ผู้นำวาร์กเนอร์เตือนเซเลนสกี้ว่า กองทัพยูเครนจะถูกทำลายหากยังดึงดันทุ่มกำลังพยายามยึดคืนทั้งดอนบาสและบัคมุต ขณะที่เซเลนสกี้ให้สัมภาษณ์สื่อยืนยันว่าจะต้องตีคืนบัคมุตเพราะถ้าปล่อยให้รัสเซียชนะ จะมีอำนาจต่อรองและนานาชาติจะกดดันให้เขาต้องยอมเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
วันที่ ๓๐ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิว รายงานว่า เยฟเกนี ปริโกชิน (Evgeny Prigozhin)ผู้นำบริษัททหารเอกชน Wagner Group (PMC) ได้อธิบายความสูญเสียของยูเครนในการสู้รบเพื่อเมืองอาร์ติมอร์ฟสค์ (Artryomovsk) หรือ บัคมุต (Bakhmut) ว่าเกือบทำให้ทหารทั้งหมดของเคียฟเสียชีวิต การเสียสละที่กลุ่มวาร์กเนอร์ของเขาทำอยู่เพื่อเห็นแก่รัสเซียนั้นคุ้มค่า
ปริโกชินกล่าวว่า “ณ วันนี้ การสู้รบเพื่อชิงบัคมุตเกือบทำลายกองทัพยูเครนแล้ว”พริโกซินระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันพุธ โดยใช้ชื่อที่เคียฟเรียกเมืองนี้ บริษัทในเครือ Wagner Group ของเขาเองก็“ถูกโจมตีอย่างรุนแรง” เช่นกัน เขายอมรับ
เขาเรียกการสู้รบนี้ว่า“การสู้รบทั่วไป”ของความขัดแย้งทั้งหมดที่กองทหารวากเนอร์ต้องเผชิญหน้ากองกำลังติดอาวุธยูเครนและ“หน่วยทหารต่างชาติที่เข้าร่วมในพวกเขา” ชัยชนะโดยกองทหารของเขาจะเป็น”จุดเปลี่ยน”และถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ในการรักษาชัยชนะของรัสเซีย
เขาประเมินว่า “กองทัพรัสเซียเพียงอย่างเดียวจะถูกทิ้งไว้บนกระดานหมากรุก และองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกนำออก”เขาคาดการณ์ “แม้ว่า PMC Wagner จะถูกทำลายในเครื่องบดเนื้อบัคมุตแต่กองทัพยูเครนก็แหลกไปด้วย มันก็หมายความว่าเราได้บรรลุภารกิจประวัติศาสตร์ของเราแล้ว”
การต่อสู้เพื่อควบคุมเมืองบัคมุต กลายเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่เข้มข้นและนองเลือดที่สุดของความขัดแย้งทางอาวุธในยูเครน โดยมีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตะวันตกอ้างว่าเมืองนี้ไม่มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์ทางทหาร แต่ประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกี ให้คำมั่นว่าจะปกป้องเมืองนี้ให้นานที่สุด หลังจากประกาศให้เมืองนี้เป็นป้อมปราการใหญ่ในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย
ผู้นำยูเครนอธิบายกับ The Associated Press เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หากรัสเซียยึดบัคมุตสำเร็จ รัฐบาลของเขาจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติและในประเทศให้แสวงหาสันติภาพกับมอสโกว์
เซเลนสกี้ยืนยันว่า “สังคมของเราจะรู้สึกเบื่อหน่าย” “สังคมของเราจะผลักดันให้ฉันประนีประนอมกับพวกเขา”
ไม่ว่าเซเลนสกี้จะแก้ตัวว่าอย่างไร จะอ้อนวอนเมกาและนาโต้ให้เข้ามารบเต็มตัวอย่างไร ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ แต่กองทัพรัสเซียและวาร์กเนอร์รุกคืบเข้าใกล้ศูนย์กลางเมืองบัคมุตแล้ว ขณะที่รัสเซียนฟอร์ซก็เข้าโจมตีเมืองติดๆกันเพื่อปิดล้อมทัพหนุนของยูเครนด้วย ขณะที่ถล่มคลังเก็บรถถังนาโต้ที่เพิ่งเข้ามาสมทบไปพร้อมกันด้วย
เดนิส ปูชิลิน(Denis Pushilin)หัวหน้า DPR เปิดเผยว่า “กองกำลังรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้เมือง Maryinka อย่างมั่นคง และการสู้รบที่ดุเดือดดำเนินอยู่ทั้งในและนอกเมืองบัคมุต”
เขากล่าวว่า “หากเรายึดพื้นที่มารีอินกา เห็นได้ชัดว่ามีการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าโดยหน่วยของเรา มันไม่เร็วอย่างที่คาดไว้ แต่ถึงกระนั้น การเคลื่อนที่ไปข้างหน้าก็คือการปลดปล่อยมารีอินกา”
ปูชิลินกล่าวว่า “การเผชิญหน้าอยู่ใกล้กับเมืองอุเกลดาร์ (Ugledar) แต่กองกำลังรัสเซียได้ตอบโต้และขับไล่ศัตรูที่จะโจมตีออกไปจนหมด นอกจากนี้พื้นที่ครัสนีลิมัน (Krasny Liman) มีความซับซ้อนมากขึ้น ถึงกระนั้น เราก็เห็นการรุกคืบในตำแหน่งของเราที่นั่น”
ยูเครนยืนยันว่ากำลังเตรียมการสำหรับการตอบโต้หลายครั้ง
อเล็กเซย์ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Gazeta Wyborcza ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “การจัดตั้งกองกำลังต่อต้าน กำลังเสร็จสิ้นแล้ว NATO สนับสนุนแผนการของยูเครน และย้ำว่าแผนดังกล่าวต้องการยานเกราะบรรทุกบุคลากร รถถัง เครื่องกระสุน และลูกเรือที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่
เขากล่าวว่า “ในความเห็นของผม เราจะมีการโจมตีหลายครั้ง แต่ทิศทาง ความรุนแรง และระยะเวลาจะถูกกำหนดโดยเจ้าหน้าที่ทั่วไป แต่ผืนดินในฤดูใบไม้ผลิไม่ดีพอสำหรับยานพาหนะที่มีล้อเคลื่อนที่ได้”
ตัวแทนของ General Staff of the Armed Forces of Ukraine ระบุว่าระยะเวลาของการรุกขึ้นอยู่กับสภาพอากาศโดยตรงและคาดว่าจะเริ่มในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมของปีนี้
นอกจากขบวนรถถังของนาโต้ที่ กองทัพรัสเซียและทหารวาร์กเนอร์จะต้องเจอ ทหารกลุ่มใหม่ที่จัดเข้ามาจะเป็นพวกทหารต่างชาติเสียส่วนใหญ่ และมีฝีมือการรบที่ได้รับการฝึกจากนาโต้ ทั้งหมดนี้คาดการณ์ได้ถึงการรบที่ดุเดือดเลือดพล่านกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ชี้ขาดว่ารัสเซียหรือนาโต้จะกำชัยชนะในสงครามตัวแทนยูเครน!!