จากกรณีปัญหาธนาคารใหญ่ในสหรัฐ รวมทั้งยุโรปบางประเทศที่กำลังทยอยล้มละลาย มีการถอนเงินสดจากนักลงทุน โดยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศและโลกในภาพรวมด้วยนั้น
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวที่นำเสนอโดย Blockdit World Update เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ระบุถึงสาเหตุของการล้มละลายของธนาคารยักษ์ใหญ่ไว้บางช่วงที่สำคัญว่า
“กลุ่มทุนใหญ่ยิว Deep State อีกกลุ่มคือ ธนาคารใหญ่วอลสตีท Big Four คือ JPMorgan, Bank of America, Citigroup และ Wells Fargo พวกเขาคือขาใหญ่มากเช่นกัน
ในสหรัฐ นั้นมีธนาคารภูมิภาค และธนาคารเฉพาะธุรกิจอีกเกือบ 200 แห่ง ที่มีชาวอเมริกัน และชาวต่างชาติ และกองทุนต่างๆ นำเงินไปลงทุนฝากและซื้อพันธบัตร ทำให้ธนาคารใหญ่ Big Four น้ำลายไหล
กลุ่มพวกเขาเป็นเอกชนแต่กลับเรียกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีอำนาจล้นฟ้า มือซ้ายขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างว่า ลดอัตราเงินเฟ้อท่วม ในขณะเดียวกันมือขวาก็ทำ QE รับประกันตัวเองแล้วพิมพ์เงินดอลลาร์ได้ไม่อั้นอ้างว่า “เพื่อเสริมสภาพคล่องเพิ่มเงินหมุนเวียน”
ล่าสุดสหรัฐ มีเงินหมุนเวียนท่วมเฟ้อถึง 8.7 ล้านล้านดอลลาร์ แค่ 15 ปีพวกเขาพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นมากถึง 8.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 28 เท่า ใช้ซื้อสินค้าจริงชาติอื่น นี่คือหลักฐานว่าสหรัฐ เป็นนักล่าอาณานิคมสมัยใหม่ที่ปล้นสะดม
ช่วงนี้จะพบปรากฎการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มือซ้ายขึ้นอัตราดอกเบี้ยถี่รัวอุตลุดมาเป็น 5% และคาดว่าเขาจะขึ้นไปถึง 5.75% ในปีนี้อ้างว่าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
แต่ขณะเดียวกันมือขวาเขาแอบก็เติมเงินดอลลาร์ให้เฟ้อเข้าไปในระบบที่เรียกว่า Balance Sheets เพิ่มอีกราว 400,000 ล้านดอลลาร์ จึงมีคำถามว่าเขาเล่นกลพิลึกเพื่ออะไร
คำตอบคือ สร้างไวรัสเงินให้เกิดระบาดวิกฤติทุบทำลายธนาคารภูมิภาค และธนาคารเฉพาะราว 186 แห่ง ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ทะยานสูงจะทำให้พันธบัตรที่ธนาคารเหล่านั้นถือไว้ด้อยค่าลงมหาศาล จนขาดทุนหุ้นร่วง
ข้อมูล ณ วันที่ 15 มีนาคม 2566 ลูกค้าธนาคารภูมิภาคแห่ไปถอนเงินออกจากบัญชีรวม 120,000 ล้านดอลลาร์ จากนั้นย้ายไปฝาก ธนาคารใหญ่ Big Four จำนวน 67,000 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือไปลงทุนอย่างอื่น
ส่งผลให้ธนาคารภูมิภาค ที่สายป่านสั้นกว่า ถังแตก ขาดเงินหมุนสภาพคล่องจ่ายคืนลูกค้า ถูกบีบล้มละลายไปแล้ว 4 แห่ง โดยมีธนาคารใหญ่ Big Four เป็นพ่อพระมาช้อนซื้อฮุบกิจการ
ธนาคารที่เหลือกำลังตกเป็นเหยื่อ ต้องขอกู้ธนาคารใหญ่เฉลี่ยวันละ 116,100 ล้านดอลลาร์ และถอนเงินออกจากโครงการ Bank Term Funding Program ไปแล้ว 53,700 ล้านดอลลาร์
วิเคราะห์ว่าไวรัสการเงิน กำลังทำลายธนาคารภูมิภาคให้ล้มลง ดูดเงินฝาก และกิจการไหลไปควบรวมกับธนาคารใหญ่ Big Four ซึ่งเงินทุนของต่างชาติก็ลงไว้ก็จะระเหยถูกปล้นหายไปกับหุ้นธนาคารภูมิภาคด้วย
รวมถึงธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ , สหราชอาณาจักร ที่เซ้งกิจการไปแล้ว , ธนาคารสหภาพยุโรป และ ธนาคารเยอรมนี ที่กำลังร่อแร่เพิ่งขอกู้ฉุกเฉินธนาคารกลางสหรัฐ เหล่านี้คือผลของไวรัสเงิน อาฟเตอร์ช็อคยังระบาดมาไทยโดนไป 23 กองทุน
ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะดูดเงินทั้งโลกมาเป็นของตน แล้วประกาศจะใช้ระบบการชำระเงินแบบเร็ว Fed Now Realtime Payments ในวันที่ 1 เม.ย.2566 นี้
เร่งนำระบบเงินสกุลใหม่ CBDC ทดแทนดอลลาร์ เพื่อล้างหนี้สาธารณะ 31.63 ล้านล้านดอลลาร์เกินเพดาน และสภาคองเกรส จะถูกบีบให้โหวตอนุมัติขยายเพดานหนี้ขึ้นอีกแน่นอนภายใน มิ.ย.2566
