จากกรณีรายงานถึงหลายประเทศแห่ถอนเงินสดจากธนาคารยักษ์ใหญ่ ทำให้หลายธนาคารในยุโรปล้มละลาย ขณะที่มีข้อมูลล่าสุดชาติพันธมิตรของรัสเซียได้เลิกใช้ดอลลาร์ของสหรัฐ ซึ่งมีรายงานมาถึงประเทศในอาเซียนด้วย
ทั้งนี้รายงานจาก Blockdit World Update โพสต์เผยแพร่ไว้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ถึงกรณีประเทศในเอเชียทยอยจะเลิกใช้ดอลลาร์ว่า
“อินโดนีเซีย ชาติในกลุ่มอาเซียน ที่มีพลเมืองมากที่สุดถึงกว่า 277 ล้านคน มีขนาดเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศตามความเท่าเทียมกันของกำลังซื้อ GDP (PPP) ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียน
ในปี 2565 ที่ผ่านมาข้อมูลสถิติของอินโดนีเซียระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 5.31% โตที่สุดในรอบ 9 ปี แต่มีหนี้สาธารณะต่างชาติในอัตราสูง เป็นชาติที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย
ล่าสุดประธานาธิบดีวิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมธุรกิจท้องถิ่น ที่ธนาคารอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตาเปิดตัว ระบบการชำระเงินของรัฐบาล International Quick Response Code Indonesia Standard
ชาวอินโดนีเซียทุกคน ควรสามารถใช้บัตรเครดิต/ระบบชำระเงินที่ผลิตในประเทศได้ เพื่อที่พวกเราจะเป็นอิสระทางการเงิน เป้าหมายคือเพื่อปกป้องการทำธุรกรรมใดๆ จากผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ต้องระลึกถึงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย บัตรเครดิต Visa และ MasterCard อาจเป็นปัญหาได้
เขาขอให้ประชาชนยกเลิกใช้บัตรเครดิต 2 ประเภทดังกล่าว แล้วใช้บัตรเครดิต/ระบบชำระเงินที่ออกโดยธนาคารในประเทศแทน เพื่อช่วยให้อินโดนีเซียเป็นอิสระภาพ ปลดแอกจากระบบการเงินชาติตะวันตก แสดงให้เห็นว่าอินโดนีเซียกำลังก้าวตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารในสหรัฐ ยุโรป ชักดาบเงินฝากและไม่ยอมจ่ายหนี้ให้ธนาคารกลาง และเอกชนชาวรัสเซีย จนสูญเสียความน่าเชื่อถือในระบบธนาคารมากว่า 1 ปี และผู้นำรัสเซีย ประกาศให้พลเมืองเศรษฐีขนเงินย้ายกลับไปลงทุนในประเทศ
ลูกค้าร่ำรวยนานาชาติแห่ถอนเงินจนธนาคารในสหรัฐ ล้มละลาย 3 แห่ง , อังกฤษ 1 แห่ง , ลามเข้าธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ จนขาดสภาพคล่องไม่มีเงินจ่ายหนี้ จนต้องกู้ธนาคารกลางสวิสฯ จำนวน 54,000 ล้านดอลลาร์ เอามาอุ้มหวังชะลอวิกฤติล้มละลาย
เมื่อวันก่อนธนากลางยุโรป เพิ่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% รวมเป็น 3.0% เดินรอยตามธนาคารกลางสหรัฐ ซ้ำร้ายวิกฤติธนาคารโดนแห่ถอนเงินยังเอาไม่อยู่
ธนาคารต่างๆ ต้องแห่ไปขอกู้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อีก 164,800 ล้านดอลลาร์ ส่วน FED ก็เตรียมจะทำ QE พิมพ์เงินอุ้มอีก 300,000 ล้านดอลลาร์ นี่คือการกดปุ่ม ความวุ่นวายทางการเงิน ที่เริ่มเอาไม่อยู่
ในที่สุดจะลุกลามเข้าสู่วิกฤติระบบชำระเงินบัตรเครดิตที่ผูกโยงไว้กับระบบธนาคารชาติตะวันตก และถ้าวันดีคืนเขานึกอยากจะปล้นเงินฝากธนาคารประเทศใด ก็ง่ายมากหาเหตุข้ออ้างต่างๆ นานา คว่ำบาตร กีดกันการค้า แล้วบล็อคระบบชำระเงินด้วยบัตรเครดิตประเทศเป้าหมาย ถ้าประเทศนั้นไม่แข็งแกร่ง หรือเตรียมตัวมาดีแบบรัสเซีย ก็จะทำให้ประเทศเล็กวุ่นวายในการชำระเงิน
ในอนาคตสหรัฐ ตั้งเป้าหมายจะมาทำสงครามกับจีนในสมรภูมิไต้หวัน ยืมมือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ตามแผนยุทธศาสตร์ AUKUS ทำสงครามเตะสกัดจีน ย่อมทำให้ไฟสงครามอาวุธ และการเงิน ลุกลาม
ชาติตะวันตกจะมาบังคับกลุ่มอาเซียน คว่ำบาตรจีน และเข้าสู่สงคราม ถ้าชาติใดดื้อไม่ทำตาม จะถูกเขาบีบโดยคว่ำบาตรเศรษฐกิจและการเงิน
สงครามอาวุธชาติอาเซียนพอเลี่ยงได้ แต่สงครามเงินตราเรายังไม่แข็งแรงเหมือนรัสเซีย จีน ทำให้อินโดนีเซีย ถอดบทเรียนการเงิน จึงเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้พลเมืองตนเอง
ออกบัตรเครดิต/ระบบชำระเงินของรัฐบาล International Quick Response Code Indonesia Standard เพื่อให้พลเมืองตนเองมีเวลายกเลิกใช้บัตรเครดิตชาติตะวันตก ส่วนการรับชำระบัตรจากชาวต่างชาติก็ทำต่อได้
ซึ่งชาติอาเซียนอื่นๆ ควรพิจารณาการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตของรัฐบาลแบบนี้สำรองกันเหนียวต่อจากระบบ QR code Scan ไว้เช่นกัน เช่น เริ่มจากใช้ในธนาคารรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ การรับชำระค่าธรรมเนียมภาครัฐ ค่าธรรมเนียมการศึกษา ฯลฯ แล้วค่อยๆ ขยายไปเรื่อยๆ พลเมืองจะปลดแอกจากบัตรเครดิตตะวันตกได้แน่นอน”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454