กล้าก็เข้ามา!? เมดเวเดฟซัดหมายศาล ICC คือกระดาษชำระประกาศจับปูตินโมฆะไม่มีผลทางก.ม.แค่รับใช้วอชิงตัน

0

เมื่อวันศุกร์ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) กล่าวหาและออกหมายจับปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย และมาเรีย ลิวา-เบโลวา กรรมาธิการด้านสิทธิเด็กของรัสเซียว่าอาจก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการ “เนรเทศ” และ “ย้าย” เด็กจากยูเครนอย่างผิดกฎหมาย มอสโกว์ปฏิเสธความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าไร้สาระและไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เนื่องจากรัสเซียไม่เคยให้สัตยาบันในอำนาจศาล

ICC ระบุว่าอาชญากรรมเกิดขึ้นในยูเครนตั้งแต่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๒ ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารกับยูเครน

การทำงานของศาลอาญาระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นเอกสารที่ได้รับการรับรองจาก ๑๒๓ ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ไม่มีทั้งรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐอเมริกา 

ทางการรัสเซียไม่ยอมรับอำนาจศาลของ ICC และจะไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนศาลนี้จัดตั้งโดยสหรัฐฯและดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

วันที่ ๑๙ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า รัสเซียได้ยกเลิกข้อกล่าวหา “อาชญากรสงคราม”ของศาลICC ต่อประธานาธิบดีปูตินโดยถือเป็นโมฆะ

ทางการรัสเซียอพยพประชาชนหลายพันคนจากเมืองโดเนตสค์ ลูกานสค์ ซาโปโรซี และเคอร์ซอน สี่ภูมิภาคที่ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นให้เข้าร่วมกับรัสเซียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ไปยังพื้นที่ภายใน เนื่องจากกองกำลังยูเครนตั้งใจลอบยิงพลเรือน โดยมักใช้อาวุธที่นาโต้จัดหาให้ แต่ศาลICC กลับถือเอาประเด็นเคลื่อนย้ายเด็กเป็นการผิดกฎหมายตามยูเครนฟ้องร้องโดยไม่มีการไต่สวนมาเป็นข้อหาในการออกหมายจับ บ่งบอกตัวตนของศาลชัดเจนว่าทำเพื่ออะไร

ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตปธน.และรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย กล่าวถึงคำแถลงของ ICC ในการออกหมายจับปูตินว่า การตัดสินใจของ ICC ไม่มีผลกระทบสำคัญอะไรต่อรัสเซียทั้งสิ้น ไม่ต้องต้องคิดมากว่าจะเอากระดาษหมายจับนี้ไปใช้ที่ไหน เสนอให้เอาไปใช้ในรูปของกระดาษชำระ

นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า “การใช้องค์กรไม่แสวงหากำไรในสงครามลูกผสมเป็นวิธีที่ศัตรูชื่นชอบกระทำต่อรัสเซีย และทางการรัสเซียได้สร้างมาตรการพิเศษสำหรับองค์กรไม่แสวงผลกำไรทุกระดับแล้ว รวมถึงการเผยแพร่รายงานทางออนไลน์เป็นระยะ

เมดเวเดฟกล่าวในการประชุมคณะกรรมการกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันศุกร์ว่า “เรารู้ว่าวิธีการที่ศัตรูของเราชื่นชอบ ทุกประเภท คือการใช้องค์กรไม่แสวงผลกำไรในสงครามลูกผสม เพื่อสร้างองค์กรภายใต้การปกปิดที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ซึ่งแท้จริงแล้วพยายามทำให้สถานการณ์ในประเทศต่างๆไม่มีเสถียรภาพ เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของภาคประชาสังคม เราได้เห็น ตัวอย่างมากมาย วิธีการเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนโดยตะวันตกอย่างสมบูรณ์แบบ” 

เขาระบุว่า “มีความจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมายในด้านนี้ต่อไป เพื่อป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม การแนะนำหลักการของการเปิดกว้างและความโปร่งใส และเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการองค์กรขององค์กรไม่แสวงหากำไร ไม่ควรอายและควรใช้เครื่องมือทางกฎหมายที่จำเป็นทั้งหมด” นอกจากเรื่องของบทบาทของศาลภายใต้อิทธิพลของวอชิงตันแล้ว เมดเวเดฟอาจหมายถึงประเด็นเรื่องการควบคุมองค์กรต่างชาติในประเทศ ที่แฝงตัวเข้ามาเคลื่อนไหวในนามประเด็นที่รับใช้สังคม แต่ความจริงมาอย่างมีวาระซ่อนเร้นด้วยการสนับสนุนจากตะวันตก

ขณะเดียวกัน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้กล่าวตอบโต้ ICCหลังจากรับทราบข่าวว่า “หมายจับไม่มีความหมาย” “คำตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความหมายสำหรับประเทศของเรา รวมถึงจากมุมมองทางกฎหมายด้วย” 

“รัสเซียไม่ได้เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรมของศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น รัสเซียไม่ให้ความร่วมมือกับร่างนี้ และการออกหมายจับที่มาจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจะถือเป็นโมฆะทางกฎหมาย สำหรับเรา”

เช่นเดียวกัน ดมิทรี เปสคอฟ(Dmitry Peskov) โฆษกของเครมลินกล่าวย้ำถึงการประกาศของ ICC ว่า“อุกอาจและยอมรับไม่ได้ และมอสโกว์ไม่มีภาระหน้าที่ที่จะต้องรับทราบหมายจับของประธานาธิบดี” เขาย้ำว่า “รัสเซีย เช่นเดียวกับรัฐอื่น ๆ ไม่ยอมรับอำนาจศาลของศาลนี้ ดังนั้น สหพันธรัฐรัสเซียจึงถือว่าคำประกาศใด ๆ ของตนเป็นโมฆะจากมุมมองทางกฎหมาย”

วุฒิสมาชิกแอนเดรีย คลิชฮาส(Andrey Klishas) จากพรรค United Russia กล่าวว่า “ศาลICC เพิ่งเข้าสู่เส้นทางแห่งการทำลายล้างตนเองด้วยเล่นการเมืองให้วอชิงตัน 

วุฒิสมาชิกไครเมีย เซอร์เกย์ เซคอฟ กล่าวว่า คำตัดสินของ ICC แสดงให้เห็นว่าสถาบันที่ตะวันตกสร้างขึ้นนั้น“ไร้ค่าและไม่มีนัยสำคัญ” 

ด้านมาเรีย ลโววา บีโลวา(Maria Lvova-Belova) ผู้กลายเป็นผู้ต้องหาของICC อีกคนกล่าวประชดประชันขอบคุณชุมชนระหว่างประเทศที่ชื่นชมการทำงานของเธอในการช่วยเหลือเด็ก ๆ จากเขตปฏิบัติการสู้รบในยูเครน

ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยอมรับเมื่อวันศุกร์ว่า วอชิงตันไม่ยอมรับศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ก็เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างว่าประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียก่อ“อาชญากรรมสงคราม”ในยูเครน แน่นอนสื่อตะวันตกรีบโหมกระพือข่าวนี้กันอย่างเมามัน!!??