อดีตเจ้าอาณานิคมเละ!! ฝรั่งเศสแหลกยับ ชุมนุมกว่า ๑ ล้านปะทะวุ่นยกระดับเดือดทั่วปท. หมายหัวมาครงไม่ออกมีเผา

0

ความไม่สงบรุนแรงยังคงดำเนินต่อไปทั่วประเทศ หลังจากฝ่ายนิติบัญญัติล้มเหลวในการขับไล่มาครงและทีมรัฐบาลจากร่างกฎหมายที่มีการต่อต้านกันอย่างหนัก

วันที่ ๒๒ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจของรัฐสภาถึง ๒ ครั้ง ต่อการตัดสินใจของปธน.เอ็มมานูเอล มาครง ที่ผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปเงินบำนาญ กลายเป็นข้อขัดแย้งหนักโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากส.ส. การเคลื่อนไหวที่ล้มเหลวในสภาฯเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาจึงตามมาด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน

ญัตติไม่ไว้วางใจครั้งแรกซึ่งจัดโดยส.ส.ฝ่ายค้านกลุ่มเล็กๆ ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างมากในสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งครอบงำโดยกลุ่มพันธมิตรสายกลางของมาครง ญัตติลดลงเพียงเก้าเสียงจากทั้งหมด ๒๘๗ เสียงที่ต้องผ่าน ญัตติที่สองซึ่งเสนอโดยพรรค National Rally ฝ่ายขวา ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภานิติบัญญัติเพียง ๙๔ คน

แม้จะไม่ผ่านญัตติ แต่ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกอยู่ดี มาธิลด ปาโน ส.ส.ฝ่ายซ้ายกล่าวหลังการลงคะแนนว่า“มันไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป” “รัฐบาลตายไปแล้วในสายตาของชาวฝรั่งเศส” 

จากการลงมติไม่ไว้วางใจ สหภาพแรงงานตำรวจชั้นนำของฝรั่งเศส SGP Police FO เตือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบที่กำลังดำเนินอยู่ได้  เขากล่าวย้ำว่า“เราเริ่มหมดหนทางในฝั่งตำรวจแล้ว” พร้อมคร่ำครวญถึงสิ่งที่เรียกว่า“การกระทำชกต่อย”ของผู้ประท้วงต่อตำรวจในที่ชุมนุม การปิดกั้นถนนกะทันหัน และก่อให้เกิดการหยุดชะงักในเส้นทางคมนาคมอื่นๆมีแต่แพร่ขยายคุมไม่ไหวแล้ว

เห็นได้ชัดว่าการประท้วงมีภาพความวุ่นวายต่างๆ ปรากฏขึ้นในชั่วข้ามคืน วิดีโอหลายรายการในสื่อโซเชียลจากกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส แสดงเครื่องกีดขวางที่สร้างขึ้นตามท้องถนน โดยมีวัตถุหลายอย่างถูกจุดไฟเผา

มีภาพตำรวจเข้าจู่โจมฝูงชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุบตีผู้ประท้วงแต่ละคน โดยไม่ได้พยายามควบคุมตัวพวกเขา เพราะการประท้วงที่ต่อเนื่องยาวนาน อารมณ์ระหว่างผํู้เผชิญหน้าก็เขม็งเกลียวมากขึ้นและมากขึ้น

โดยสหภาพแรงงานเรียกร้องให้มีการ “ระดมพลสูงสุด”และ“นัดหยุดงานทั่วประเทศ”ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาครงเลือกที่จะผลักดันร่างกฎหมายที่ถกเถียงกันมานาน โดยเพิ่มอายุเกษียณในฝรั่งเศสจาก ๖๒ เป็น ๖๔ ปี โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแต่จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องทั่วฝรั่งเศส โดยการประท้วงรุนแรงที่โหมกระหน่ำเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ขณะที่สหภาพแรงงานได้แสดงท่าทีคัดค้านมาตรการที่เสนอ

ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภารัฐธรรมนูญก่อนที่จะสามารถลงนามเป็นกฎหมายได้ แม้ว่าองค์กรมีอำนาจที่จะยกเลิกบางมาตราในร่างกฎหมาย หากเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่สภาก็ไม่ทำ

ล่าสุดชาวฝรั่งเศสกว่า ๘๕๕ คนถูกจับแล้วในการประท้วงยังไม่มีแนวโน้มว่า รัฐบาลมาครงจะหยุดคลื่นต่อต้านนี้ได้นานแค่ไหนโดยไม่มีจลาจลขนานใหญ่ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอย

เจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส(French Interior Minister Gerald Darmanin) แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “ตั้งแต่วันพฤหัสบดี มีคน ๘๕๕ คนถูกควบคุมตัวทั่วฝรั่งเศส มี ๗๒๙ คนอยู่ในปารีส” 

ก่อนหน้านี้ ตำรวจปราบจลาจลใช้แก๊สน้ำตากับผู้ประท้วงที่โรงกลั่นน้ำมันในเมืองฟอส-ซูร์-แมร์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ขณะที่พวกเขาพยายามปิดกั้นการเข้าถึงคลังน้ำมัน สื่อท้องถิ่นรายงานว่าผู้ประท้วงรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนพวกที่ถูกบังคับให้ทำงาน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๓ นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน

ตำรวจยังใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมหัวรุนแรงที่รวมตัวกันที่เพลสเดอเดลารีพับลิค (Place de la Republique) ในกรุงปารีส หลังจากที่พวกเขาเริ่มขว้างปาประทัดและขวดแก้วใส่เจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเพิ่มอายุเกษียณจาก ๖๒ ปีเป็น ๖๔ ปีโดยไม่ต้องใช้การลงคะแนนเสียงในรัฐสภา ซึ่งทำให้เกิดมาตรา ๔๙.๓ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลออกกฎหมายโดยไม่ต้องลงมติจากรัฐสภา ทำประชาชนโกรธเกรี้ยวหนักขึ้น

มีการนัดหยุดงานทั่วประเทศ ๘ ครั้งและการเดินขบวนหลายร้อยครั้งในฝรั่งเศสในช่วง ๒ เดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า ๑ ล้านคน ระหว่างการประท้วง เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงบ่อยครั้ง

การเดินขบวนทั่วประเทศครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นในฝรั่งเศสในวันที่ ๒๓ มีนาคม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๑๒,๐๐๐ นายเข้าร่วม โดย ๕,๐๐ นายในปารีส รัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บแล้วกว่า ๓๐๐ นายในช่วงสองเดือนของการประท้วงต่อต้านการปฏิรูประบบบำนาญชาติ!!