ซาอุฯแลกหมัดสหรัฐฯ! สั่งหยุดขายน้ำมันชาติสมุนเมกา ขณะจีน-รัสเซีย เตรียมลงนามเอกสารสำคัญ ซัดระเบียบโลกเก่า
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 มีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน และจีน ออกแถลงการณ์ร่วม 3 ประเทศ ประกาศว่า ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านจะฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยภายใน 2 เดือนจะเปิดสถานทูตและองค์กรผู้แทนระหว่างกัน รวมทั้งจะแต่งตั้งเอกอัครราชทูต เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคี
ต่อมาเมื่อวานนี้ (17 มีนาคม 2566) ทาง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ซาอุดิอาระเบียไม่ขายน้ำมันให้กับชาติขาใหญ่ โดยบอกว่า สหรัฐ , สหภาพยุโรป (EU) และกลุ่มชาติอุตสาหกรรม G7 ที่กำลังทำสงครามอาวุธ และสงครามการค้ากับรัสเซีย ได้กดราคาน้ำมันรัสเซียส่งทางเรือ ไม่เกินเพดาน 60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ซึ่งรัสเซีย ก็ออกกฎหมายตอบโต้ไม่ขายน้ำมันไม่ให้ส่วนลดใดๆ กับผู้ขอซื้อน้ำมันที่กดราคาซื้อต่ำกว่าที่ชาติตะวันตกกำหนดทำให้บรรดาชาติขาใหญ่เดือดร้อนมากจนเกิดวิกฤติพลังงานกันสาหัส เศรษฐกิจพังทะลาย
ล่าสุดเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ประกาศกับสื่อ Energy Intelligence ว่า ซาอุฯ จะทำเหมือนรัสเซีย คือไม่ขายน้ำมันให้ผู้ซื้อที่กำหนดเพดานราคาน้ำมัน ไม่ว่าน้ำมันนั้นซาอุฯ จะผลิตเองหรือไม่ก็ตาม และความพยายามใดๆ ที่จะกำหนดเพดานราคา จะหยุดการขายให้และสั่งลดการผลิตทันที
แม้ว่าผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่รายอื่นๆ จะยอมตาม แต่นั่นไม่ใช่ซาอุฯ ดังนั้นหากมีการบังคับกดราคากับการส่งออกน้ำมันของซาอุฯ ก็จะไม่ขายน้ำมันให้กับประเทศนั้นๆ และมั่นใจว่าชาติในกลุ่ม OpecPlus ก็จะทำเช่นเดียวกัน เพราะการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน เป็นการบิดเบือนตลาดให้ไม่มีเสถียรภาพ และผันผวนรุนแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมน้ำมันทั้งหมดทั่วโลก
ยกตัวอย่าง สหรัฐฯ ก็มีกฎหมายชื่อ NOPEC ต่อต้านการผูกขาดน้ำมัน ถ้ากลุ่ม Opec บิดเบือนราคาและบริษัทน้ำมันก็จะตกเป็นเหยื่อถูกฟ้องร้องภายใต้กฎหมายดังกล่าว แล้วสหรัฐ ก็จะมีข้ออ้างมาแบล็กเมล์ การกำหนดเพดานราคานั้น แท้จริงแล้วคือเพิ่มความเสี่ยงและความไม่แน่นอนปัญหาใหม่ ให้กับตลาดน้ำมันโลกในช่วงเวลาที่ต้องการเสถียรภาพมากที่สุด
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีกำหนดจะเดินทางเยือนรัสเซีย ช่วงวันที่ 20-22 มี.ค.2566 นี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย หารือความร่วมมือจัดระเบียบโลกใหม่และลงนามในเอกสาร “ที่สำคัญบางอย่าง”
ล่าสุด ผู้นำรัสเซีย เยาะเย้ยว่า ชาตินักคว่ำบาตร กำลังต่อสู้กับปัญหาวิกฤติภายในชาติที่พวกเขาอยากให้เกิดกับรัสเซีย ชาติตะวันตกที่สิ้นหวัง จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันไปหารัสเซีย “เพื่อซื้อหัวผักกาด”
วิเคราะห์ว่า..ซาอุฯ จะเอาจริงไม่กลัวการข่มขู่ใดๆ จากสหรัฐ เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว พร้อมแลกทุกหมัดที่จะบีบบังคับกดขี่สั่งซาอุฯ ให้ทำตามที่สหรัฐ ต้องการ ความอดทนได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และซาอุฯ ฟื้นคืนสัมพันธ์กับอิหร่านเพื่อนบ้านจึงไม่มีอะไรต้องระแวงกันอีก อีกทั้งซาอุฯ ต้องการแสดงว่า ตะวันออกกลางก็คือ หนึ่งในขั้วอำนาจจัดระเบียบโลกใหม่
เนื่องจากระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวนำโดยสหรัฐ ล่มสลาย และข้อตกลงเปโตรดอลลาร์ ได้สิ้นสุดโปรโมชั่นจากซาอุฯ ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเยื่อใยใดต้องตอบแทนกัน ไม่มีใครทำให้สหรัฐ ยุโรป เสื่อมอำนาจ มีแต่พวกเขาทำตัวเอง ที่ใช้อำนาจไปบังคับ ข่มขู่ ข่มเหง รังแก ชาติอื่น จนผลักดันพวกเขาให้รวมตัวกันสู้แน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454