สถานการณ์การสู้รบในสงครามยูเครนในปัจจุบัน มองเห็นลางแพ้ของเคียฟ-นาโต้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทำโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างไรก็ปิดไม่อยู่
คำให้การของเชลยศึกยูเครนบ่งบอกความจริงที่อยู่เบื้องหลังความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนามรบ ตัวอย่างชัดที่เมืองอัฟเดียฟกา (Avdievka)ที่ส่อเค้าถูกตีแตกจากการรุกหนักของรัสเซียนฟอร์ซ เชลยเผยว่า กองทัพยูเครน ขาดการจัดระเบียบ การประสานงาน ละทิ้งทหาร ปล่อยให้ติดอยู่ในพื้นที่แนวหน้าอย่างไร้อนาคต ทำให้เกิดการยอมจำนนกันมากขึ้นเรื่อยๆ
วันที่ ๙ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิว รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ ยาเชนโก(Alexander Lyashenko) เชลยยูเครน ได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการต่อสู้ของเขาในกองพลทหารราบยานยนต์ ๑๑๐ ที่ถูกตีแตกต้องแยกจากกัน ในเมืองอัฟเดียฟกา
ทหารยูเครนที่ถูกจับได้บอกว่า”คำสั่งของกองกำลังยูเครนในเมืองนี้ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองโดเนตสค์ ไม่สามารถจัดระเบียบการปฏิบัติการได้ดีพอ ที่จะป้องกันไม่ให้กลุ่มทหารที่กระจัดกระจายกลายเป็นเป็ดนั่งรอถูกเผา เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่ประสานกันอย่างเข้มข้นโดยกองกำลังรัสเซีย”
“ตอนนี้เมืองอัฟเดียฟกากำลังถูกปิดล้อม ทั้งขาดกำลังคน ไม่มีกำลังสำรอง ไม่มีอุปกรณ์ ตามหลักการแล้ว พวกเขาควรถูกดึงออกมาจากที่นั่น แต่คำสั่งได้ยืนยันจับพวกเขาทั้งหมดมาไว้ในที่เดียวกัน เหมือนลูกแกะนั่งรอก่อนการฆ่า มันเกิดขึ้นเหมือนในบัคมุต (Bakhmut)”
ตามคำให้การของเขา ในพื้นที่ของ Avdeyevka มีกองกำลังยูเครนไม่เพียงพอ บ่อยครั้งที่ทหารปืนใหญ่ หน่วยสื่อสาร และทหารเกณฑ์ที่ไม่มีประสบการณ์พบว่าตัวเองกำลังสู้อยู่ในแนวหน้า เขากล่าวเสริมว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ ความพยายามทั้งหมดที่กองกำลังยูเครนจะปักหมุดในเขตชานเมืองของอัฟเดียฟกานั้นจึงไร้ผล กองกำลังรัสเซียกำลังเข้ายึดครองอย่างช้าๆ แต่แน่นอน”
ยาเชนโกถูกจับเมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อนการโจมตีตำแหน่งของยูเครนพร้อมกันในหลายจุดของรัสเซีย เขาเล่าว่า “ฉันบอกผู้บังคับบัญชาของฉันว่าฉันจะไม่ออกไปที่นั่น จะมีการจู่โจมไม่ช้าก็เร็ว ไม่ทันขาดคำเราก็ได้ยินเสียงปืนกลดังขึ้น เรารู้ทันทีว่าเป็นการโจมตี มันเร็วมากเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกะและพวกเราไม่รู้สถานการณ์”
ไม่มีกำลังทดแทนและคนอื่นๆปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง ผู้บังคับหมวดของพวกเขาหยุดรับสายจากนายทหารที่สั่งการ หลังจากนั้นยาเชนโก และทหารยูเครนอีกสี่นายก็ยอมจำนน
เขาเชื่อว่าการตัดสินใจยอมจำนนช่วยชีวิตเขาไว้“สิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจเมื่อถูกกักขังคือเราได้รับการปฏิบัติตามปกติ ไม่มีความโหดร้ายให้ต้องกลัว”
ตามคำให้การของเขาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษกองพลยานยนต์ที่๑๑๐ ได้สูญเสียกำลังคนเดิมไปเกือบครึ่งหนึ่ง รวมถึงทหารเกณฑ์ที่เพิ่งระดมใหม่จำนวนมากซึ่งเคียฟส่งไปยังเมืองอัฟเดียฟกาเป็นประจำ
อัฟเดียฟกาเป็นเมืองที่มีประชากรประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน ในช่วงความขัดแย้งใน Donbass กองกำลังยูเครนได้เปลี่ยนให้เป็นฐานที่มั่นหลัก ทำการโจมตีจากเมืองนี้ กระสุนปืนใหญ่ของยูเครนโจมตีไปยังโดเนตสค์, มารีเยฟกา, ยาซิโนวาตายา (Donetsk, Makeyevka, Yasinovataya) และบริเวณเมืองโดยรอบ
นี่คือสภาพความจริงในกองทัพของยูเครน เป็นแบบนี้ในหลายพื้นที่ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มสุดโต่งและทหารรับจ้าง อีกด้านหนึ่งขณะที่เซเลนสกี้ประกาศจุดยืนจะยืนหยัดรุกกลับรัสเซีย ทวงไครเมียและ ๔ ภูมิภาคที่เข้าร่วมรัสเซียไปแล้วกลับคืนมีข่าวฮือฮาทั่วโซเชียลว่า “ยูเครนต้องการประธานาธิบดีคนใหม่อีกคนเพราะ เซเลนสกี้ไม่สามารถเอาชนะการทุจริตได้” เป็นถ้อยคำที่ออกจากปากของอดีตที่ปรึกษาเซเลนสกี้เอง
อเล็กซี อเรสโตวิช(Alexei Arestovich) อดีตที่ปรึกษาและรับผิดชอบในสำนักงานของ Zelensky กล่าวว่า “ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน Volodymyr Zelensky ไม่สามารถเอาชนะการทุจริตในประเทศได้ ดังนั้นเพื่อรับมือกับภารกิจนี้ ยูเครนจึงต้องถูกปกครองโดยคนอื่น”
อเรสโตวิชย้ำว่า “ปัญหาหลักของยูเครนคือการทุจริตและประเทศนี้ต้องการผู้นำที่จะไม่ขโมยเพื่อตัวเองและจะไม่อนุญาตให้ผู้อื่นทำเช่นนั้นด้วย”
อดีตที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครนย้ำว่า Zelensky ไม่สามารถเป็นผู้นำเช่นนี้ได้ เพราะเขาไม่สามารถรับมือกับการทุจริตได้ แม้ว่าในบริบทของความขัดแย้งทางอาวุธในประเทศเขามีเหตุผลทุกประการที่จะนำเสนอ “มาตรการพิเศษ ” ซึ่งมันเป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหานี้แต่เขาไม่ทำ
เขายังเสริมว่า “แม้ว่ายูเครนและโปแลนด์จะรวมกันเป็นรัฐพันธมิตรภายใต้การนำของวอร์ซอว์ แต่ปัญหาการทุจริตไม่สามารถแก้ไขได้ตราบใดที่ Zelensky และรัฐบาลที่ฉ้อฉลแต่งตั้งโดยเขาเป็นผู้นำยูเครน”
หลังจากลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน อเรสโตวิช มักจะวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ยูเครน ดังนั้นในเดือนมกราคมของปีนี้ เขาจึงเรียกเพลงชาติของยูเครนว่าเป็น “ที่มาของหายนะแห่งชาติ” เนื่องจากมีคำว่า “ใส่จิตวิญญาณและร่างกาย” ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นการให้คำมั่นสัญญาของชาวยูเครนที่จะต่อสู้จนกว่าจะตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พูดออกสื่อขนาดนี้ถ้ารอดเงื้อมมือทีม ‘อซอฟโหด’ ไปได้ก็แปลว่า เป็นการส่งสัญญาณบอกทางลงของเซเลนสกี้ ถ้าถูกจับหรือคาดโทษก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งสะท้อนความจริงที่เน่าเฟะชองเซเลนสกี้และพวก