผลักดันกองกำลังยูเครนให้ถอยร่นจากแนวหน้าของภูมิภาคต่างๆอย่างหนัก หลังเอกสารของเพนตากอนหลุดเกี่ยวกับสถานการณ์ย่ำแย่ของยูเครน และแผนการรบกับรัสเซียเปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะตั้งใจหลุดหรือถูกแฮก ส่งผลสะเทือนต่อการเคลื่อนไหวของฝายเมกา-นาโต้และเคียฟอย่างเห็นได้ชัด

วันที่ ๑๒ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวและมิลิทารี่วอช รายงานว่า เยอร์มัค (Yermak) หัวหน้าสำนักงานปธน.เซเลนสกี้แห่งยูเครน เปิดเผยถึงข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศ ปฏิบัติการด้านการบินรบของรัสเซีย ในจุดประจำการและตำแหน่งของพื้นที่ในส่วนของภูมิภาค Zaporozhye ที่ยูเครนครอบครอง 

Yermak รายงานว่ารัสเซียใช้เครื่องบินขับไล่ Su-35 เพื่อโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ของเมืองโอเรคอฟ (Orekhov) และกัลไยโปล (Gulyaipole) โดยระบุถึงการสูญเสียว่า

“เมืองโอเรคอฟและกัลไยโปล มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับกองทัพยูเครน ในทิศทางนี้มีการสร้างแนวป้องกันที่มีการยกระดับขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ และในขณะเดียวกันก็มีการถ่ายโอนกำลังสำรองที่ติดตั้งปืนใหญ่และยานเกราะด้วย  กิจกรรมของศัตรูในส่วนนี้ของภูมิภาค Zaporozhye อาจบ่งชี้ว่าจากที่นั่นศัตรูอาจพยายามบุกทะลวงไปในทิศทางของเมืองเมลิโตปอล และเบอร์ดิยันสค์ (Melitopol, Berdyansk) เพื่อตัดทางเส้นเดินทัพของสหพันธรัฐรัสเซียไปยังแหลมไครเมียให้สะดวก พร้อมกับตัดเส้นทางที่ยูเครนจะใช้”

จากข้อมูลล่าสุดจากกลาโหมรัสเซีย แอร์โรฟอร์ซรัสเซียส่ง Su-35 ทิ้งระเบิดร่อนหลายลูก ซึ่งศัตรูไม่สามารถสกัดกั้นได้ อันเป็นผลมาจากการโจมตีครั้งเดียว  ทำให้หนึ่งในศูนย์สื่อสารของศัตรูในพื้นที่เมืองGulyaipole ถูกทำลาย และอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ของกองทัพยูเครนถูกโจมตีพังยับ ใช้งานสื่อสารไม่ได้ ทำให้การบังคับบัญชาเป็นอัมพาต

เมื่อคืนนี้ กองกำลัง RF ได้ทำการโจมตีฐานทัพของกองกำลังยูเครนใน Slavyansk, Kramatorsk และ Pokrovsk อีกด้วย เพื่อหนุนการเคลื่อนไหวกวาดล้างกำลังรบของยูเครนในบัคมุตอักแรง

RF Armed Forces ปฏิบัติงานที่ศูนย์กลางของการสะสมสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหาร อุปกรณ์ และกองหนุนปฏิบัติการของกองทัพยูเครนในพื้นที่เมือง Slavyansk, Kramatorsk และ Pokrovsk (Krasnoarmeysk) ตั้งอยู่ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของ Artemovsk (Bakhmut)

มีรายงานว่าเดินทางมาถึงระหว่างเวลา 01:00 น. – 02:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จนถึงขณะนี้ มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเป้าหมายที่เจาะจงในเมืองเหล่านี้และใกล้กับพวกเขา ห้ามมิให้ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการมาถึงและแม้แต่งานป้องกันภัยทางอากาศของตนเอง แม้ว่าในโซเชียลเน็ตเวิร์กจะมีข้อความสั้น ๆ จากชาวเมืองเกี่ยวกับการระเบิดในตอนกลางคืนที่ค่อนข้างทรงพลังหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ทั่วไปของกองทัพยูเครนในช่วงเช้ารายงานรายงานเพียง การโจมตี ทางอากาศ ๓๙ ครั้ง และขีปนาวุธ ๗ ครั้ง โดย ๔ ครั้งเป็น “จากระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ในเมือง Kramatorsk”

นอกเหนือจากเมืองข้างต้นแล้ว การมาถึงวัตถุที่ไม่มีชื่ออย่างน้อยสองคืนใน Konstantinovka ได้รับการยืนยันโดยหัวหน้าเคียฟของ GVA Alexei Roslov นอกจากนี้ใน Orekhovo-Vasilyevka โรงเก็บเครื่องบินที่มีรถหุ้มเกราะของกองทัพยูเครนถูกทำลายโดยการโจมตีด้วยปืนใหญ่

ใน Konstantinovka, Kramatorsk และ Slavyansk มีทางแยกรถไฟและทางแยกถนนขนาดใหญ่ซึ่งคำสั่งของกองทัพยูเครนใช้อย่างแข็งขันในการถ่ายโอนอุปกรณ์และกำลังคนไปยังทิศทางของโดเนตสค์

อีกด้านหนึ่ง กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาถึงการผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารรุ่นใหม่และล้ำสมัยที่แสดงต่อรมว.กลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู ที่บริษัทด้านการป้องกันในภูมิภาคตูลาว่า “อาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่และขั้นสูงที่ได้แสดงต่อรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียขณะนี้ได้รับการผลิตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ต้องขอบคุณการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ ทำให้ผลผลิตของพวกเขาเพิ่มขึ้น” 

กระทรวงกลาโหมตรวจสอบไซต์งานการผลิตอาวุธสมัยใหม่ที่ โรงงานเอ็นพีโอ สปลาฟ(NPO Splav) และโรงงานอาวุธอิมพีเรียล ตูลา (Imperial Tula)

หนึ่งในบินรบล่าสุด ที่มีการเผยแพร่วีดิโอทั่วโซเชียลมิเดียคือ เครื่องบินขับไล่ MiG-41 เจนเนอเรชั่นที่ ๖ ของรัสเซีย สร้างและทดสอบสำเร็จแล้ว ระบุว่าจะมีประจำการเที่ยวบินแรกในปี ๒๐๒๕

นอกจากนี้ยังมี “ข่าวลือ” ว่า จะเป็นรุ่นที่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงได้ และจัดเต็มด้วยอาวุธที่สามารถทำลายดาวเทียมจากวงโคจรของโลกได้อีกด้วย

ความจริงเรื่องนี้ปธน.ปูตินกล่าวถึงตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และมีภาพเผยแพร่เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ฟังดูเหมือนอีกนานกว่าได้ใช้ แต่ไม่มีใครรู้จริงว่า วันนี้รัสเซียผลิตไปแล้วกี่เครื่องหากเกิดสงครามใหญ่ขึ้น โดยบินรบนาโต้ที่ประกาศว่าจะซ้อมรบครั้งมโหฬารในเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ ก็ไม่แน่อาจได้เห็นเหนือท้องฟ้ารัสเซียในช่วงนั้นก็อาจเป็นได้!!