จักรวรรดิล่มสลาย!! รมว.คลังสหรัฐฯโวยคองเกรส เพิ่มเพดานก่อนผิดนัดชำระหนี้ ซัดหมดเครดิตเศรษฐกิจหายนะ

0

Fed ยังคงแสบสันต์ยืนยันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังไม่มีสัญญาณหยุด รวมแล้วเท่ากับเมกาปรับดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ ๑๗ ปี ทั้งๆที่ระบบธนาคารและการเงินของเมกาส่อแววเจ๊งเป็นโดมิโน กูรูมะกันดาหน้ากันออกมาเตือนแรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เฟดก็เมิน ดูเหมือนว่านักลงทุนมะกันจะว่านอนสอนง่ายเฟดว่าไงก็เชื่อส่งให้หุ้นเด้งคืนเล็กน้อยตอบรับ

ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนั้น เกิดจากความต้องการลดอัตราเงินเฟ้อ หน่วยงานกำกับดูแลกำลังพยายามทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ ๒% โดยปกติวิธีการเพิ่มอัตราสำคัญจะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงเนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจลดลง หากไม่มีการสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐ การกู้เงินย่อมมีต้นทุนสูง สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อ GDP การกู้ยืมเงินในอัตราที่สูงกว่า๕% ถือเป็นภาระอย่างมาก เนื่องจากสำหรับธุรกิจขนาดเล็กผลกำไรต่อปีไม่เกิน ๗%

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักในสหรัฐฯต่อเนื่องไม่หยุด จะนำไปสู่การปิดธุรกิจขนาดเล็กอย่างน้อย ๑๕% ธนาคารขนาดเล็กและกลางในสหรัฐฯจะล้มละลายอีกกว่า ๕๐ แห่ง 

วันที่ ๒๔ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า เจเน็ต เยลเลน(Janet Yellen) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในการชี้แจงในรัฐสภาว่า “หายนะทางเศรษฐกิจและการเงินกำลังรอคอยสหรัฐฯ หากสภาคองเกรสไม่เห็นด้วยที่จะเพิ่มเพดานหนี้ขึ้นไปอีก”

เยเลนโอดครวญว่า “การไม่เพิ่มเพดานหนี้จะนำไปสู่หายนะทางเศรษฐกิจและการเงิน” “นี่อาจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๑๗๘๙ ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้” 

เธอยังเสริมด้วยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่การสูญเสียความเชื่อมั่นต่อสหรัฐฯในฐานะประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด เยลเลนย้ำว่า “สกุลเงินของเราถูกใช้เป็นสกุลเงินสำรองของโลก การไม่เพิ่มเพดานหนี้ของประเทศจะนำมาซึ่งความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างไม่น่าเชื่อ” 

เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับหายนะหลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่หยุด โดยFed และกระทรวงการคลังปฏิเสธการประกันเงินฝากเต็มรูปแบบ สถานการณ์แบบนี้ บิลล์ แอ็คแมน (Bill Ackman) นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีสหรัฐได้เตือนอย่างจริงจัง

แอ็คแมนกล่าวว่า “เมื่อรวมกับต้นทุนหนี้และเงินฝากที่สูงขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ให้พิจารณาว่าผลกระทบจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเศรษฐกิจของเราอย่างไร” “ยิ่งปล่อยให้วิกฤตการธนาคารนี้ดำเนินต่อไปนานเท่าไร ความเสียหายต่อธนาคารขนาดเล็กและความสามารถในการเข้าถึงเงินทุนต้นทุนต่ำก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”

เขากล่าวย้ำว่า “ความไว้ใจและความมั่นใจนั้นสั่งสมมาเป็นเวลาหลายปี สามารถลบล้างได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ฉันเกรงว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นเพียงซากขบวนรถไฟทางเศรษฐกิจที่ชนกันแหลก คิดว่าหน่วยงานกำกับดูแลของเราจะได้รับสิทธิ์นี้ในอีกไม่ช้า หากยังดื้อ”

แอคแมนยังตำหนิรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลนที่ปฏิเสธเข้าอุ้มผู้ฝากเงิน เยลเลน ให้ความเห็นอย่างมั่นใจในการปกป้องธนาคารในภูมิภาค แต่เธอไม่ได้พิจารณาหรือหารือเกี่ยวกับ”การประกันแบบครอบคลุม”สำหรับเงินฝากธนาคารของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวิธีการระงับการคุกคามของการล้มละลายภาคธนาคารต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ

รัฐบาลตะวันตกและธนาคารกลางพยายามที่จะป้องกันความล้มเหลวของธนาคารหลังจากการล่มสลายอย่างกะทันหันของธนาคาร Silicon Valley และ Signature Bank ในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นเดือนนี้ ความวุ่นวายยังกระทบต่อธนาคารยักษ์ใหญ่ของสวิสอย่าง Credit Suisse ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย UBS คู่แข่งในข้อตกลงที่รัฐบาลเป็นนายหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเงินของตะวันตกและป้องกันวิกฤตโลก 

การแก้ปัญหาแบบแปะหน้าไม่อาจซ่อนเร้น ความล้มเหลวในการบริหารงานของธนาคารทั้งระบบ เพราะฝากความมั่นคงไว้กับพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้ด้อยค่าลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วิกฤติคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ผลร้ายย้อนกลับสหรัฐและยุโรปเอง วันนี้การขาดทุนของธนาคารโหมกระหน่ำไปที่รายกลางและรายเล็ก เสมือนถูกกินโดยธนาคารขนาดใหญ่ โดยโยนภาระค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบนี้ให้ประชาชนเป็นผู้จ่าย เพราะเมื่อธนาคารล่มผู้ฝากจะไม่สามารถถอนเงินคืนได้เต็มจำนวนที่ฝาก เมื่อป่วยหนักรัฐมาอุ้มก็ต้องเอาเงินภาษีที่เก็บจากประชาชนมาแบกรับความล้มเหลวและแผนการรีเซ็ตระบบใหม่เพื่อล้างหนี้

ต้องจับตากันต่อไปว่า สหรัฐฯจะมาไม้ไหนต่อ ที่หวังจะชูดอลลาร์ดิจิทัลแทนเงินกระดาษจะทำได้ทันกับการล่มสลายอย่างรุนแรงของธนาคารทั้งระบบได้หรือไม่ วันนี้ทั้งรัสเซียและจีนประกาศก้าวไปอีกขั้นแล้วหลังพบกันที่มอสโกว์เมื่อต้นสัปดาห์ว่า ต่อไปการค้าของรัสเซีย-จีนและพันธมิตรจะยกระดับขึ้นสู่หยวนดิจิทัลและรูเบิลดิจิทัล!!