จากกรณีธนาคารมากกว่าสองแห่งในสหรัฐกำลังทยอยล้มละลาย ส่งผลลามไปถึงอังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ที่ประสบปัญหา นักลงทุนแห่ถอนเงินสดด้วย ขณะที่มีความเคลื่อนไหวของประชาชนในประเทศออกมาประท้วงด้วยนั้น
ทั้งนี้ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ถึงกรณีดังกล่าวว่า “อเมริกาไปถึงไหน ที่นั่นวุ่นวาย ชาวสวิสส์ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลของตนวางตนเป็นกลาง ไม่ตกอยู่ในคำสั่งของอเมริกาหลังจากที่ ๑.รัฐบาลอเมริกาสั่งให้อายัดทรัพย์สินรัสเซีย
๒.นักลงทุนจำนวนมากจากรัสเซีย จีนและอิหร่าน รวมทั้งจากชาติอื่นๆ ปิดบัญชีหนีเพราะการไม่วางตัวเป็นกลางของธนาคารสวิสส์
อเมริกาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของตนเป็นกุ๊ยคุมซอยเต็มตัว ไปถึงไหน ที่นั่นเละ ธนาคารโลกและ IMF ก็อยู่ใต้บงการของอเมริกา เพราะชาติไหนติดหนี้มากๆ สองแหล่งเงินกู้นี้จะบีบให้ประเทศนั้นๆ แก้ไขกฎหมาย ให้ทุนนอกเข้าไปซื้อกิจการภายในประเทศได้ อย่าให้อเมริกาเข้ามาก้าวก่ายได้นั่นแหละดีที่สุดครับ”
ต่อมาวันที่ 16 มีนาคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพสต์ข้อความถึงการล้มละลายของธนาคารสรัฐ ซึ่งมีสาเหตุที่น่าติดตามในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยมีรายละเอียดทั้งหมดว่า
“ไม่เรียกว่า กรรมสนอง แล้วจะเรียกว่าอะไร? ๑.อเมริกาคว่ำบาตรธนาคารหลักของรัสเซีย แต่ในที่สุด ธนาคารของตนเองล่มสลายแต่ธนาคารรัสเซียยังมั่นคงแข็งแรงเหมือนเดิม
๒.ทั้งอเมริกา ทั้งอียูคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย ไม่รู้กี่พันมาตรการ เศรษฐกิจรัสเซียอยู่ได้สบาย เงินรูเบิลก็อยู่ได้สบาย แต่อเมริกาและอียูกำลังเจอภาวะเงินเฟ้อ (Hyperinflation) หรือเศรษฐกิจถดถอย (Economic Recession) หรือเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) แทน
๓.นาโต้ขนอาวุธของตนไปช่วยยูเครนจนเกือบหมด สุดท้ายตนเองแทบไม่เหลืออาวุธไว้ป้องกันประเทศ ต้องอยู่เหมือนเสือไม่มีเขี้ยว หากรัสเซียถล่ม ก็แทบไม่เหลืออาวุธไว้ป้องกันตนเอง
๔.นาโต้สนับสนุนอเมริกาให้ทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย สุดท้าย อุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากของตนกลับถูกปิดลง เนื่องจากขาดวัตถุดิบจากรัสเซียมาดำเนินการ
๕.กลุ่มประเทศ G7 และบริวารพยายามโดดเดี่ยวรัสเซีย แต่รัสเซียมีกลุ่ม BRICS คอยสนับสนุนอยู่แล้ว กลายเป็นว่าพวก G7 เองที่กำลังถูกโดดเดี่ยว ส่วนรัสเซียมีแต่ชาติต่างๆ ไปมาหาสู่ ไม่ขาดสาย จำนวนประชากรโลกที่สนับสนุนมีมากกว่าประชากรโลกที่ต่อต้าน
๖.อเมริกาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพื่อทำให้ดอลล่าร์ของตนแข็งยิ่งขึ้น แต่ยิ่งคว่ำบาตรประเทศอื่นๆ เพียงไร ผู้คนก็ยิ่งจะเลิกใช้ดอลล่าร์มากขึ้นเพียงนั้น
๗.อเมริกาโจมตีเกาหลีเหนือว่าอดอยากมากว่า ๕๐ ปีแล้ว แต่ท้ายสุด เกาหลีเหนือสร้างบ้านเรือนให้ประชาชนอยู่ฟรีทั่วถึง พัฒนาการเกษตรจนเลี้ยงประชาชนได้ทั้งประเทศ ไม่มีคนไร้บ้าน ไม่มีดงสลัมป์เหมือนอเมริกาและเกาหลีใต้
แต่ระบบทุนนิยมของอเมริกา ทำให้คนอเมริกันไร้บ้านไม่น้อยกว่า ๗ แสนคน ทำให้คนอเมริกันไม่มีประกันสุขภาพกันถ้วนหน้า ตายเพราะโควิดนับล้านคนและทำให้คนอเมริกันมากมายตกงานในช่วงโควิดระบาด
๘.อเมริกาสนับสนุนให้ชาวเคิร์ดแบ่งแยกดินแดนในซีเรีย ยุให้ชาวอุยกูร์แบ่งแยกดินแดนในประเทศจีน แต่ประชาชนหลายๆ รัฐ เช่น รัฐเท็กซัสในอเมริกา กำลังพยายามขอแยกประเทศไปจากสหรัฐอเมริกา เพราะรัฐบาลกลางของอเมริกาเต็มไปด้วยปัญหาทุจริต เลือกตั้งก็โกงกันเข้ามา
๙.สวิตเซอร์แลนด์ก็เช่นกัน รับคำสั่งอเมริกามายึดทรัพย์รัสเซีย ไม่วางตนเป็นกลางอย่างที่เคยเป็นมา แต่สุดท้าย ธนาคาร Credit Suisse ของตนเองกลับจะล่มสลายลง รัฐบาลต้องทุ่มเงิน ๕๔ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาไปอุ้มไว้”