จากที่ธนาคารใหญ่สุดของสวิสฯเข้าซื้อกิจการแบงก์ที่ทำท่าจะล้มละลาย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า เงินที่นำมาเพื่อจ่ายคืนให้นักลงทุนก็ดูเหมือนมีไม่เพียงพอ ทั้งยังมีเหตุการณ์ที่ยังไม่จบในสหรัฐกับวิกฤตธนาคารล้มละลายล่าสุด???
ทั้งนี้ Blockdit World Update ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์ในสหรัฐ ต่อเนื่องธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ลุกลามบานปลายขึ้นต่อเนื่อง โดยข้อความนี้ได้เผยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ซึ่งระบุเนื้อหาว่า
“จบข่าวร้ายไหม..คำตอบคือ ยัง ธนาคาร First Republic สหรัฐ ที่เคยร่อแร่ ขอกระทรวงการคลังสหรัฐ และกลุ่มทุนวอลล์สตรีทธนาคาร 11 แห่ง ให้คำมั่นว่าจะมายืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว
ปล่อยกู้ และฝากเงินเข้าไปมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ บัดหนี้เงินที่ใส่ถมไปแค่ไม่กี่วัน เป็นฝุ่นจางๆโดนระดมถอนเงินจนขาดสภาพคล่องอีกร่อแร่ รอเงินใหม่มาถมอีก
วิเคราะห์ว่า..ข่าวร้ายวงการเงินการธนาคาร เพิ่งเริ่ม เพราะขณะนี้คนอเมริกัน ต่างระดมถอนเงินจากธนาคารที่ไม่มีประกันเงินฝาก ที่มีมูลค่ากว่า 80% ของเงินฝากทั้งหมด
นั่นหมายความว่าจะมีธนาคารสหรัฐ อีกราว 186 แห่ง จะเป็นฝุ่น เพราะต้นเหตุ พันธบัตรสหรัฐ และเงินดอลลาร์ ที่ขาดความน่าเชื่อถือ เป็น เชื้อโรคไวรัสวิกฤติความเชื่อมั่น ที่ลุกลามไปทั่วตลาดการเงินทั่วโลก
ผลจากการถือสินทรัพย์การเงินเจ้าปัญหาของสหรัฐ นี้ไว้ก่อให้เกิดการระบาดผลกระทบที่ยุ่งเหยิงแพร่กระจายไปทั่วภาคการธนาคารทั้งหมด ทำลายความเชื่อมั่นของตลาดและกระตุ้นความหวาดกลัวต่อวิกฤตการธนาคารทั่วโลก
ความรู้สึกของซาอุฯ , การ์ตา ในตอนนี้จะเหมือนกับผู้ถือหุ้น และฝากเงินกับธนาคารสหรัฐ ยุโรป ทุกคนที่เงิน กลายเป็นฝุ่นคือรู้สึกโกรธอย่างที่สุด ที่ชาติตะวันตกทำให้สถานการณ์บานปลายมาถึงจุดนี้
ธนาคารซาอุฯ และอ่าวอาหรับ จะต้องประเมินวิธีการลงทุนในธนาคารสหรัฐ และยุโรป ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะธนาคารใหญ่หุ้นสัดส่วนการถือหุ้นมาก ว่าจะขายหุ้นเทกระจาดหรือต้องส่งคนของตนไปควบคุมบริหารกิจการ
ให้จับตา ธนาคาร และกระทรวงการคลัง ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่ถือสินทรัพย์ผันผวน คือ พันธบัตรสหรัฐ หรือสหภาพยุโรป , หุ้นธนาคารสหรัฐ หรือยุโรป เพราะขณะนี้ เชื้อโรคติดต่อการเงิน เข้าไปอยู่ในตู้เซฟองค์กรเขาเหล่านั้นแล้ว
มันจะกัดเซาะบ่อนทำลายจนเน่าจากภายในตู้เซฟ เพราะเจ้าของตู้เชื่อตำราตะวันตก จึงประมาทเหมือนธนาคาร และสถาบันการเงินใหญ่ทั้ง 7 แห่งที่ล้มครืนเป็นฝุ่นไปแล้ว
ยิ่งธนาคารกลางสหรัฐ แอบทำ QE พิมพ์เงินเพิ่ม 300,000 ล้านดอลลาร์ แล้วจะทำ QE ซ้ำรัวพิมพ์เงินเพิ่มอีก 2 ล้านล้านดอลลาร์ ความเชื่อมั่นจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
จะทำลายโครงสร้างทางการเงิน และทุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัดจะทำให้ผู้คนหยุดชะงักไปหมด เมื่อบรรดาชาติที่เคยลงทุนเปิดตู้เซฟที่บรรจุพันธบัตร และหุ้นธนาคารตะวันตก ก็จะพบว่า มันกลายเป็นฝุ่นถูก Set zero ไปเรียบร้อยแล้วแน่นอน