เหตุการณ์สะเทือนใจชาวมุสลิมทั่วโลก เกิดขึ้นที่มัสยิดอัลอักซอในปาเลสไตน์ด้วยความเหิมเกริมของอิสราเอลที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ โดยโลกตะวันตกทำเป็นเมินเฉย สื่อหลักไม่สนใจรายงาน กระทั่งกล้าลงมือทำร้ายชาวปาเลสไตน์ในมัสยิดสำคัญ ส่งสัญญาณว่ายิวมีอำนาจเหนือคุมเบ็ดเสร็จที่มัสยิดแห่งนี้ จะทำอะไรชาวปาเลสไตน์ได้ตามอำเภอใจ จากยึดบ้านยืดที่ดินมาสู่ยึดศูนย์กลางรวมใจชาวมุสลิมแห่งนี้
Israeli storm troopers attacking Palestinian worshippers inside al Aqsa Mosque during Ramadan prayers, today. pic.twitter.com/ZZfel0HkVn
— CJ Werleman (@cjwerleman) April 4, 2023
ล่าสุดทางสันนิบาตอาหรับ ได้ออกแถลงการณ์ประณามฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล จากเหตุใช้กำลัง “เกินกว่าเหตุ” กับผู้แสวงบุญชาวปาเลสไตน์ ในมัสยิดอัล-อักซอ ที่นครเยรูซาเลม
กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลปฏิบัติการทำร้ายร่างกายคนที่มาสวดมนต์และละหมาดในเทศกาลรอมฏอนเดือนถือศีลอด กระทำภายในมัสยิดอัล-อักซอ หนึ่งในศาสนสถานสำคัญสูงสุดของชาวมุสลิม ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าที่อยู่ทางตะวันออกของนครเยรูซาเลม เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
แถลงการณ์ของสันนิบาตอาหรับระบุด้วยว่า ตราบใดที่อิสราเอลยังไม่ยุติการใช้นโยบายรุนแรงในการควบคุมฝูงชน การเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์มีแต่จะยิ่งบานปลายมากขึ้นเท่านั้น ประณามแล้วไง ยูเอ็นเงียบกริบ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเงียบฉี่ สื่อหลักจอมปั่นหุบปาก
รัฐบาลปาเลสไตน์รายงานจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล บริเวณมัสยิดอัล-อักซอ เพิ่มเป็นอย่างน้อย ๑๒ คน โดยเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลใช้ทั้งกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และกระบองเป็นอาวุธทุบตีกลุ่มผู้แสวงบุญชาวปาเลสไตน์ นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกจับกุมอีกมากกว่า ๔๐๐ คน
วันที่ ๖ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและอาหรับนิวส์ รายงานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีมัสยิดอัล-อักซอในกรุงเยรูซาเล็มโดยตำรวจอิสราเอล การโจมตีผู้นับถือชาวปาเลสไตน์ และการกักขังพวกเขา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
“กระทรวงเรียกร้องให้ทางการอิสราเอลยุติการยกระดับและละเว้นจากการดำเนินการที่จะเพิ่มความตึงเครียดและทำให้ไม่มั่นคงในภูมิภาค โดยเน้นย้ำว่ายูเออีปฏิเสธการปฏิบัติทั้งหมดที่ละเมิดมติระหว่างประเทศและขู่ว่าจะลุกลามบานปลาย”
Temple Mount overnight 🔴:
Israeli police was forced to enter the Al-Aqsa Mosque compound after masked agitators locked themselves inside the mosque with fireworks, sticks and stones. pic.twitter.com/T9LhbLKsMB
— Israel Foreign Ministry (@IsraelMFA) April 5, 2023
กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลง อ้างโดย Emirates News Agency (WAM)กล่าวว่า
ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แสดง “จุดยืนที่แน่วแน่ของประเทศเกี่ยวกับความจำเป็นในการรับรองความปลอดภัยของมัสยิดอัล-อักศอ และหยุดการละเมิดที่ร้ายแรงและยั่วยุภายใน” ในเวลาเดียวกัน กระทรวงกล่าวว่า”ไม่ควรปิดกั้นผู้มาสักการะหรือใช้อาวุธหรือวัตถุระเบิดภายในศาสนสถาน”
ซาอุดีอาระเบียยังได้ประณามการกระทำของกองกำลังอิสราเอลที่มัสยิด โดยเสริมว่า “กำลังติดตามด้วยความกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังยึดครองของอิสราเอลบุกโจมตีลานของมัสยิดอัล-อักศอ ทำร้ายผู้มาสักการะ และจับกุมพลเมืองปาเลสไตน์จำนวนหนึ่ง” ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศกล่าวเมื่อวันพุธ
กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลงบนทวิตเตอร์ว่า “ในขณะที่ราชอาณาจักรประณามการโจมตีที่โจ่งแจ้งนี้ แสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อการปฏิบัติเหล่านี้ที่บ่อนทำลายความพยายามด้านสันติภาพและละเมิดหลักการและบรรทัดฐานสากลเกี่ยวกับการเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา โดยยืนยันจุดยืนที่แน่วแน่ในการสนับสนุนความพยายามทั้งหมดที่มีเป้าหมายเพื่อยุติการยึดครองและเข้าถึง การแก้ปัญหาปาเลสไตน์ที่ยุติธรรมและครอบคลุม”
Al-Aqsa mosque, Old city of Jerusalem
This is how the medical clinic center inside Al-Aqsa mosque looks like, after the Israeli occupation soldiers broke into it and destroyed everything inside. pic.twitter.com/swYiBoK5hF
— Younis | يونس (@ytirawi) April 5, 2023
ในเย็นวันอังคาร กองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในห้องโถงละหมาดของมัสยิดและโจมตีชาวปาเลสไตน์โดยใช้ระเบิดช็อต แก๊ส กระสุนยาง กระบอง และปืนไรเฟิล สื่อปาเลสไตน์รายงานว่า ตำรวจอิสราเอลกล่าวเมื่อวันพุธว่า พวกเขาได้จับกุมผู้คนกว่า ๓๕๐ คน ซึ่ง “ปิดกั้นตัวเองอย่างรุนแรง” ภายในมัสยิด
ความสัมพันธ์ระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลเป็นปฏิปักษ์นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี ๒๔๙๑ ชาวปาเลสไตน์แสวงหาการรับรองทางการทูตเกี่ยวกับรัฐเอกราชของตนในดินแดนเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออกซึ่งอิสราเอลยึดครองบางส่วน และฉนวนกาซา รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธที่จะยอมรับปาเลสไตน์ในฐานะองค์กรอิสระทางการเมืองและการทูต และสร้างการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ยึดครองแม้จะคัดค้านจากสหประชาชาติก็ตาม ความรุนแรงเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในเขตเวสต์แบงก์ ท่ามกลางการจับกุมของอิสราเอลเกือบทุกวันในพื้นที่ควบคุมของชาวปาเลสไตน์
More footage out of Al-Qibli prayer hall in Al-Aqsa Mosque compound as Israeli forces use tear gas and sound bombs against worshippers. This has become an annual Ramadan ritual. pic.twitter.com/vOcvAJaWYJ
— Arwa Ibrahim (@arwaib) April 4, 2023
ในเดือนมีนาคม ปาเลสไตน์และอิสราเอลตกลงที่จะจัดตั้งกลไกเพื่อควบคุมความรุนแรงและต่อต้านแถลงการณ์และการกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดดาลในระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงในเมืองตากอากาศของอียิปต์ที่ชื่อชาร์ม เอล-ชีค เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ซ้ำซากและไม่มีผลในเชิงปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง เพราะในพื้นที่ อิสราเอลยังคงยึดบ้านและที่ดินของชาวปาเลสไตน์ จับกุมคุมขังหนักมือขึ้นทุกที ทั้งๆที่จุดเริ่มต้นของการที่คนยิวจากยุโรปได้เข้ามาตั้งรกรากในปาเลสไตน์ เกิดจากฝีปากฝรั่งที่หลอกให้ปาเลสไตน์รับผู้อพยพด้วยความเมตตาสงสาร หลังสงครามล้างเผ่าพันธ์ แต่สิ่งที่ชาวยิวตอบแทนแก่ชาวปาเลสไตน์คือ แย่งยึดแผ่นดิน ล้างเผ่าพันธ์ลูกหลานมุสลิมปาเลสไตน์ จับตาอิสราเอลทุบคนในมัสยิดอัลอักซออาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายของโลกมุสลิมกับเมกาและอิสราเอล บ่งบอกสัญญาณเดือดที่ใกล้ปะทุใหญ่ในแผ่นดินตะวันออกกลาง ภายใต้ความเงียบงันของมุสลิมทั่วโลกในเดือนถือศีลอด มหาพายุกำลังมา!!