ซัดกันเดือดที่เมืองหลวงซีเรีย หลังซีเรียกลับสู่อ้อมอกมิตรประเทศอาหรับ ทำสหรัฐฯนั่งไม่ติด ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ท้าทายขาใหญ่อย่างเมกาที่ฐานทัพชายแดนซีเรียอิรัก ที่ตั้งฐานทัพปล้นน้ำมันซีเรียไม่เลิก
กลุ่มติดอาวุธไม่ระบุชื่อยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ใกล้แหล่งน้ำมันโคโนโคในซีเรียทำเมกาเต้นเพราะเป็นแหล่งผลประโยชน์สำคัญ สหรัฐฯแถลงทันทีจะตอบโต้ ขณะเดียวกันกลุ่มก่อการร้ายได้บุกเข้าไปในดินแดนที่รัฐบาลซีเรียควบคุมในอะเลปโป แต่ถูกโต้กลับสังหารดับ ๙ รายที่เหลือต้องถอยหนี ทหารซีเรียเสียชีวิต ๑ นายและบาดเจ็บอีก ๖ นายขณะสกัดกั้นการโจมตี
โอเลก กูรีนอฟ(Oleg Gurinov) รองหัวหน้าศูนย์รัสเซียเพื่อความสมานฉันท์ของฝ่ายตรงข้ามในซีเรีย เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “กลุ่มก่อการร้าย ฮายัต ตาห์รีร์ อัลชัม(Hayat Tahrir al-Sham) ซึ่งผิดกฎหมายในรัสเซีย พยายามบุกเข้าไปในดินแดนที่รัฐบาลซีเรียควบคุม ใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองอูรัม อัล -ซูกรา(Urum al-Sugra) ในเขตปกครองของเมืองอะเลปโป”
กองกำลังของรัฐบาลได้กำจัดกลุ่มติดอาวุธ ๙ คนของกองพันคาลิป อิบนัล อัลวาลิด (Khalib ibn al-Walid)สังกัดกลุ่มก่อการร้ายฮายัตฯ”
ด้านสหรัฐฯ ประกาศจะคุ้มครองบุคลากรของกองทัพหลังฐานทัพสหรัฐฯในซีเรีย ถูกโดรนโจมตี
จอห์น เคอร์บี(John Kirby) โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯแถลงข่าวทันที ว่า สหรัฐฯ จะปกป้องบุคลากรและสถานที่ของกองทัพหลังฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรียถูกโดรน ที่เชื่อว่าเป็นของกองกำลังนักรบนิยมอิหร่าน และมีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านโจมตีเมื่อวันที่ ๒๓ มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรสัญญาจ้างเสียชีวิต ๑ คน และทหารสหรัฐฯ ๔ นายได้รับบาดเจ็บ กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังนักรบนิยมอิหร่านทันทีเพื่อเป็นการตอบโต้
ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคุโชน สหรัฐฯปั้นกลุ่มก่อการร้ายหนุนกลุ่มต้านรัฐบาลซีเรียมานับสิบปี แต่ยังโค่นอัสซาดไม่ลง ประชาชนซีเรียเลือกเขามา ๔ รอบภายใต้การช่วยเหลือทางทหารของรัสเซียตามคำร้องขอของผู้นำซีเรีย วันนี้ซีเรียไม่โดดเดี่ยว ได้รับการต้อนรับจากประเทศเพื่อนบ้านอาหรับทะยอยกันมาทั้งอิหร่าน ยูเออีล่าสุดซาอุดีอาระเบียพี่ใหญ่กลุ่มอ่าวอาหรับที่เคยเป็นพันธมิตรชิดใกล้ของสหรัฐฯ วันนี้เลือกฝั่งมหาอำนาจโลกหลายขั้ว
วันที่ ๒๕ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซนิมนิวส์รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียและซีเรียจะเปิดสถานทูตอีกครั้งหลังจากเป็นศัตรูกันมานานกว่าทศวรรษ ตามรายงานจากสำนักข่าวหลายแห่ง การละลายที่อาจเกิดขึ้นเกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงครั้งสำคัญที่มีคนกลางคือจีนกำหนดเส้นทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน ซึ่งต่างเป็นคู่แข่งที่ขมขื่นที่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามในสงครามกลางเมืองของซีเรีย
ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมเปิดสถานเอกอัครราชทูตของตนอีกครั้ง หลังวันหยุดเทศกาลอีดของชาวมุสลิมในเดือนเมษายน รอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยอ้าง “แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับดามัสกัส”คนหนึ่ง บอกกับสื่อว่า ความก้าวหน้าเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาในซาอุดีอาระเบีย โดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซีเรียอาวุโส
แหล่งข่าวของซาอุดีอาระเบียดูเหมือนจะยืนยันข่าวดังกล่าวในคืนวันพฤหัสบดีเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศบอกกับทีวีของรัฐว่า“กำลังมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ในซีเรียเพื่อเริ่มเปิดให้บริการด้านกงสุล”
ซาอุดีอาระเบียปิดสถานทูตของตนในกรุงดามัสกัสและขับไล่ทูตซีเรียออกไปในปี ๒๕๕๕ เนื่องจากซาอุดีอาระเบียเข้าข้างกลุ่มติดอาวุธที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลของบาชาร์ อัสซาด ความขัดแย้งในซีเรียลากเส้นแบ่งผ่านตะวันออกกลาง อิหร่านและรัสเซียสนับสนุนอัสซาด ในขณะที่สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และรัฐอาหรับส่วนใหญ่สนับสนุนกองกำลังฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงนักรบญิฮาดสายแข็งที่พยายามบุกอะเล็ปโปไปพร้อมๆกับสหรัฐฯจะโจมตีทางอากาศ
ข่าวการละลายทางการทูตที่ชัดเจนมีขึ้นหลังจากซาอุดีอาระเบียและอิหร่านประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ว่าพวกเขาจะเปิดสถานทูตของตนอีกครั้งและให้คำมั่นว่าจะไม่แทรกแซงกิจการของกันและกัน หลังจากพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในกรุงปักกิ่ง แหล่งข่าวที่เชื่อมโยงกับซีเรียบอกกับสื่อว่าข้อตกลงนี้สร้าง”โมเมนตัม” ความเปลี่ยนแปลงด้านบวกสำหรับข้อตกลงระหว่างริยาดและดามัสกัส
ก่อนที่จะมีข้อตกลงกับจีน รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ในที่สุดซีเรียสามารถกลับไปสู่สันนิบาตอาหรับ ซึ่งถูกขับไล่ออกไปในปี ๒๕๕๔ นอกจากนี้ อัสซาดยังได้เดินทางไปยังโอมานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเดือนที่แล้ว การเดินทางไปต่างประเทศเพียงสองครั้งของเขาไปยังรัฐอาหรับตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ อาบูดาบีปรับความสัมพันธ์กับดามัสกัสให้เป็นปกติในปี ๒๕๖๑