จากที่หลายประเทศได้รับความเดือดร้อนจากการร่วมกันคว่ำบาตรรัสเซีย รวมทั้งการให้ชาวยูเครนเข้ามาลี้ภัยภายในประเทศ ก็มีการต่อต้านเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลให้หยุดร่วมทำศึกสงครามด้วย
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักรที่ต้องการแยกดินแดน โดย Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความนำเสนอไว้เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ว่า
เมื่อกว่า 30 ปีก่อนกลุ่มแยกดินแดนชาตินิยม และสหภาพแรงงานในไอร์แลนด์เหนือ ที่มีกลุ่มติดอาวุธกึ่งทหาร Irish Republican Army (IRA) ต้องการแยกเอกราชจากการปกครองของสหราชอาณาจักร
จึงก่อการร้ายด้วยอาวุธระเบิดและปืนโจมตีเจ้าหน้าที่อย่างหนัก ต่อมามีการเจรจาวางอาวุธเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติอังกฤษ แลกกับการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และแบ่งปันอำนาจการปกครอง
ต่อมากลุ่มการเมืองไอร์แลนด์เหนือที่ครองอำนาจเสียงข้างมากในสภาไอร์แลนด์เหนือ พยายามทำประชามติแยกเอกราชดินแดนอย่างสันติ แต่ถูกรัฐบาลกลางอังกฤษบล็อคขัดขวาง
ตั้งแต่นั้นมา กองทัพสาธารณรัฐไอริช (IRA) ก็ต่อต้านข้อตกลงสงบศึกดังกล่าว เกิดการโจมตีอาวุธใส่ฝ่ายความมั่นคงอังกฤษประปราย ยิ่งรัฐบาลกลางอังกฤษรีดไถบังคับไอร์แลนด์เหนือให้ส่งเงินเพิ่ม เป็นค่าอาวุธให้ยูเครนกู้ และมีผู้อพยพลี้ภัยชาวยูเครน หลั่งไหลมาอาศัย เศรษฐกิจถดถอย อัตราเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพสูง จุดชนวนให้เกิดม็อบเดินขบวนประท้วง กระแสแยกเอกราชแรงขึ้น
กองทัพ New Irish Republican Army (New IRA) ที่เป็นพวกชาตินิยม และสหภาพแรงงาน ไม่พอใจรัฐบาลกลางอังกฤษทวีคูณมากขึ้น
Chris Heaton-Harris หัวหน้าฝ่ายไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร ระบุว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาภายหลังอังกฤษติดหล่มสงครามในยูเครน พบเหตุการก่อการร้ายจาก New IRA มากขึ้น มีเป้าหมายโจมตีอาวุธต่อตำรวจในชุมชนต่างๆ
เดือนก.พ.2566 ที่ผ่านมา ตำรวจสายสืบคนหนึ่งขณะที่เป็นโค้ชทีมฟุตบอลในเมืองโอมาห์ อยู่ห่างจากเบลฟาสต์ไปทางตะวันตกเกือบ 100 กม. ถูกมือปืนสวมหน้ากาก 2 คน กระหน่ำยิงบาดเจ็บสาหัส
ต่อมากองทัพ New Irish Republican Army (New IRA) อ้างความรับผิดชอบ ไม่กี่วันก่อนหน่วยข่าวกรองความมั่นคงอังกฤษ (MI5) ได้ประกาศยกระดับภัยคุกคามการก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือเป็น “รุนแรง”
หมายความว่าการโจมตีด้วยอาวุธมีแนวโน้มสูงขึ้น ล่าสุดประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ หันมาปั่นพวกเดียวกันเองอีกแล้ว เขายืนยันว่า เขาไม่กลัวคำประกาศเตือนภัยก่อการร้ายจาก MI5 อังกฤษ
เขาจะเดินทางไปเยือนไอร์แลนด์เหนือในเดือน เม.ย.2566 รัฐบาลอังกฤษ จะกีดกันเขาไม่ได้ โดยเขาไม่สนและจะเดินทางไปไอร์แลนด์เหนือพร้อมกับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน
วิเคราะห์ว่า..ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ไปโผล่ที่ไหนจะเป็นสัญญาณว่าเป็นเสมือนตัดริบบิ้นเหตุรุนแรงตามมา โดยสหรัฐ จะอ้างว่าตนมีอิทธิพลเหนือ ไอร์แลนด์เหนือ และกลุ่มติดอาวุธ New IRA มากกว่าอังกฤษ
ถ้าอังกฤษ ดื้อแตกแถวทางสหรัฐ ก็จะรับประกันมายืนเคียงข้างไอร์แลนด์เหนือเสมอไม่ต้องกลัว จากนั้นความรุนแรงก็จะปะทุมากขึ้น เป็นวิธีที่สหรัฐ ใช้แบล็คเมล์ทั่วโลกมาตลอด เป็นศัตรูสหรัฐ อาจแค่อันตราย แต่ถ้ายอมเป็นบริวารสหรัฐ ไม่รอดแน่นอน”
