ขวางจอมเสี้ยม!! จีน-อาเซียนตกลงร่วมมือในทะเลจีนใต้ ว๊ากเมกาหยุดปั่นขัดแย้งซ้อมรบขยายฐานทัพไม่หยุด

0

เรื่องที่ทำให้เมกาและบริวารไม่ปลื้มคืออาเซียนและจีนเห็นพ้องที่จะดำเนินโครงการความร่วมมือทางทะเลในทะเลจีนใต้ บ่งบอกว่าอาเซียนไม่ต้องการสงคราม สวนทางเมกาที่ก้าวเข้ามาจัดตั้งพันธมิตรทางทหาร ก้าวร้าวทั้งทางการทูต เศรษฐกิจและการทหารมีเป้าหมายต่อต้านจีนอย่างโจ่งแจ้ง 

วันที่ ๑๗ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า “อาเซียนและจีนตกลงจะดำเนินโครงการความร่วมมือทางทะเลเชิงปฏิบัติ เช่น การวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในทะเล การยกระดับการเจรจาและการสื่อสาร และร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้” 

ในการประชุมคณะทำงานร่วมอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ชื่อเต็มคือ Joint Working Group on the Implementation of the Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea ชื่อย่อว่า JWG-DOC ระหว่างวันที่ ๘-๑๐ มีนาคมที่ผ่านมา 

รวมถึงขับเคลื่อนการเจรจาเกี่ยวกับประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ Code of Conduct-CoC และแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกในการดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration of the Conduct of Parties in the South China Sea-DOC) 

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นพ้องจัดการประชุม เจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามข้อตกลง ASEAN – China SOM on DOC และการประชุม JWG-DOC บ่อยครั้งขึ้นในปี ๒๕๖๖นี้ เพื่อให้การเจรจา CoC มีความคืบหน้า

การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯล่าสุดขู่เกาหลีเหนืออย่างเปิดเผยว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะนำไปสู่การสิ้นสุดของระบบการปกครองประเทศ แน่นอนว่าคิม จองอึนไม่กลัวเลยสักนิดเพราะยิงขีปนาวุธใส่น่านน้ำใกล้เกาหลีใต้ขณะที่ญีปุ่นเยือนโซลเน้นทางทหารตั้งเป้าสู้กับเกาหลีเหนืออย่างเปิดเผย

โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯกล่าวว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะนำไปสู่การสิ้นสุดของระบบการปกครองประเทศ พร้อมยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการป้องปรามต่อเกาหลีเหนือต่อไป 

ก่อนหน้านี้ เมื่อ ต.ค.65 กห.สหรัฐฯ เผยแพร่ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศระบุว่า การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือต่อสหรัฐฯ หรือพันธมิตรและหุ้นส่วนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และจะส่งผลให้ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือสิ้นสุดลง สหรัฐฯ เตือนถึงผลร้ายแรงหากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์ 

เกาหลีเหนือได้ประกาศกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงรุกในกรณีฉุกเฉิน ผู้นำเกาหลีเหนือระบุถึงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมากเมื่อต้นปี ๒๕๖๖ นอกจากนี้ เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยังประเมินว่า เกาหลีเหนืออาจทดลองระเบิดนิวเคลียร์เมื่อใดก็ได้ เนื่องจากมีเตรียมการเรียบร้อยแล้ว

ในทางข่าวสารสื่อหลักมักจะรายงานในมุมมองของวอชิงตัน ที่เสนอแต่มุมมองผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งๆที่เป็นฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างก้าวร้าวในการขยายฐานทัพที่ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์  ทำการซ้อมรบในคาบสมุทรเกาหลี กับเกาหลีใต้-ญี่ปุ่นติดๆกัน โดยประกาศแผนปฏิบัติการมุ่งเป้าตั้งโมเดลสู้รบกับเกาหลีเหนืออย่างโจ่งแจ้ง พอเปียงยางโต้ตอบก็ระบุว่าก้าวร้าวอันตราย ความจริงคนที่ปั่นและกระตุ้นสงครามคือวอชิงตัน ที่ตอนนี้ผลักดันให้ตัวแทนผลประโยชน์ร่วมในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ออกหน้า แถมด้วยออสเตรเลีย ภายใต้พันธมิตรออคัส

ด้านโฆษกกลาโหมของจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการแสดงความคิดเห็นที่ไร้ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการใส่ร้ายกองทัพจีนโดยทันที

ตัน เค่อเฟย โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีน ตอบโต้สื่อตะวันตกว่า “กองทัพจีนได้รับมือกับการเผชิญหน้าทางอากาศและทางทะเลกับกองกำลังทหารต่างชาติตามกฎหมายและข้อบังคับ และเป็นกองกำลังที่แข็งขันเสมอมาเพื่อสันติภาพของโลก” โฆษกย้ำว่า”จีนยึดมั่นในเสรีภาพในการเดินเรือและการบินเหนือของทุกประเทศอย่างมั่นคงตามกฎหมายระหว่างประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของทางเดินทะเล ดังที่ระบุไว้ในสมุดปกขาวหัวข้อ “การป้องกันประเทศของจีนในยุคใหม่” 

ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายสหรัฐฯใช้ประโยชน์จากอำนาจทางทหารที่มีอำนาจเหนือกว่าเพื่อดำเนินการบีบบังคับ ปิดเมือง และทำสงครามทั่วโลก แสวงหากลุ่มกีดกันและยุยงให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก 

กองทัพจีนยินดีที่จะร่วมมือกับกองกำลังทหารจากประเทศอื่น ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติอย่างแน่วแน่ ปฏิบัติตามความรับผิดชอบและพันธกรณีระหว่างประเทศ และมีส่วนร่วมเชิงบวกในการสร้างชุมชนมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน 

โปรดจับสังเกตุในระยะนี้ จีนมีท่าทีที่ตอบโต้สหรัฐฯทันทีในทุกประเด็น และยืนยันจุดยืนเป็นแกนนำในการสร้างความสงบสุขในทุกภูมิภาคที่เกิดความขัดแย้ง คัดค้านการกระตุ้นความขัดแย้งด้วยการยุแหย่ให้แก้ปัญหาด้วยสงคราม ขณะที่สหรัฐฯยังเดินหน้าขยายบทบาททางทหารของตนไม่สนวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ และความขัดแย้งภายในทางการเมืองและสังคมมากเท่าที่ควร???