วันนี้แรงในสื่อเทเลแกรม “ดมิทรี เมดเวเดฟ” รองประธานสภาความมั่นคงและอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เตือน ประธานาธิบดี “อันด์แชย์ ดูดา” ผู้นำโปแลนด์ อย่าเปรี้ยวให้มาก ลั่น! อย่าคิดว่า วอร์ซอเป็นส่วนหนึ่งของ NATO มีมาตรา ๕ แล้ว มอสโกจะเกรงกลัว หยาม! โปแลนด์ก็แค่เด็กรับใช้มะกัน ท้าอีกถ้าหิวมาก ก็แค่ส่งทหารเข้ามา รัสเซียพร้อมเสริฟขีปนาวุธ “อิสกันเดอร์” ให้รับประทานเต็มที่
วิพากษ์โปแลนด์เสร็จก็เปิดเผยการตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตกระสุนของรัสเซีย
วันที่ ๓๐ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟอดีตปธน.รัสเซีย ยืนยันว่า “อุตสาหกรรมของรัสเซียต้องตอบสนองความต้องการของกองทัพโดยไม่ล้มเหลว มีความจำเป็นไม่เพียงเพิ่มผลผลิตของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ แต่แน่นอนว่าต้องพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของกระสุนและใช้ทั้งความรู้ขั้นสูงและแนวคิดใหม่ ๆด้วย”
เมดเวเดฟกล่าวว่า “ในขณะที่ปฏิบัติการทางทหารพิเศษดำเนินต่อไป ปริมาณการใช้กระสุนก็เพิ่มมากขึ้น ภารกิจของอุตสาหกรรมนี้คือการตอบสนองความต้องการของกองทัพรัสเซียอย่างเต็มที่และไม่ขาดตกบกพร่อง” เขากล่าวในที่ประชุมระหว่างการเยี่ยมชมโรงงานดินปืนคาซาน
เขากล่าวเสริมว่า “โดยทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมกลาโหม และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินอยู่ มีการเปิดตัวคอมเพล็กซ์ใหม่ทั้งหมดและขยายการผลิตอย่างจริงจัง”
Dmitry Medvedev is engaged in the defense industry. At the Kazan Gunpowder Plant, he reviewed the provision of the Russian Armed Forces with ammunition and other modern weapons https://t.co/sgmzObfnxy pic.twitter.com/KBrkbCGnMF
— Victor vicktop55 (@vicktop55) March 29, 2023
ตามวิดีโอที่อัปโหลดไปยังช่อง Telegram ของ Medvedev ในระหว่างเดินทางไปทำงานที่ตาตาร์สถาน (Tatarstan) เขาได้ตรวจสอบสายผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอจากโรงงานคาซานกันพาวเวอร์ (Kazan Gunpowder) และพบกับผู้ว่าการภูมิภาคที่ประกอบด้วย Volga Federal District เพื่อหารือเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร เหนือสิ่งอื่นใด เกี่ยวกับทหารรับจ้าง
โรงงานดินปืนคาซานเป็นผู้ผลิตชั้นนำของรัสเซียในด้านการป้องกันประเทศ และผลิตภัณฑ์ป้องกันภัยพลเรือนที่หลากหลาย ผู้ผลิตหลักคือผงดินปืนและเชื้อเพลิงจรวดสำหรับอาวุธขนาดเล็ก อาวุธการบิน กองทัพเรือ ปืนใหญ่และรถถัง และระบบการต่อสู้ระยะประชิด และผงสำหรับกระสุนกีฬาและการล่าสัตว์
ในขณะเดียวกันในฐานะดำรงตำแหน่งสภาความมั่นคงรัสเซีย เขาเปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียได้รับมอบรถถังใหม่หลายร้อยคัน ประจำการยังแนวหน้า
แหล่งข่าวทางทหารได้ให้ข้อมูลแก่สื่อสปุ๊ตนิกว่า กองทัพรัสเซียได้รับมอบรถถังที่ผลิตใหม่แล้วหลายร้อยคัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น T-90M โปรเรียฟ (Proryv)
แหล่งข่าวกล่าวว่า “รถถังใหม่หลายร้อยคัน เพิ่งถูกปล่อยออกจากสายการผลิตไปยังเขตการสู้รบ ส่วนใหญ่เป็นรถถัง T-90M Proryv เช่นเดียวกับรถถัง T-72B3M ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยอย่างมาก”
“ในแง่ของลักษณะทางยุทธวิธีและทางเทคนิค รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบควบคุมการยิง การป้องกัน ความคล่องตัว และการรับรู้สถานการณ์ รถถังเหล่านี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับของพาหนะต่างประเทศที่ทันสมัยที่สุด” “เราสามารถพูดด้วยความมั่นใจว่า T-90M และ T-72B3M นั้นเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิงในแง่ของลักษณะการรบเมื่อเทียบกับรถถังเหล่านั้นที่กองทัพยูเครนมีหรือจะได้รับในอนาคตอันใกล้จากประเทศในกลุ่ม NATO”
นอกจากนี้ รถถัง T-90M และ T-72B3M ยังติดตั้งเกราะปฏิกิริยาเพิ่มเติมที่ป้องกันอุปกรณ์จากอาวุธต่อต้านรถถังจากเกือบทุกมุม
พอพูดถึงรถถัง ซึ่งกำลังมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียในดินแดนยูเครน ก่อนหน้านี้รัสเซียเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่เพื่อปรับปรุง T-72 ที่ล้าสมัยให้ทันสมัย และผลิต T-90M Proryv ใหม่ เรื่องนี้Military Watch ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยประเมินว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในการสร้างรถถังของรัสเซีย
อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการติดตั้ง MBT เหล่านี้อย่างรวดเร็วในหมู่กองทหาร โดยเปรียบเทียบกับยานเกราะหุ้มเกราะหนักรุ่นตะวันตกว่า “ในความคิดของฉัน ตอนนี้ T-90M เป็นรถถังที่ดีที่สุดในโลก มันดีกว่ารถถัง
Leopard, Challenger และ Abrams อย่างแน่นอน รวมถึงในแง่ของข้อมูลทางยุทธวิธีและข้อมูลทางเทคนิค แม้แต่ในแง่ขององค์ประกอบ”
เมดเวเดฟยืนยันว่าในปี๒๐๒๓ เพียงปีเดียว รถถัง ๑,๕๐๐ คันจะถูก “ผลิต” ในสหพันธรัฐรัสเซีย เขาย้ำว่าตะวันตกไม่สามารถคว่ำบาตรอุตสาหกรรมรัสเซียได้
แต่ข่าวล่าสุด โปแลนด์เข้าซื้อรถถัง K2 Black Panther ของเกาหลีใต้เกือบ ๑,๐๐๐คัน ซึ่งตอนนี้ถือว่าพร้อมรบมากที่สุดใน NATO ซึ่งโปแลนด์อาจเก็บไว้ใช้เองในฐานะแกนนำนาโต้ที่อยู่ติดพื้นที่สู้รบของรัสเซียมากที่สุด
สื่อคาดว่าในระหว่าง SVO นั้น T-14 Armata จะถูกส่งไปยังหน่วยรถถังอารักขาชั้นยอดใกล้กรุงมอสโกว์ มากกว่าจะลงสนามขณะที่ T-90M พิสูจน์ตัวเองแล้วในสนามรบ ทั้งยังผลิตได้เร็วและมากกว่า ต้นทุนน้อยกว่า ในอดีตสหภาพโซเวียตผลิตรถถังได้ประมาณ ๔,๐๐๐ คันต่อปี แต่สำหรับรัสเซียตามข้อมูลที่เปิดเผย การผลิตเป็น ๑,๕๐๐ คันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว หลังจากที่ฐาอุตสาหกรรม และภาคกลาโหมถูกกีดกันคว่ำบาตรจากตะวันตก!!
