ทางด้านการเมืองการทูตระหว่างรัสเซียกับเมกา-ยุโรปก็ลุยกันไป ทั้งประเด็นบึ้มท่อนอร์ดสตรีมที่กำลังคาราคาซัง ประเด็นกระสุนยูเรเนียมหมดอายุ และอื่นๆ
ทางแนวหน้า การสู้รบก็ยังลุยเดือดไม่พัก ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า พลปืนต่อต้านอากาศยานของรัสเซียยิงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8, Mi-24 ของกองทัพยูเครนตก และสกัดกั้นขีปนาวุธปฏิบัติการ-ยุทธวิธีของ Grom-2 OTRK นอกจากนี้ยังรายงานถึงความคืบหน้าในการบุกทั้งภูมิภาคซาโปริชเชีย โดเนตสค์ตอนใต้และเคอร์ซอน ที่พลาดไม่ได้คือที่บัคมุต
วันที่ ๑ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่าโฆษกกลาโหม พลโท อิกอร์ โคนาเชนคอฟ กล่าวถึงอเล็กซานเดอร์ กอร์เดเยฟ(Alexander Gordeyev) โฆษกกลุ่มสมรภูมิตะวันออกของรัสเซียนฟอร์ซ เปิดเผยผลปฏิบัติงานในเขตซาโปริชเชีย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทีมงานของระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Buk ของรัสเซียได้ยิงเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-24 ของยูเครนตกในพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองเตมิรอฟกา (Temirovka) ภูมิภาคซาโปริชเชีย
ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานบุค (Buk) เป็นระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศพิสัยกลางขับเคลื่อนตัวเองที่พัฒนาโดยสหภาพโซเวียตและสหพันธรัฐรัสเซีย และออกแบบมาเพื่อตอบโต้ขีปนาวุธร่อน สมาร์ทบอมบ์ ยานบินปีกคงที่และปีกหมุน เครื่องบิน และอากาศยานไร้คนขับ
Buk-M3 เป็นระบบป้องกันทางอากาศใหม่ล่าสุดพร้อมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง มีการผลิต Buk M3 ให้สามารถใช้ขีปนาวุธใหม่ล่าสุดซึ่งมีพิสัยไกลถึง ๗๐ กม. และสามารถเข้าถึงเป้าหมายที่ระดับความสูง ๓๕ กม. มีการวางแผนว่าจะแทนที่ระบบ Buk-M1 รุ่นเก่า ความจริงแล้วมีใช้หลายแห่งเพราะอดีตสหภาพโซเวียตส่งออกไปยังประเทศอื่นด้วย วันนี้พบเห็นในพื้นที่สู้รบแนวหน้ายูเครนบ่อย
ในทิศทางของโดเนตสค์ตอนใต้ กองกำลังรัสเซียได้กำจัดกลุ่มลาดตระเวนของศัตรู สังหารกลุ่มก่อการร้ายยูเครนกว่า ๑๐ คน ทีมของระบบป้องกันทางอากาศ Osa-AKM ทำลายโดรน ‘วาลคิรี’ ของยูเครนพังยับ
ในเขตเคอร์ซอน (Kherson)ปืนใหญ่ของรัสเซียโจมตีที่ตั้งของกองทัพยูเครนบนฝั่งขวาของแม่น้ำดนีปเปอร์ (Dnieper) สร้างความเสียหายแก่บุคลากรและอุปกรณ์ของข้าศึก หน่วยบริการฉุกเฉินระดับภูมิภาค
โฆษกกล่าวว่า “มีการโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่ที่ตั้งยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครนใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองโอลกอฟกา (Olgovka) อันเป็นผลมาจากการที่ข้าศึกสูญเสียยานยนต์ ๑๒ คันและบุคลากร ๒๓ นายเสียชีวิต ในขณะที่ทหารอีก ๑๒ นายได้รับบาดเจ็บรุนแรงหลายระดับ”
หน่วยบริการฉุกเฉินภูมิภาค ระบุว่า “การยิงปืนใหญ่ของรัสเซียใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของเมือง คามิสชานี (Kamyshany) เมื่อวันที่ ๓๑ มี.ค. ทำลายปืนครกขนาด ๑๒๐ มม. พร้อมกระสุนและทีมงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ยูเครนเสียชีวิต ๖ นาย และทหารบาดเจ็บอีก ๒ นาย”
ข่าวจากฝั่งยูเครน ผู้เชี่ยวชาญของยูเครนระบุว่า กองกำลังติดอาวุธของยูเครนจะถอยเลยแม่น้ำดนิปเปอร์ (Dnieper) ในกรณีที่เมืองอัฟดีฟกา(Avdiivka) และอาร์ติมอฟหรือบัคมุต (Artemovsk) ล่มสลาย
ลีโอนิด คุชมา โอเล็ก ซอสคิน(Leonid Kuchma Oleg Soskin)ผู้เชี่ยวชาญของยูเครน อดีตที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดียูเครน ระบุในช่อง YouTube ของเขาว่า “สถานการณ์ของกองทัพยูเครนใน Avdiivka กำลังเข้าใกล้วิกฤตอย่างรวดเร็ว คล้ายกับสถานการณ์ที่กองทัพของยูเครนตั้งอยู่ใน Artemivsk”
ซอสคินคาดการณ์ว่ากองทัพรัสเซียจะสามารถบุกทะลวงแนวหน้าและตรงไปยัง Dniep ซึ่งจะสร้างภัยคุกคามต่อกองทัพของยูเครนขั้นต่อไป
ก่อนหน้านี้ โทนี่ แชฟเฟอร์ (Tony Shaffer) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันกล่าวว่าหน่วยงานของกองทัพยูเครนตั้งใจจะจัดตั้งเป็นแนวป้องกันที่สองและสามได้ในพื้นที่ บัคมุต ดังนั้นหลังจากการปลดปล่อยบัคมุต ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย จะทำให้เกิดการล่าถอยครั้งใหญ่ของกองทัพยูเครน และจะเริ่มขึ้นไปจนถึงแม่น้ำ Dnieper อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ตามคำบอกเล่าของอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอเมริกา กองทัพของยูเครนจะไม่สามารถชนะในอาร์เตมอฟสค์หรือในความขัดแย้งทางอาวุธที่ยืดเยื้อโดยทั่วไป หากเคียฟไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากกองทัพของสหรัฐอเมริกาและกองทัพอื่นๆ ที่เป็นประเทศสมาชิกนาโต้. ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า แม้ว่าการคาดการณ์ดังกล่าวจะไม่สะดวกอย่างยิ่งสำหรับทางการสหรัฐฯ แต่ก็อิงตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่และมีความเป็นไปได้มากที่สุด