ฮือฮาอย่างสาหัสในโลกโซเชียล เมื่อนายกรัฐมนตรี “เนทันยาฮู” ตอกไบเดนด้วยภาษาสุดแสบสันต์หลังไบเดนเตือนให้เลิกหนุนกฎหมายเจ้าปัญหาว่า เมกาอย่าแส่!!! ลั่นเป็นเรื่องภายในของอิสราเอลชาติอื่นอย่ายุ่ง! ซัดสหรัฐฯอย่าใช้อำนาจจนเคยชิน แถมแซะวอชิงตันควรแก้ปัญหากราดยิงภายในประเทศให้ได้เสียก่อน
ด้าน “เบน กาวีร์” รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงอิสราเอล ไม่เบา ตอบโต้ว่าอิสราเอลไม่ได้เป็นรัฐหรือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอลก็ไม่ใช่ดาวอีกดวงบนธงชาติสหรัฐฯ ฉะนั้นไบเดนหุบปาก!
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ผู้นำของสหรัฐฯ กดดันนายกรัฐมนตรีอิสราเอล “เนทันยาฮู” ให้ยุติผลักดัน พ.ร.บ. ตุลาการ ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
เอาละสิใครเป็นพี่เบิ้มกันแน่ ที่ผ่านมาใครๆก็มองว่า สหรัฐฯอุปถัมภ์อิสราเอลด้วยผลประโยชน์เกี่ยวพันในตะวันออกกลาง แต่วันนี้ชัดแล้วว่าใครสั่งใคร
วันที่ ๓๐ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า ทำเนียบขาวมองข้ามการทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะของ Biden และ Netanyahuเป็นเรื่องระหว่างมิตร
จอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวย้ำเมื่อวันพุธว่าไบเดนและเนทันยาฮูเป็น “เพื่อน” ที่รู้จักกันมาเกือบสี่ทศวรรษ เขาย้ำว่า “ฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนมีเพื่อน”“คุณไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่เพื่อนทำหรือพูดเสมอไป และสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับมิตรภาพที่ลึกซึ้งคือคุณสามารถเปิดเผยต่อกันได้” ทีแบบนี้ละหงอเชียว
ก่อนหน้านี้ ไบเดนวิพากษ์วิจารณ์แผนของรัฐบาลขวาจัดของเนทันยาฮู ที่จะยกเครื่องระบบตุลาการของอิสราเอล ซึ่งฝ่ายตรงข้ามกล่าวว่าจะจำกัดการกำกับดูแลของศาลอิสราเอลที่มีต่อรัฐบาล และทำให้ประชาธิปไตยของประเทศอ่อนแอลง
ข้อเสนอดังกล่าวได้จุดชนวนการประท้วงทั่วประเทศในอิสราเอล องค์กรชาวยิวในสหรัฐฯหลายแห่ง รวมทั้งบางองค์กรที่สนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน ก็ได้ออกมาพูดต่อต้านแผนดังกล่าวเช่นกัน
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาจะไม่เชิญเนทันยาฮูไปที่ทำเนียบขาวใน “ระยะเวลาอันใกล้นี้”
เนทันยาฮูโต้กลับคำพูดของไบเดนอย่างรวดเร็ว “อิสราเอลเป็นประเทศอธิปไตยที่ตัดสินใจโดยความประสงค์ของประชาชน และไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงกดดันจากต่างประเทศ รวมถึงจากเพื่อนที่ดีที่สุดด้วย” อันนี้เป็นภาษาทางการที่ต่างจากภาษาในโลกโซเชียล
เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ คนออกมาต้านนับล้าน เนทันยาฮูได้ชะลอการผลักดันการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ยังคงไม่สงบ มีการปะทะระหว่างฝูงชนคนประท้วงกับเจ้าหน้าที่ แต่มีการปะทะกันระหว่างม็อบสนับสนุนเนทันยาฮู กับม็อบประท้วงที่เดินขบวนมาก่อนหน้านับสัปดาห์
อิสราเอล ซึ่งบังคับใช้การแบ่งแยกสีผิวกับชาวปาเลสไตน์ และถูฏองค์กรสิทธิมนุษยชนใหญ่ๆ รวมถึงแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลวิพากษ์วิจารณ์ตลอดมา ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ อย่างน้อย ๓.๘ พันล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเป็นผู้ปกป้องทางการทูตระดับแนวหน้าของอิสราเอล ในทุกสิ่งที่เทลอาวีฟทำ
วอชิงตันมักใช้อำนาจยับยั้งและอำนาจทางการเมืองเพื่อขัดขวางข้อเสนอของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการประณามการละเมิดของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ แต่ปากอ้างสนับสนุนการเจรจาระหว่างสองฝ่าย ประเภทพูดอย่างทำอย่างแบบเคยๆ
ขณะที่ใช้คำพูดและท่าทีแข็งกร้าวกับคนในประเทศและมิตรสนิทอย่างสหรัฐฯ อิสราเอลได้ส่งขีปนาวุธโจมตีซีเรีย หลังสหรัฐถล่มชายแดนซีเรียอ้างโจมตีกลุ่มกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน
สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์เปิดเผย กองทัพซีเรียระบุว่าอิสราเอลยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่กรุงดามัสกัสเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ทรัพย์สินเสียหายในเมืองหลวง การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลา ๐๑.๒๐ น. และการป้องกันทางอากาศของซีเรียสามารถยิง“เป้าหมายที่ไม่เป็นมิตร” อย่างน้อยบางส่วน สำนักข่าวของรัฐ SANA รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางทหาร มีรายงานเหตุเพลิงไหม้ในย่าน Al-Midan ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยทางตอนใต้ของเมืองหลวงของซีเรีย การโจมตีมีเป้าหมายที่คาฟ ซูซา (Kafr Sousa) ที่อยู่ใกล้เคียง มีทหารอย่างน้อย ๒ นายได้รับบาดเจ็บ ขีปนาวุธมายิงมาจากทิศทางของที่ราบสูงโกลานที่อิสราเอลยึดครอง
การโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีมีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากอิสราเอลโจมตีสนามบินในเมืองอเลปโป สร้างความเสียหายให้กับรันเวย์และทำให้หยุดให้บริการเป็นเวลา ๒ วัน
อิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธหลายร้อยครั้งในดินแดนของซีเรียตั้งแต่ปี๒๕๕๔ แต่แทบไม่ออกมายอมรับเลย ในบางโอกาสที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตี พวกเขาอ้างว่ากำหนดเป้าหมายอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์ในซีเรียเพื่อป้องกันตนเองล่วงหน้า ดามัสกัสประท้วงหลายครั้งว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของซีเรีย แต่ก็ไร้ประโยชน์
ต้องจับตากันต่อไปว่า สถานการณ์ในอิสราเอลจะคลี่คลายไปทางไหน แม้ไบเด็นกล่าวว่าจะไม่เชิญอิสราเอลร่วมงานซัมมิตประชาธิปไตยที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ทางอิสราเอลก็ไม่ใส่ใจเลยสักนิด การเดินหน้าโจมตีซีเรียจะได้รับการตอบสนองอย่างไรทั้งอิหร่าน รัสเซีย ซึ่งกำลังคุนกันที่มอสโกว์???