เมกาอกไหม้ไส้ขม!! สีพบปูตินแน่นปึ้กประหาร’ความเป็นเจ้าโลกดอลลาร์’ อัดศาลICCละเมิดกฎคุ้มครองผู้นำซะเอง

0

การเยือนมอสโกว์ของปธน.สี จิ้นผิงของจีนเพื่อหารือเชิงลึกกับปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย ได้กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ที่โกรธแค้นจากวอชิงตันและยุโรป แองเจโล กูลิอาโนนักวิเคราะห์การเมืองและการเงินในฮ่องกงอธิบายว่าเหตุใดการประชุมสุดยอด จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นเจ้าโลกตะวันตก

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างรัสเซียและจีนสามารถสะกดจุดจบของความเป็นใหญ่ทางการค้าของดอลลาร์ และแม้กระทั่งความเป็นเจ้าโลกของจักรวรรดินิยมสหรัฐฯเร็วขึ้นอย่างที่ตะวันตกไม่ทันคาดคิด

วันที่ ๒๑ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิก รัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิงของจีนเดินทางถึงกรุงมอสโกว์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเป็นเวลา ๓ วันกับปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย

การประชุมดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสโกรธเกรี้ยวและการเบี่ยงเบนทางการเมือง ทั้ง ความพยายามของศาลอาญาระหว่างประเทศที่กล่าวหาปูตินเรื่องการลักพาตัวเด็ก และการที่วอชิงตันปฏิเสธพิมพ์เขียวของปักกิ่งเพื่อสันติภาพในยูเครน

สี จิ้นผิงกล่าวระหว่างพบปูตินว่า “คุณคือเพื่อนรัก และจีน-รัสเซียเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรและเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้”

ผู้นำจีนกล่าวว่าจีนมีความมุ่งมั่นในการมุ่งสู่การเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับรัสเซีย ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ประธานาธิบดีทั้งสอง “มีการแลกเปลี่ยนเชิงลึก” ของความคิดเห็นเกี่ยวกับยูเครน ผู้นำจีนกล่าวว่า ประเทศส่วนใหญ่สนับสนุนการผ่อนคลายความตึงเครียด ยืนหยัดเพื่อการเจรจาสันติภาพ และต่อต้าน “การเติมเชื้อไฟ” สำหรับประเด็นศาลICC กล่าวหาและออกหมายจับปธน.รัสเซียเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้นำที่เป็นที่ยอมรับ เป็นการกระทำสองมาตรฐานที่ไม่อาจยอมรับได้

มีรายงานว่าทั้งสองประเทศได้เพิ่มความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน ขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติ และยังคงดำเนินความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพในเวทีโลก

แองเจโล กูลิอาโน(Angelo Giuliano) นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองกล่าวว่า “ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างยักษ์ใหญ่จากเอเชียทั้งสองนั้น ส่งผลที่กว้างไกลสำหรับ ‘กลุ่มประเทศตะวันตก'”

เขากล่าวว่า “จีนและรัสเซียมีความเกื้อกูลกันอย่างมาก รัสเซียมีทรัพยากรธรรมชาติที่จีนขาดแคลน และจีนมีฐานอุตสาหกรรม และการผลิตขนาดใหญ่มาก และมีความแข็งแกร่งทางการเงิน ที่สำคัญคือ จีนสามารถช่วยให้รัสเซียเลี่ยงการคว่ำบาตรที่ตะวันตกกำหนดขึ้น

หลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ยิ่งไปกว่านั้น “ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าในวงกว้างที่เป็นไปได้กับกลุ่มประเทศตะวันตก” 

กูลิอาโนกล่าวย้ำว่า “ทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรกันโดยพฤตินัยแล้ว สำหรับวาระการประชุมสุดยอดน่าจะรวมถึงการสร้างกลไกการโอนเงินระหว่างประเทศแบบใหม่ ซึ่งเป็นอิสระจากระบบ SWIFT ของตะวันตกที่รัสเซียปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้” 

นักวิเคราะห์กล่าวว่าในที่สุดแล้วอาจขึ้นอยู่กับสกุลเงินใหม่ที่ควบคุมโดย ธนาคารเพื่อการพัฒนา BRICSโดยอิงจากตะกร้าสกุลเงินของประเทศสมาชิกและได้รับการสนับสนุนจากทองคำสำรอง และนั่นจะเป็นการประกาศการสิ้นสุดของการครอบงำระบบการเงินของสหรัฐฯ และสถานะพิเศษของสกุลเงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ

กูลิอาโนกล่าวเสริมว่า “การสิ้นสุดของอำนาจเงินดอลลาร์จะเริ่มต้นการล่มสลายของสหรัฐฯ การสิ้นสุดของสิทธิพิเศษที่สูงเกินไปในการพิมพ์สกุลเงินทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการออกตราสารหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ต้องการชำระคืน เป็นโครงการ Ponzi หรือเรียกง่ายๆว่า แชร์ลูกโซ่โดยพฤตินัย นี่หมายถึงการสิ้นสุดของวิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยของสหรัฐฯในพื้นที่ทางตอนใต้ของโลกอย่างสิ้นเชิง”

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าระบบการเงินระหว่างประเทศใหม่ในการแข่งขันกับสถาบัน ‘Bretton-Woods’ ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ เช่น ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สามารถเปิดให้ทุกประเทศที่ต้องการเข้าร่วมได้ 

ผู้นำตะวันตกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อธิบายปักกิ่งในแง่เป็น”ความท้าทายเชิงระบบ”หรือแม้แต่”คู่ต่อสู้”และข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนมีขนาดใหญ่กว่าสหรัฐฯและสหภาพยุโรปรวมกันแล้ว

“จีนเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ๓๗ ด้าน จาก ๔๔ รายการอยู่แล้ว ชาติตะวันตกมองว่าสิ่งนี้เป็นความท้าทายในระยะยาวอย่างแน่นอน แต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากจีนมีประชากรจำนวนมาก และมีผู้สำเร็จการศึกษาด้านสเต็ม (STEM) ซึ่งหมายถึงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ มากกว่าสหรัฐฯ ถึง ๑๐ เท่า” ทำเมกาหนาวสะท้าน

คริส ดิวอนชายร์-เอลิส(Chris Devonshire-Ellis) ประธานบริษัท Dezan Shira & Associates ซึ่งทำงานด้านการลงทุนและธุรกิจในจีน รัสเซีย และเอเชียมากว่า ๓๐ ปี ประเมินว่ารัสเซียและจีนมีแนวโน้มที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางทหารและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ความมั่นคงในภูมิภาคจะมีความสำคัญในวาระการประชุมของสองผู้นำ โดยเฉพาะประเด็น องค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO)อายุ ๒๒ ปีจะมีการปรับปรุง และขยายให้ครอบคลุมประเทศต่างๆ เช่น เบลารุส บาห์เรน มัลดีฟส์ เมียนมาร์ คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี อย่างแน่นอน ซึ่งส่งสัญญาณต่อนาโต้ในด้านกลุ่มพันธมิตรทางทหารหน้าใหม่ที่ไม่อาจมองข้ามได้!!