จากกรณีศาลได้ออกหมายจับผู้นำรัสเซีย ขณะเดียวกันมีชาติที่ออกมาขานรับ รวมทั้งบางประเทศที่ออกมาปฏิเสธ ล่าสุดมีท่าทีของสหรัฐออกมา พร้อมกับสถานการณ์ของรัสเซียที่กำลังนำพาโลกขั้วใหม่ก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่มั่นคง
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจากดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวของผู้นำรัสเซียและท่าทีของสหรัฐอเมริกาล่าสุดเมื่อวันที่ 02 เมษายน 2566ว่า “นักการเมืองแซมเบียแฉกำพืดรัฐบาลอเมริกา
ในระหว่างที่นางกมลา แฮริส เดินทางไปเยือนแซมเบีย หัวหน้าฝ่ายค้านของแซมเบียคือนาย Fred Mnembe ออกมาให้แถลง ขอสรุปโดยภาพรวมว่า
ตัวแทนประเทศอเมริกาที่ข้ามาแซมเบียโดยอ้างว่าประชาธิปไตยนี้คือรัฐบาลที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารแกนนำประเทศอาฟริกามาแล้วหลายคน เช่น Patrice Lumumba, Nasser และ Muammar Gaddafi รวมทั้งเคยไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างรัฐบาลของนาย Kwame Nkrumah หลังจากสังหารคนมามากแล้ว คนพวกนี้เดินทางมาสอนเราเรื่องประชาธิปไตย”
“มหาบุรุษตัวจริงของรัสเซียและผู้นำประเทศที่ดีที่สุดในขณะนี้๑.อัตราการตกงานของชาวรัสเซียอยู่ที่ ๓.๘% ถือว่าต่ำมาก ๒.เงินเฟ้อของรัสเซียอยู่ที่ ๓.๙๘% ในขณะที่เยอรมนีพุ่งสูงถึง ๒๒.๓๐%
๓.สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของอเมริกามีอัตราส่วนถึง ๑๒๙% ถือว่าสูงมาก แต่ของรัสเซียอยู่ในระดับสัดส่วน ๑๒% ต่อจีดีพี ห่างกันชนิดอยู่คนละหลังเขา ถ้วยรางวัล ผู้นำที่ดีที่สุดของโลก หลายปีติดต่อกัน คงไม่หนีหายไปจากวลาดิเมียร์ ปูตินแน่ครับ”
“ยูเครนกำลังแพ้รัสเซียอย่างราบคาบกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Times ของอังกฤษได้ลงบทความว่ารัฐบาลยูเครนกำลังพ่ายแพ้รัสเซีย พร้อมลงรายละเอียดภาพกราฟฟิกความสูญเสียมากมายของฝ่ายยูเครนลงในบทความ (ที่เห็นในวงกลม) แต่ตอนหลังถูกเครือข่ายกลุ่มยิวไซออนิสต์ ผู้คุมเนื้อหามองว่าทำลายขวัญและกำลังใจฝั่งยูเครนจึงถูกบีบพากันลบออก แต่ทว่ามีคนแคปเอาไว้ได้ครับ”
“อาร์เมเนียผวารัสเซียประกาศสงคราม ยอมถอย ไม่กล้าจับวลาดิเมียร์ ปูติน เดือนที่แล้ว อเมริกาสั่งให้ ICC ซึ่งเป็นศาลแกงกูรูที่อเมริกาสั่งได้จับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
แต่วลาดิเมียร์ ปูติน ๑.เป็นคนมีนิสัยกล้าทำ กล้าตอบโต้อเมริกาบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ แถมเป็นคนลึกล้ำ เดาใจยาก หน่วยงาน CIA พยายามหาข่าวว่าเขาคิดอะไรก็หาไม่ค่อยได้
๒.วลาดิเมียร์ ปูตินมีเพื่อนสนิทที่เป็นอดีตประธานาธิบดีรัสเซียคือดมิตรี เมดเวเดฟ ซึ่งสิ่งไรที่ปูตินคิด มักจะหลุดออกมาจากปากเพื่อนคนนี้
ดมิตรี เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซียออกมาบอกว่า ‘ใครก็ตามที่จับวลาดิเมียร์ ปูตินเท่ากับประกาศสงครามกับรัสเซีย’ เท่านั้นแหละครับ อเมริกาเปลี่ยนนโยบาย ๓๖๐ องศา ไม่กล้าจับวลาดิเมียร์ ปูตินเลย
ประเทศอื่นๆ จะใช้วิธีการเจรจาสันติกับรัฐบาลอันธพาลอย่างรัฐบาลอเมริกากับอิสราเอลซึ่งเอาแต่ได้ไม่ได้ครับ ต้องใช้กำปั้นที่หนักกว่าหรืออาวุธที่เหนือกว่าพูดแทนเท่านั้น รัสเซียต้องโชว์ว่ามีอาวุธเหนือกว่า อเมริกาถึงยอมแพ้ โลกอาหรับต้องถล่มคืนอิสราเอลให้เสียหายอย่างหนักเท่านั้น อิสราเอลถึงจะเลิกก่อการร้ายและรุกรานปาเลสไตน์และซีเรียครับ”