สหรัฐฯเจอศึกรอบด้าน! เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน คุ้มกันส.ส หลังทรัมป์ เรียกระดมพล หวั่นซ้ำรอยปฏิวัติปี 2020
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าเขาจะถูกจับกุมและดำเนินคดี โดยทรัมป์โพสต์ข้อความ เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเขาออกมาประท้วงเพื่อต่อต้านการจับกุม แม้ทรัมป์จะไม่ได้บอกว่าใครจะจับกุมและในข้อหาอะไร แค่คนก็คาดเดาว่าเป็นคดีที่เขาจ่ายเงินให้กับนักแสดงภาพยนต์ผู้ใหญ่รายหนึ่งเพื่อไม่ให้เธอเปิดเผยสัมพันธ์ลับระหว่างเขากับนักแสดงคนดังกล่าว ในวันที่คาดว่าจะมีหมายจับกุมออกมา ทำเนียบขาวได้มีการเตรียมพร้อมรับมือความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น
ต่อมาทาง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่สหรัฐ เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน จากเหตุที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศระดมพล โดยบอกว่า ปี 2016 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต่อมาโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพลับลิกัน แนวอนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้ง เขาถูกพรรคเดโมแครตของโจ ไบเดน กล่าวหาว่า
จ่ายเงินให้แก่ สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหญิงหนังวาบหวิว จำนวน 130,000 ดอลลาร์ เป็นค่าซื้อบริการ ผ่าน ไมเคิล โคห์น อดีตทนายความส่วนตัว แต่สังคมก็ไม่ค่อยสนใจเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เงินส่วนตัว และเกิดก่อนรับตำแหน่งผู้นำประเทศ
ปี 2022 พรรครีพลับพลิกัน ชนะเลือกตั้ง ส.ส.กลางเทอมได้เสียงข้างมากในสภา ทำให้พรรคเดโมแครต ต้องการยัดคดีอาญาใส่ทรัมป์ ที่ประกาศลงชิงตำแหน่งผู้นำในการเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า 2024 จึงไอเดียบรรเจิด กระทรวงยุติธรรมออกหมายค้นเองต่อบ้านทรัมป์ และอ้างครึกโครมว่า “เป็นเอกสารลับ” ต้องติดคุกสถานเดียว ห้ามลงสมัครเลือกตั้ง
ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน สำนักงาน ประธานาธิปดีโจ ไบเดน พบเอกสารลับเต็มโรงรถ และสำนักงาน โจ่งครึ่มหนักกว่าทรัมป์ ทำให้ไบเดน สั่งเลิกขุดเรื่องเอกสารลับทรัมป์ เพราะย้อนศรเข้าตัวเองด้วย จึงต้องคิดหาวิธีเล่นงานทรัมป์ใหม่ นึกมาได้ว่าทรัมป์ เคยมีเรื่องอื้อฉาวส่วนตัวซื้อบริการพิเศษกับหญิง พรรครัฐบาลไบเดน จึงผลักดันเรื่อง “ส่วนตัว” ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ สำคัญกว่าทำสงครามกับรัสเซีย , เกาหลีเหนือ , จีน , อิหร่าน
หันมาทำสงครามกับ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ง่ายกว่า โดยอัยการเขตแมนฮัตตันกำลังพิจารณา จะตั้งข้อหาเขากรณีจ่ายเงินซื้อบริการนักแสดงหญิงหนังวาบหวิว โดยคณะลูกขุนใหญ่จะตัดสินว่า มีหลักฐานเพียงพอจะตั้งข้อหาทรัมป์หรือไม่ แต่ทรัมป์ได้ปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่เคยมีสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 8 ปีแล้ว
หลักฐานจะเหลือแค่บุคคลบอกเล่าปากเปล่า เพราะฝ่ายหญิงก็ทำอาชีพของเธอซึ่งในสหรัฐ อาชีพแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร วันที่ 18 มี.ค.2023 ที่ผ่านมา ทรัมป์ โพสโซเชียล คาดว่าตัวเองจะถูกจับกุม เขาประกาศระดมมวลชนผู้สนับสนุนทั่วประเทศออกมา “ก่อม็อบ เอาประเทศของเรากลับมา” เค้าลางการจราจลรุนแรง
เมื่อมวลชนไปชุมนุมกันที่บ้านพักตากอากาศของทรัมป์มาร์-อะ-ลาร์ ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ถูกรัฐบาลระดมทำคดีนี้ ตรวจพบถ้อยคำข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายเพิ่มขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ต
รวมถึงการเรียกร้องให้ผู้ประท้วงติดอาวุธขัดขวางเจ้าหน้าที่ และพยายามหยุดการจับกุมที่อาจเกิดขึ้น และมีมือดีปั่นกระแสตัดต่อภาพทรัมป์ถูกตำรวจจับ แต่ไม่มีเหตุแบบนั้นจริง
รัฐบาลสหรัฐฯ ระดมกำลังตำรวจเพิ่มในหลายเมืองใหญ่ เช่น เมืองหลวง กรุงวอชิงตันดีซี , นครนิวยอร์ก และนครลอสแองเจลิส เตรียมพร้อมรับเหตุจราจล กำลังตำรวจ จำนวนมากยกไปปิดล้อมที่ด้านนอกอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจราจล ควบคุมพลเรือนเตรียมพร้อมทุ่มเต็มอัตราศึกปานสถานการณ์สงคราม
ในนครนิวยอร์ก ตำรวจตั้งเครื่องกีดขวางนอกศาลอาญาแมนฮัตตัน เพราะถ้าทรัมป์ถูกจับกุม จะถูกพาตัวมาตั้งข้อหาที่ศาลนี้ แล้วถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูปในฐานะผู้ต้องหาอาชญากรรมร้ายแรงสุดขั้วที่ศาลในลอสแองเจลิส ตำรวจเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับการปะทะม็อบ มวลชนทรัมป์ใกล้หน่วยงานของรัฐบาลกลาง
เมืองหลวงกรุงวอชิงตันดีซี ตำรวจรัฐสภา ต้องคุ้มครองสมาชิกสภาคองเกรส เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน , หน่วยปฏิบัติการพิเศษของ FBI และตำรวจนิวยอร์ก เตรียมพร้อมรับมือจราจล โดยตำรวจลับจะแยกไปอารักขาประธานาธิบดีไบเดน และโดนัล ทรัมป์
วิเคราะห์ว่า..ความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างไบเดน และทรัมป์ จะก่อตัววัดพลังว่าฝ่ายใดจะแน่กว่ากัน เพราะเมื่อปี 2020 มวลชนทรัมป์ เคยสร้างผลงาน “ก่อการปฏิวัติประชาชน” บุกยึดอาคารรัฐสภามาแล้ว ขณะนั้นตำรวจเอาไม่อยู่ ต้องใช้ทหารติดอาวุธเทพครบมือหลายหมื่นนายยึดอาคารคืนจากกลุ่มปฏิวัติ และมีการใช้ปืนจริงยิงประชาชนเสียชีวิตราว 5 ราย ถูกจับกุมตั้งข้อหากบฎอีกกว่า 1,000 ราย
เวลาผ่านไป 3 ปี ปัญหาเศรษฐกิจ การเงิน การล้มละลาย การต่อต้านสงคราม ฯลฯ สะสมความไม่พอใจ ถ้าทรัมป์ ถูกตั้งข้อหาซื้อบริการพิเศษ แล้วถูกจับกุม “ขีปนาวุธมวลชนทรัมป์” จะเริ่มจุดติดชนวนทางอารมณ์ขยายตัวขึ้นอีกครั้งยาวไปถึงเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
