ไม่น่ารอด!! เนทันยาฮูเก้าอี้สั่น ตุรกีโวยหยุดโจมตีปาเลสไตน์ในเดือนถือศีลอด เมกาหนุนฝ่ายต้าน กี้ว๊ากส่งเงินอาวุธช้า

0

ในภาวะจลาจลจ่อสงครามกลางเมืองในอิสราเอล บัลลังก์ผู้นำอิสราเอลของเนทันยาฮู มีสภาพสั่นคลอนหนัก หลังผู้สนับสนุนหลักอย่างสหรัฐฯเบือนหน้าหนีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มิหนำซ้ำพันธมิตรที่เคยใกล้ชิดอย่างตุรกีก็มีท่าทีแข็งกร้าวซ้ำเติมอีก  ที่แย่หนักคือ อุตส่าห์หันไปเอาใจเมกา โดยสัญญากับเซเลนสกี้ว่าจะส่งเงินช่วยด้านมนุษยธรรม และจะส่งระบบต่อต้านอากาศยานให้ จนป่านนี้ยังไม่คืบหน้า โดนเซเลนสกี้จิกซะไม่รู้ใครกันแน่ที่ใหญ่คับฟ้า

วันที่ ๒๒ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวเดลีซาบา รายงานว่า ประธานาธิบดีตุรกี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับไอแซค เฮอร์ซ็อก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีอิสราเอล  เรียกร้องให้ยุติการโจมตีในดินแดนยึดครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ในเขตเวสต์แบงก์ แต่ไม่ยักกะโทร.หาเนทันยาฮูนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

ในการโทรศัพท์ครั้งนี้เออร์โดอัน แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มการโจมตีและการกระทำรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ ขอให้ประธานาธิบดีอิสราเอลกล่อมให้รัฐบาลหยุดการยั่วยุและคุกคามสถานที่ทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของมัสยิดอัลอักซอด้วย(Al-Aqsa mosque) 

อิสราเอลได้กำหนดข้อจำกัดไม่ให้ชายชาวปาเลสไตน์จากเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง เข้าไปในมัสยิดอัล-อักซอเพื่อละหมาดวันศุกร์ในช่วงเดือนรอมฎอนอันเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ถือศีลอดของอิสลาม ชายชาวปาเลสไตน์อายุระหว่าง ๑๒ ถึง ๕๕ ปีถูกห้ามเข้ามัสยิด

ตามรายงานระบุว่าผู้นำทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอังการาและเทลอาวีฟระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ และเออร์โดอันยังคงเน้นย้ำถึงความตั้งใจของตุรกีในการกระชับความสัมพันธ์กับอิสราเอล คือบอกว่ายังเป็นพวกเดียวกันอยู่

ในฐานะสองพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับอิสราเอลเป็นไปด้วยดัจนถึงช่วงปลายทศวรรษที่ ๑๙๙๐ แต่หลังจากการก่อตั้งรัฐบาลของเออร์โดอันในตุรกี และรัฐบาลอิสราเอลนำโดยนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง ทั้งสองฝ่ายประสบวิกฤตและความตึงเครียดตลอดมา

นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสื่อเอ็กเซียส(Axios)ว่า ยูเครนได้ เรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเครนเข้าชี้แจงเนื่องจากเทลอาวีฟไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่จะช่วยเหลือยูเครน

ไมเคิล บรอดสกี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกรุงเคียฟถูกเรียกตัวไปยังกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน เพื่อแจ้งข้อทักท้วงของยูเครนเกี่ยวกับการขาดความคืบหน้า ในการปฏิบัติตามข้อตกลงที่บรรลุระหว่างการเยือนของ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลไปยังเมืองหลวงของยูเครน

รายงานระบุว่าในการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายยูเครนแสดงความไม่พอใจที่ไม่มีความคืบหน้าในข้อตกลงเกี่ยวกับการรับเงินกู้จำนวน ๒๐๐ ล้านดอลลาร์จากอิสราเอล จนถึงขณะนี้ 

รัฐบาลเนทันยาฮูเคยปฏิเสธที่จะจัดหาอาวุธและระบบป้องกันให้แก่ยูเครน เนื่องจากกลัวว่าจะสร้างความขัดแย้งกับรัสเซียซึ่งมีฐานทัพอยู่ในซีเรีย แต่เมื่อเกิดวิกฤตจลาจลกลางเมือง และเนทันยาฮูออกมาพูดเองว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ เลยกลับลำไปรับปากกับยูเครนว่าจะส่งระบบต้านอากาศยานให้แต่ไม่ได้ระบุวัน อาการเดียวกับประเทศทางยุโรปซึ่งให้สัมภาษณ์อย่างแข็งขันว่าจะส่งอาวุธให้เคียฟเท่านั้นเท่านี้ แต่ส่วนใหญ่มีเงื่อนไขทั้งนั้น กำลังผลิตบ้าง อาจต้องใช้เวลานานบ้าง ที่ส่งให้ก็เป็นอาวุธเก่าที่โละมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง อะไรประมาณนั้น

สำหรับประเทศผู้เอาการเอางานส่งอาวุธหนักให้ยูเครนอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนีอยู่ในลิสต์ศัตรูของรัสเซียเรียบร้อยแล้ว เพราะเปิดหน้าเล่นทั้งส่งเงินอาวุธฝึกทหารเคึยฟ ส่งทหารร่วมรบ สำหรับอิสราเอล จุดแตกหักกับรัสเซียน่าจะเป็นที่ซีเรีย ซึ่งเทลอาวีฟก็ส่งบินรบไปทิ้งชายแดนบ่อยๆ

กรณีปาเลสไตน์เป็นเรื่องสุดคาดเมื่อสหรัฐฯออกมาปรามอิสราเอลเรื่องร่างกฎหมายเปิดทางคนอิสราเอลตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตเวสแบงก์เพิ่ม

รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลอย่างมากหลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของอิสราเอล ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้คนอิสราเอลสร้างการตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง โดยเตือนว่ามาตรการดังกล่าวจะเอื้อต่อการโจรกรรมที่ดินของชาวปาเลสไตน์เพิ่ม อันที่จริงก็ปล่อยให้ทำมานานจนปาเลสไตน์เกือบจะหายไปจากแผนที่โลกแล้ว เพิ่งมาท้วงย่อมมีวาระซ่อนเร้นที่ยังไม่แจ้งชัด ที่แน่ๆคือไม่ปลื้มรัฐบาลเนทันยาฮู

โฆษกของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์กล่าวว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเป็น“การละเมิดมติความชอบธรรมระหว่างประเทศ”เช่นเดียวกับมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติปี ๒๕๕๙ ซึ่งพบว่าการตั้งถิ่นฐาน“ไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย” สถานการณ์แบบนี้บ่งบอกว่าสหประชาชาติไม่มีน้ำยาที่จะบังคับอะไรอิสราเอลทำได้แค่ท้วงติง

โฆษกย้ำว่า “อิสราเอลยืนหยัดที่จะท้าทายกฎหมายระหว่างประเทศและทำงานเพื่อก่อวินาศกรรมความพยายามระหว่างประเทศ ที่พยายามลดระดับสถานการณ์และลดความตึงเครียดในพื้นที่” พร้อมเรียกร้องให้วอชิงตันกดดันพันธมิตรของตนและบังคับให้หยุดมาตรการฝ่ายเดียวทั้งหมดที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและ ข้อตกลงที่ลงนามทั้งหมด”!!