สถานการณ์สู่รบในสงครามตัวแทนยูเครนตึงเครียดสูงขึ้น ด้วยการตระเตรียมปะทะในศึกตอบโต้ของเคียฟ-โต้ในช่วงหน้าร้อนตามที่ตะวันตกและยูเครนประกาศกร้าวมาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันกองทัพรัสเซียดำเนินการผลิตเครื่องพ่นไฟทหารราบที่ขับเคลื่อนด้วยจรวด PDM-A Shmel พร้อมสารก่อความไม่สงบแบบละอองลอย เพื่อติดอาวุธให้นักรบใช้ในการบุกในเมืองและการเผชิญหน้าก่อนปะทะภาคพื้นดิน
วันที่ ๑๑ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีของรัฐ Rostec ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “ระบบความแม่นยำสูงภายในบริษัท กำลังอัปเกรดเครื่องพ่นไฟทหารราบที่ขับเคลื่อนด้วยจรวด PDM-A Shmel”
“งานอัปเกรดเครื่องพ่นไฟทหารราบที่ขับเคลื่อนด้วยจรวดชเมลดำเนินการอยู่อย่างเร่งด่วน” โดยเสริมว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลการอัปเกรดได้ถือเป็นความลับทางราชการ
ปัจจุบันกองทัพรัสเซียดำเนินการเครื่องพ่นไฟทหารราบที่ขับเคลื่อนด้วยจรวด PDM-A Shmel พร้อมสารก่อความไม่สงบแบบละอองลอย เครื่องพ่นไฟเป็นเครื่องยิงจรวดที่มีส่วนผสมของเพลิง เมื่อเกิดการระเบิด จรวดจะกระจายสารก่อไฟด้วยการระเบิดตามมา ทำให้เกิดแรงกระตุ้นอุณหภูมิสูงและคลื่นระเบิด
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า ในการฝึกซ้อมหลายครั้ง เครื่องพ่นไฟชเมลได้พิสูจน์ประสิทธิภาพสำหรับการทำสงครามในเมืองและการโจมตีฐานที่มั่น ด้วยเอฟเฟกต์การระเบิดสูงต่อเป้าหมายประเภทพื้นฐาน เครื่องพ่นไฟ PDM-A Shmel จึงไม่ด้อยไปกว่ากระสุนปืนใหญ่ ๑๕๒ มม. จะกล่าวแบบง่ายๆก็เหมือนมีเครื่องพ่นไฟเทอร์โมบาริกฉบับมือถือ เพราะบุคคลยิงด้วยตัวเองเองได้เลย แน่นอนว่าน้ำหนักย่อมเบากว่า เครื่องยิงเทอร์โมบาริกขนาดใหญ่
RPO-A Shmel 93mm เป็นเครื่องยิงจรวดแบบใช้แล้วทิ้งที่มนุษย์พกพาได้ แม้ว่าจะถูกจัดให้เป็นเครื่องพ่นไฟ ผู้ผลิต KBP Shmel ได้ออกแบบ ผลิต และส่งออกโดยสหพันธรัฐรัสเซียและก่อนหน้านี้โดยสหภาพโซเวียต เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตตั้งแต่อดีต ในฐานะผู้สืบทอดRPO-A ซึ่งเป็นเครื่องยิงจรวดรูปท่อบรรจุกระสุนแบบนัดเดียวที่ทำงานเหมือนกับเครื่องยิงจรวด RPG และ LAW บางรุ่น
เป็นท่อปิดผนึกที่บรรจุในแพ็คเป็นคู่ บุคคลเดียวกันสามารถถอดท่อออก วางในตำแหน่งยิง และเปิดอาวุธโดยไม่ต้องมีคนช่วย หลังจากเปิดตัว หลอดจะถูกทิ้ง ทุกรุ่นมีความคล้ายคลึงกันภายนอก อาวุธแต่ละชิ้นมีจรวดหนึ่งอันซึ่งมีสามแบบ จรวดพื้นฐานคือ RPO-A ซึ่งมีหัวรบเทอร์โมบาริกและได้รับการออกแบบมาสำหรับโจมตีเป้าหมายที่อ่อนนุ่ม ภายใต้การกำบังระดับปานกลาง
ในขณะที่ติดอาวุธสำคัญให้นักรบแนวหน้าแล้ว การต่อสู้อย่างเข้มข้นดุเดือดยังดำเนินอยู่ในทุกสมรภูมิแนวหน้า ล่าสุดกองทัพรัสเซียประกาศทำลายคลังเก็บเชื้อเพลิง ๗๐,๐๐๐ ตันของกองทัพยูเครนแล้วเมื่อวานนี้
กระทรวงกลาโหมรายงานว่า “กองทัพรัสเซียได้เปิดตัวการโจมตีด้วยขีปนาวุธและทำลายสถานที่เก็บเชื้อเพลิงเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการ ของหน่วยทหารยูเครนใน Donbass และในพื้นที่ของเมือง Zaporozhye ที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มติดอาวุธของเคียฟ ขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงได้ทำลายโรงเก็บที่มีเชื้อเพลิง ๗ หมื่นตัน
นอกจากนี้ยังรายงานการสูญเสียอย่างหนักของกลุ่มก่อการร้ายยูเครนในทิศทางของโดเนตสค์ ดับทหารยูเครนประมาณ ๒๕๐ นาย ในส่วนอื่น ๆ ของสายการติดต่อกองกำลังทหารของยูเครนสูญเสียประมาณ ๑๗๐ นาย นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียได้ทำลายกลุ่มก่อวินาศกรรมยูเครน ๒ กลุ่มและกลุ่มสอดแนมของศัตรูใน DPRด้วย
ในพื้นที่ของเมืองโอเรคอฟ (Orekhov) ในภูมิภาคซาโปริชเชีย (Zaporozhye) และเมืองอูเกลดาร์ (Ugledar) ใน DPR กองทัพรัสเซียได้ชำระคลังอาวุธจรวดและปืนใหญ่และกระสุนที่มีไว้เพื่อจัดหาผู้ก่อการร้ายของกองทัพยูเครน
ในบริเวณใกล้เคียงของเมืองเวลิกี เบอร์ลัค (Veliky Burluk) ในภูมิภาคคาร์คิฟ กองทัพรัสเซียทำลายฐานบัญชาการของกองกำลังเฉพาะกิจคาร์คิฟของกองทัพยูเครน
ที่สุดของที่สุดคือโดรนรุ่นไหนที่ยูเครนปล่อยมาเสร็จรัสเซียหมด โดรน Bayraktar-TB ซึ่งยูเครนซื้อมาจากตุรกีมากกว่า ๑๐๐ ลำ ได้ถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการพิเศษ พลโทแอนเดรีย เดมิน (Andrey Demin) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่ง Aerospace Force ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวัน Krasnaya Zvezda ของกองทัพรัสเซีย กล่าวว่า “แทบไม่มีความแตกต่างพื้นฐานระหว่างการต่อสู้กับโดรนทางยุทธศาสตร์อย่าง US Global Hawk (RQ-4) หรือ Reaper (MQ-9) หรือ Bayraktar-TB ซึ่งเป็นโดรนเชิงปฏิบัติการทางยุทธวิธีของตุรกีและการตอบโต้กับเครื่องบินที่มีลูกเรือ การกำจัด Bayraktar มากกว่า ๑๐๐ ลำ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้”