สงครามตัวแทนกำลังก้าวเข้าสู่ความตึงเครียดอีกระดับหนึ่งเมื่อฝ่ายสนับสนุนเคียฟโดยเฉพาะแกนหลักนาโต้อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส โปแลนด์และเยอรมนีเร่งส่งรถถังและกระสุนให้ยูเครนอย่างคึกคัก หวังทุบรัสเซียให้ได้ตามวาระวอชิงตัน สภาพของกองทัพระหว่างรัสเซียและยูเครนต่างกันอย่างฟ้ากับเหว
ทางด้านรัสเซียล่าสุดกลาโหมรัสเซียมอบรางวัลนักบิน Su-27 ที่สกัดโดรนสอดแนมสหรัฐฯขณะที่ ผู้บังคับกองพันของกองพลจู่โจมทางอากาศที่ 46 อนาโตลี โคเซล(Anatolii Kozel) ถูกกองทัพยูเครนปลดและย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมแทน ตามการเปิดเผยของโฆษกกองกำลังจู่โจมทางอากาศของยูเครน ฐานพูดความจริงเรื่องบัคมุตกำลังจะแตก ทหารอพยพหนีจากพื้นที่สู้รบและ การส่งกำลังเสริมล้มเหลว ทางการเคียฟอ้างพูดเกินจริงและผิดกฎเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับสื่อ
ในช่วงเวลาเดียวกัน นักรบวาร์กเนอร์ พากันอวดเหรียญรางวัลของ NATO และ UN เก็บเข้าคอเล็คชั่นทีมงาน Wagner PMC จากทหารต่างชาติที่เสียชีวิตใน Bakhmut บ่งบอกว่านักรบของรัสเซียกำลังลุยอยู่กับกองกำลังนาโต้อย่างชัดเจน
อีกภาพหนึ่งในเทเลแกรมทหารรัสเซียรับ Javelin ที่ทหารยูเครนทิ้งไว้เข้าประจำการและสัญญาว่าจะใช้ให้ดีที่สุด เจ็บจี๊ดเมกา-นาโต้ อาวุธนี้มีราคาอย่างน้อย ๑๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์ ตอนนี้กองทัพรัสเซียจะใช้มันแทนทหารยูเครนเอง!
ข่าวที่สื่อหลักทั้งหลายพาดหัวว่ารัสเซียถล่มอพาร์ตเม้นพลเรือนใน Zaporozhye ด้วยจรวดเพื่อแสดงพลังหลังสี จิ้นผิงกลับ เซเลนสกี้และพวกรีบออกมาป่าวร้องว่ารัสเซียโหดถล่มพลเรือนอีก
ทางด้านโวโลดิเมียร์ โรกอฟ (Volodymyr Rogov) ประธานขบวนการ We Are With Russia และผู้บริหารเมือ(Zaporozhye) ในพื้นที่ควบคุมของรัสเซีย รวมทั้ง บอริส โรชิน(Boris Rozhin) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร ต่างออกมาตอบโต้ทันทีว่า นี่คือ S-300 ของยูเครนเองต่างหาก เขาย้ำว่า”จริงๆแล้วมันคือขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของยูเครน”ยูเครนมักจะวางระบบป้องกันภัยทางอากาศใกล้กับอาคารพลเรือน” จุดสังเกตุชาวเน็ตคือ ภาพที่นำมาเผยแพร่ดูเหมือนจงใจอย่างรู้ว่า จรวดจะตกที่จุดไหน ตามนิสัยของยูเครนที่ยิ่งแพ้ในสนามรบ ก็ยิ่งเป่าข่าวในโซเชียลจนไม่รู้ไหนจริงไหนเท็จ
ขณะที่นาโต้กำลังจะส่งกระสุนยูเรเนียมหมดอาวุธให้เคียฟ ทางรัสเซียเตรียมยกระดับแนวป้องกันอย่างคึกคัก
วันที่ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า กองทัพรัสเซียเตรียมยกเครื่องระบบป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธของมอสโกให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า เมืองหลวงของรัสเซียได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจากการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นเหมือนในยุคโซเวียต
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในการประชุมระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างทางทหาร ชอยกูให้รายละเอียดว่า “การอัพเกรดจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของกองกำลังที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องเมือง รวมถึงการจัดตั้งกองทหารใหม่ที่ติดอาวุธ S-350 วิตยาซ(Vityaz) ต่อต้านระบบขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง”
รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวเสริมว่า “ระบบราชยาซกา (Razvyazka) จะถูกนำไปใช้งาน โดยอ้างอิงจากโครงการปรับปรุงสถานีเรดาร์ภาคพื้นดิน ที่ดำเนินมายาวนานนับทศวรรษในเขตมอสโกว์ให้ทันสมัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสถาปัตยกรรมการควบคุมอวกาศทางทหารของรัสเซีย”
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการอัพเกรดมีเสาอากาศส่งสัญญาณขนาด ๑๕ x ๑๐๐ เมตรและเสาอากาศรับสัญญาณขนาด ๕๐ x ๑๐๐ เมตรซึ่งอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร เชี่ยวชาญในการติดตามยานอวกาศขนาดเล็ก เช่น ดาวเทียมคิวบ์แซต (CubeSat) และได้รับการออกแบบโดยบริษัทในเครือของอัลมาซ-แอนเตย์ (Almaz-Antey) ผู้ผลิตด้านกลาโหม ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเชื่อว่ายังให้ข้อมูลการกำหนดเป้าหมายสำหรับระบบต่อต้านดาวเทียมและระบบต่อต้านขีปนาวุธขั้นสูงของรัสเซีย
ผู้นำโซเวียตเลือกมอสโกว์เป็นสถานที่สำหรับป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธ (ABM) กับสหรัฐฯ ในปี ๒๕๑๕ เอกสารดังกล่าวห้ามไม่ให้ทั้งสองประเทศติดตั้งระบบ ABM โดยมองว่าเป็นการทำให้เสื่อมเสียทั้งสหรัฐฯ และ การยับยั้งนิวเคลียร์ของโซเวียต แต่อนุญาตให้มีข้อยกเว้นเดียวสำหรับแต่ละฝ่ายในกรณีฉุกเฉิน
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงในปี ๒๕๔๕ โดยอ้างว่าประเทศของเขาต้องการระบบ ABM ระดับชาติเพื่อป้องกันอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งวอชิงตันตราหน้าว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญ
มอสโกว์อธิบายว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นก้าวแรกในนโยบายอันยาวนานของวอชิงตันในการรื้อความสมดุลทางยุทธศาสตร์ทางทหาร โดยประนีประนอมผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียในกระบวนการนี้แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิย.ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่าอาวุธต่อต้านอากาศยานและต่อต้านขีปนาวุธที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียได้ส่งมอบให้กับกองทัพแล้ว ปูตินระบุว่าระบบขีปนาวุธพิสัยไกล S-500 ซึ่งออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นอากาศยานและขีปนาวุธ และอาจมีความสามารถในการต่อต้านดาวเทียม นั้นไม่มีระบบใดในโลกที่เท่าเทียม การติดตั้งระบบ ABM เพิ่มจึงเป็นการเตียมรับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ เมื่อเมกา-นาโต้จนมุม!!??
