แหกเมกา!! ซีเรียเยือนยูเออีประกาศฟื้นสัมพันธ์ ถึงเวลากลับมาหาครอบครัวอาหรับ สหรัฐคลั่งประเคนอาวุธไอเอส

0

สุถานการณ์ในตะวันออกกลางขยับแรง สหรัฐฯ ยังคงทำงานร่วมกับกลุ่มไอเอส และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ เพื่อโจมตีกองกำลังของรัฐบาลซีเรีย เซอร์เกย์ นาริชกิน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย หรือ SVR ยืนยันเรื่องนี้ แต่ล่าสุดเมื่อปธน.ซีเรียเดินสายเยือนประเทศเพื่อนบ้านมุสลิมได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น ปธน.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวชัดเจนว่า “ถึงเวลาแล้วที่ชาวซีเรียจะกลับมาหาครอบครัวชาวอาหรับของพวกเขา”

วันที่ ๒๑ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และเดอะเนชั่นแนลนิวส์ยูเอดีรายงานว่า ประธานาธิบดี ชีคโมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัลนาห์ยาน แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan: UAE)ได้พบกับประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล อัสซาด(Bashar Al Assad)ในกรุงอาบูดาบีเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งผู้นำทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับเสถียรภาพในตะวันออกกลาง

ผู้นำซีเรียและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งอัสมา อัล อัสซาดเดินทางถึงการเยือนอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ ทั้งคู่ได้รับการต้อนรับในพิธีอย่างสมเกียรติและทหารกองเกียรติยศที่ริมน้ำของเมืองหลวง

ชีคโมฮัมเหม็ดฯกล่าวว่า “ทศวรรษครึ่งของสงคราม ความรุนแรง และการทำลายล้างก็เพียงพอแล้ว และถึงเวลาแล้วที่จะต้องส่งเสริมความร่วมมือและความร่วมมือระหว่างประเทศอาหรับของเรา เพื่อสร้างความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค”

“แนวทางและความพยายามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อพี่น้องซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และแนวทางที่กว้างขึ้นซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างเสถียรภาพของอาหรับและในภูมิภาค เอาชนะการเผชิญหน้าอันยากลำบากหลายปี

เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทศวรรษแห่งความโกลาหลและผลสะท้อนกลับของพวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าโลกอาหรับของเราสมควรที่จะจัดการกับปัญหาและวิกฤตการณ์ต่างๆ ของตนให้ห่างไกลจากการแทรกแซงในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ”

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของรัฐอาหรับที่มีต่อรัฐบาลดามัสกัส ซึ่งถูกโดดเดี่ยวทางการเมืองในภูมิภาคตั้งแต่เริ่มสงครามของซีเรีย และถูกขับออกจากสันนิบาตอาหรับซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงไคโรในปี ๒๕๕๔ เนื่องจากการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อการชุมนุมประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่สนับสนุนโดยเมกา

ชีค โมฮาเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน กล่าวกับอัสซาดระหว่างการประชุมที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า “ซีเรียห่างหายจากพี่น้องไปนานเกินไปแล้ว และถึงเวลาแล้วที่ซีเรียจะกลับมาหาพวกเขาและสภาพแวดล้อมของชาวอาหรับ” 

ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา  Al Assad ให้การต้อนรับชีค อับดุลลาห์ บิน ซายิด(Sheikh Abdullah bin Zayed)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศที่กรุงดามัสกัส และช่วยเหลือกรณีแผ่นดินไหวที่พรากชีวิตชาวซีเรียและตุรเคียไปกว่า ๕๐,๐๐๐ ราย

ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้มีความพยายามในการอำนวยความสะดวกในการส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลับประเทศ และรับรองยุติการสู้รบระหว่างดามัสกัสและอังการา ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการเพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับอัสซาด หลังจากสนับสนุนกลุ่มกบฏที่ต่อสู้กับรัฐบาลของเขามาหลายปี

ชีค โมฮัมเหม็ดกล่าวย้ำว่า“เราจัดการเจรจาเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศของเรา การหารือของเรายังสำรวจวิธีการยกระดับความร่วมมือเพื่อเร่งเสถียรภาพและความก้าวหน้าในซีเรียและภูมิภาค”

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แรงผลักดันทางการทูตที่เกิดขึ้นจากผลพวงของแผ่นดินไหวสามารถหนุนความสัมพันธ์ของดามัสกัสกับประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อต้านการกลับสู่สภาพปกติได้จนถึงตอนนี้หลังสงครามมากว่าทศวรรษ ในวิกฤตมีโอกาสในโชคร้ายกลับกลายเป็นโอกาสแห่งการคืนดี

อันวาร์ การ์กาช ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีเอมิเรตส์(Emirati senior presidential adviser Anwar Gargash)กล่าวว่า “แนวทางและความพยายามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและแนวทางที่กว้างกว่าที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับอาหรับและเสถียรภาพในภูมิภาค”  “จุดยืนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความชัดเจนเกี่ยวกับความจำเป็นที่ซีเรียจะกลับสู่ตำแหน่งของตนในโลกอาหรับ และได้รับความชอบธรรมในภูมิภาคกลับคืนมา”

ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างโลกอาหรับกำลังฟื้นฟูคืนสู่ภาวะปกติ สหรัฐฯยิ่งเร่งจุดไฟคุกคามซีเรียด้วยกองกำลังของกลุ่มก่อการร้ายที่สหรัฐฯอ้างตลอดว่าเป็นผู้ปราบปราม

ตามรายงานของ SVR ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ฐานทัพ Al-Tanf ของกองทัพสหรัฐฯ ทางตอนใต้ของซีเรียกำลังประสานงานกับกิจกรรมการโค่นล้ม โดยการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายได้รับการวางแผนโดยตัวแทนของกองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ   

SVR หน่วยข่าวกรองรัสเซียระบุว่า “มีการมอบหมายบทบาทพิเศษให้กับกองทัพซีเรียเสรี ซึ่งประกอบด้วยกองทหารชาวเคิร์ดและอาหรับที่ปฏิบัติการในภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย “โดยผ่านทางพวกเขา ชาวอเมริกันและพันธมิตรในอังกฤษกำลังทำงานร่วมกับขบวนการใต้ดินของกลุ่มรัฐอิสลามไอเอส เดิมคือกลุ่มไอซิส ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ”

หน่วยข่าวกรองอ้างว่า วอชิงตันฝึกฝนผู้ก่อการร้ายมากถึง ๖๐ คนที่ฐานทัพอัลตันฟ์ (Al-Tanf) เพื่อสร้างระเบิดแสวงเครื่อง และใช้มันเพื่อกำหนดเป้าหมายนักการทูต เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และบุคลากรทางทหาร 

นอกเหนือจากการประสานงานกลุ่มอิสลามิสต์แล้ว วอชิงตันยังจัดหาอาวุธให้ทั้งรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อหลายสิบคันพร้อมปืนกลหนัก รวมถึงระบบจรวดเช่น NLAW ATGMs, TOWs และ Igla MANPADS จะถูกส่งมอบให้ในอนาคตอันใกล้นี้!!??