จากการสู้รบในยูเครนดำเนินต่อเนื่องมาเข้าสู่ปีที่สอง ทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของสองฝ่ายก็ดูเหมือนว่าลดจำนวนลง ขณะที่รัสเซียเริ่มมีพันธมิตรมากขึ้น ส่วนสหรัฐกำลังอยู่ในอาการดิ้นรนเพราะวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 05 เมษายน 2566 โดยดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงจำนวนอาวุธของกองทัพรัสเซียจากรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศว่า “สื่อออสเตรียแฉ รัสเซียไม่ได้หมดกระสุนปืนตามที่อ้าง
สื่อออสเตรีย ออกมาสวนสื่อกระแสหลักของยุโรปและอเมริกาที่ปล่อยข่าวเท็จว่ารัสเซียกำลังหมดกระสุน โดยบอก แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Complete delusion: Russia’s arsenal is still not empty รัสเซียยังมีคลังแสงพอจะอัดนาโต้ในยูเครนได้อย่างสบายๆ”
ล่าสุดวันนี้ 06 เมษายน 2566 ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ในซีเรีย ภายหลังจากรัสเซียได้ส่งกำลังพลเข้าไปตั้งฐานทัพด้วยว่า “ซีเรียเริ่มเป็นต่ออเมริกาและอิสราเอล
๑.สหประชาชาติถูกฉีกหน้าที่อ้างว่าไม่เห็นกองทัพอเมริกาในซีเรีย เป็นการโกหกหลอกลวงชาวโลกที่ชัดเจนที่สุด เพราะทหารอเมริกันที่เข้าไปปล้นซีเรีย มีคลิปให้เห็นเป็นประจำ แต่สหประชาชาติทำทีเป็นไม่รู้ เพื่อปกปิดอาชญากรรมของอเมริกา แม้แต่อเมริกาเองก็ยอมรับว่าตนส่งทหารไปที่นั่นจริง
๒.ซาอุฯ กับซีเรียฟื้นฟูความสัมพันธ์ได้เพราะรัสเซียช่วยเป็นกาวให้ บลูมเบิร์กขยายว่าซาอุฯ จะพาซีเรียไปเข้าหลีกอาหรับอีกรอบ ถือเป็นชัยชนะของซีเรียและรัสเซีย
๓.กลุ่มต่อต้านกองทัพอเมริกันในซีเรียยิงขีปนาวุธถล่มค่ายทหารอเมริกันถี่ขึ้น อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งอ่าวซีเรียเพื่อข่มขู่กลุ่มต่อต้านที่โจมตีค่ายทหารอเมริกา ถ้ากลุ่มต่อต้านกองทัพอเมริกาไม่กลัว ยิงถล่มค่ายทหารมะกันเรื่อยๆ ทหารมะกันจะขวัญเสีย อเมริกาจะพ่ายแพ้ที่ซีเรียอีกแห่ง นอกจากจะกำลังพ่ายแพ้ที่ยูเครน
๔.การส่งทหารไปบุกรุกซีเรียได้พัฒนามาถึงจุดเสี่ยงที่จะเกิดการแตกหักระหว่างกองทัพอเมริกันและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านกองทัพอเมริกัน กองทัพอเมริกันกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะจะถูกโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้ สหประชาชาติก็ถูกแฉมากขึ้นว่าสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพอเมริกันที่เข้าไปปล้นน้ำมันในซีเรีย
ภายในปีนี้ กองทัพอเมริกันน่าจะถอยออกไปจากซีเรียครับ”
https://geopoliticaleconomy.com/2023/04/01/un-us-military-syria-ukraine/
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ ยังได้โพสต์ถึงกรณีซาอุฯสมัครเข้ากลุ่มอำนาจทางการเศรษฐกิจใหม่ ที่ร่วมกันตั้งเพื่อคานอำนาจการค้ากับฝ่ายตะวันตกว่า
“วลาดิเมียร์ ปูตินใจถึงพึ่งได้:ผู้นำซาอุฯ เห็นปูตินส่งกองทัพไปถล่มกลุ่มก่อการร้ายไอสิสและอัลกออิดะห์ในซีเรีย เห็นกองทัพรัสเซียทุบกองทัพอเมริกาและนาโต้อื่นๆ ในยูเครน
ตัดสินใจหันมาร่วมทีม BRICS ทันที มองออกว่ารัฐบาลรัสเซียใจถึงพึ่งได้ พอหันมาสมัครเข้าเป็นสมาชิก BRICS วุฒิสมาชิกอเมริกันเสนอให้ทำสงครามพันทาง ไล่รัฐบาลซาอุฯ อ้างละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที
ขณะนี้เครือข่าย CA กำลังก่อตัวอยู่อย่างเงียบๆ รัสเซียจึงส่งเรือฟรีเกตส์ Admiral Gorskov ติดขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกเซอร์คอน ให้ทหารเรือบนเรือรบที่ท่าเรือเมืองเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบีย เจ้าชาย MBS จะได้สบายใจว่ารัสเซียมาช่วยซาอุฯ ถึงที่แน่”
