จากที่ดร.ปฐมพงษ์ ออกมาระบุถึงอเมริกาไปถึงไหน ที่นั่นวุ่นวาย ชาวสวิสส์ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลของตนวางตนเป็นกลาง ไม่ตกอยู่ในคำสั่งของอเมริกาหลังจากที่รัฐบาลอเมริกาสั่งให้อายัดทรัพย์สินรัสเซียนั้น
ทั้งนี้ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่าน Blockdit เปิดเผยถึง นักลงทุนจำนวนมากจากรัสเซีย จีนและอิหร่าน รวมทั้งจากชาติอื่นๆ ปิดบัญชีหนีเพราะการไม่วางตัวเป็นกลางของธนาคารสวิสส์
ไม่เรียกว่า กรรมสนอง แล้วจะเรียกว่าอะไร? อเมริกาคว่ำบาตรธนาคารหลักของรัสเซีย แต่ในที่สุด ธนาคารของตนเองล่มสลายแต่ธนาคารรัสเซียยังมั่นคงแข็งแรงเหมือนเดิม
สวิตเซอร์แลนด์ก็เช่นกัน รับคำสั่งอเมริกามายึดทรัพย์รัสเซีย ไม่วางตนเป็นกลางอย่างที่เคยเป็นมา แต่สุดท้าย ธนาคาร Credit Suisse ของตนเองกลับจะล่มสลายลง รัฐบาลต้องทุ่มเงิน ๕๔ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาไปอุ้มไว้”
ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ ยังโพสต์ถึงความคืบหน้ากรณีสวิตเซอร์แลนด์ไว้อย่างน่าชวนติดตามอีกว่า “กรรมสนองสวิตเซอร์แลนด์
วันก่อนผมเขียนไปว่า ไม่เรียกว่า *กรรมสนอง* แล้วจะเรียกว่าอะไร? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกาตอนนี้ เป็นผลกรรมที่อเมริกาสร้างมาเองโดยแท้
หลายท่านคงไม่รู้ว่าธนาคาร Credit Suisse ของสวิตเซอร์แลนด์เคยแช่แข็งทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียมีมูลค่า ๑๙ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ตามคำสั่งของรัฐบาลอเมริกา การล่มสลายก็เหมือนใช้กรรมที่ตนเองทำนั่นเอง
สิ่งที่เครือข่าย CIA ที่ติดตามข้อเขียนผมประจำจะต้องทำความเข้าใจให้มากก็คือ *กฎแห่งกรรม* ครับ ยังจะมีหลายอย่างที่จะเกิดแก่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามมาอีกเพราะ *กฎแห่งกรรม* นี่เองครับ”
“ชาวโลกกำลังชมจักรวรรดินิยมอเมริกาเริ่มล่มสลายลงอย่างช้าๆ ระหว่างที่วลาดิเมียร์ ปูตินเริ่มฟื้นฟูรัสเซีย เขาเริ่มวิจารณ์ตะวันตกที่มีอเมริกาเป็นผู้นำว่าไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ พออเมริกาบุกอิรักและลิเบีย สังหารซัดดัม ฮุสเซ็น และมูอัมมาร์ กัดดาฟี พร้อมทั้งปล้นทองคำของอิรักและลิเบียไปทั้งหมด เขาตั้งคำถามผ่านสื่อว่า ใครให้อำนาจพวกคุณไปรุกรานประเทศอื่นอย่างนั้น?’ รัฐบาลกุ๊ยโลกไม่ตอบ
พอรัฐบาลซีเรียถูกรัฐบาลกุ๊ยโลกรุกรานและขอให้รัสเซียช่วย รัสเซียจึงเข้าไปช่วยและกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่ชาตินักล่าอาณานิคมสร้างขึ้น จากทั้งหมด ๑๕๐,๐๐๐ คน เหลือไม่กี่ร้อยเองในขณะนี้ โดนรัสเซียกวาดล้างทำปุ๋ยให้ซีเรียไปเกือบหมดสิ้น
วลาดิเมียร์ ปูตินเคยให้สัมภาษณ์สรุปทำนองว่า ข้าพเจ้าไม่เคยคิดที่จะไปช่วยประเทศไหนกวาดล้างอิทธิพลประเทศนักล่าอาณานิคม ข้าพเจ้าคิดเพียงทำอย่างไรจะให้รัสเซียปลอดจากประเทศนักล่าอาณานิคมเท่านั้น แต่ประเทศที่เล็กกว่าขอความช่วยเหลือมา ข้าพเจ้าจึงต้องส่งคนเข้าไปช่วย
รัสเซียจึงไม่เคยส่งทหารเข้าไปประเทศไหน ยกเว้นว่าประเทศนั้นจะขอให้ช่วย และเมื่อประเทศนั้นขอให้ถอนทหารกลับ รัสเซียก็ถอนกลับอย่างว่าง่าย การส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการในยูเครนจึงเป็นสงครามภาคบังคับ ที่ผมเปรียบเหมือนสงครามมหาภารตะ
ประเทศเล็กๆ จะได้เห็นจักรวรรดินิยมที่บ้าคลั่งสงครามมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ล่มสลายลงอย่างช้าๆ ต่อหน้าต่อตาผู้คนทั้งโลก ความล่มสลายมีให้เห็นเป็นประจักษ์ทั้งทางทหาร ทั้งทางเศรษฐกิจ ทั้งทางคุณธรรมจริยธรรม ทั้งความน่าเชื่อถือ”