สหรัฐฯและออสเตรเลียเป็นข่าวพาดหัวพรึ่งในสื่อตลอดสัปดาห์นี้ เมื่อวอชิงตันประกาศแผนจัดหาเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้นเวอร์จิเนียจำนวน ๓ ลำไปยังกรุงแคนเบอร์ราในช่วงต้นปี ๒๐๓๐ โดยมีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายออสเตรเลียจะซื้อเพิ่มอีก ๒ ลำ ปัจจุบันประเทศนี้มีเรือดำน้ำขับเคลื่อนธรรมดาอยู่เพียง ๖ ลำ แต่ถ้าเปรียบเทียบกองเรือดำน้ำของเหล่ามหาอำนาจในโลกก็นับว่าไม่มาก
ตามรายงานของ Newsweek ฉบับอเมริกา ขณะนี้ สหรัฐฯ กำลังวิตกเกี่ยวกับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของรัสเซีย นิตยสารดังกล่าวอ้างอิงคำพูดของศาสตราจารย์ไมเคิล ปีเตอร์เซน (Michael Petersen) แห่ง American Naval War College ซึ่งกล่าวว่าเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของรัสเซียรุ่นล่าสุดเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสหรัฐฯ
ศาสตราจารย์มองว่ากองทัพเรือจีนมีแนวโน้มที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติการทางทหารในน้ำและในอากาศได้ดี แต่รัสเซียนั้นอันตรายในพื้นที่ใต้น้ำมากที่สุด เรือดำน้ำของรัสเซียได้รับการจับตามากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศนอกชายฝั่งของยุโรปและสหรัฐอเมริกา
การก่อสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในปัจจุบันสามารถซื้อได้จากเพียง ๖ รัฐที่มีเรือดำน้ำเหล่านี้ให้บริการ คือ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอินเดีย
วันที่ ๑๗ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า เมื่อพูดถึงยานใต้น้ำ เรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียที่ผลิตโดยสหรัฐฯ มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับเรือดำน้ำชั้นยาเซนของรัสเซีย ทั้งเวอร์จิเนียและยาเซ็นเป็นเรือดำน้ำโจมตีอเนกประสงค์รุ่นที่ ๔ แต่ของรัสเซียมีความสำคัญเหนือกว่าในพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์
เรือดำน้ำชั้น Yasen และเรือดำน้ำชั้น Virginia มีความยาว ๑๑๙ เมตรและ ๑๑๕ เมตรตามลำดับ และดำเนินการด้วยความเร็วใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ในแง่ของน้ำหนัก เวอร์จิเนียมีน้ำหนัก ๑๓,๘๐๐ตันเมื่อจมอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ยาเซนหนัก ๘,๐๐๐ ตัน ด้วยเหตุนี้ เรือชั้น Yasen จึงสามารถดำน้ำได้ลึกกว่า
เรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียเริ่มเข้าประจำการในช่วงกลางทศวรรษ ๒๐๐๐ ขณะที่เรือ Yasen เข้าประจำการระหว่างปี ๒๐๑๔ ถึง ๒๐๒๑ เรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Yasen โครงการ 885M โนโวซีบีสค์เข้าร่วมกองเรือแปซิฟิกของกองทัพเรือรัสเซียตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๐๒๒
วาซิลี ดันดีคิน(Vasily Dandykin) กัปตันกองหนุนอันดับ ๑ และผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารรัสเซียกล่าวว่า “สิ่งที่เรือดำน้ำทั้งสองแตกต่างกันคืออาวุธยุทโธปกรณ์ของพวกเขา Dandykin กล่าว เรือดำน้ำชั้น Yasen มีขีปนาวุธต่อต้านเรือโอนิคส์ (Oniks) มีระยะปฏิบัติการระหว่าง ๖๐๐ ถึง ๘๐๐ กม. หรือขีปนาวุธอเนกประสงค์ คาลิเบอร์(Kalibr) เรือชั้นเวอร์จิเนียติดอาวุธด้วยตอร์ปิโด Mk 48 ที่ไม่ด้อยกว่า ขีปนาวุธต่อต้านเรือฮาร์ปูน (Harpoon) และขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดินโทมาร์ฮ็อค (Tomahawk)
ผู้เชี่ยวชาญทางทหารเน้นย้ำว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือ Yasen-M ของเราจะไม่เพียงติดตั้งขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) ซึ่งทุกคนรู้จัก แต่ยังมีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเซอร์คอน(Zerkhon) ซึ่งไม่มีระบบอะนาล็อกในโลกนี้ และฉันคิดว่า จะไม่มีระบบอะนาล็อกในอีกหลายปีข้างหน้า นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุด” “เห็นได้ชัดว่า Yasenสามารถทำงานบนเรือดำน้ำเชิงกลยุทธ์ เป้าหมายชายฝั่ง และบนเรือผิวน้ำ รวมถึงกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือชั้นของตะวันตก”
ผู้เชี่ยวชาญทางทหารของรัสเซียกล่าว“กองทัพเรือรัสเซียสั่งการกองเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนเรือประมาณ ๕๘ ลำ เราอยู่ในอันดับที่สองในแง่ของปริมาณของเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์และตอนนี้เรากำลังเติมช่องว่างในเรืออเนกประสงค์”
กัปตันตั้งข้อสังเกตว่า “เมื่อพูดถึงศักยภาพของเรือชั้น Yasen กับคู่แข่งในอเมริกา ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับทักษะของลูกเรือและผู้บังคับการเรือเป็นสำคัญด้วย เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยทั้งหมด การพัฒนา Yasen ของเรามีพลังมากขึ้น”
เขากล่าวว่า “ภารกิจหลักในตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในอาร์กติก ที่ซึ่งชาวอเมริกันต้องการความได้เปรียบ การเดินเรือใต้น้ำแข็งและอื่นๆ ยังรวมถึงในมหาสมุทรแปซิฟิกและใกล้คัมชัตกาของรัสเซียด้วย” “ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับไต้หวันและจีนในขณะนี้ สมควรได้รับความสนใจ โดยธรรมชาติแล้ว เรือเหล่านี้เป็นเรือดำน้ำที่มีความสามารถในการเดินเรืออย่างไม่จำกัด และภารกิจของพวกมันจะดำเนินการได้ทุกที่ในมหาสมุทรของโลก”
สำรวจจำนวนเรือดำน้ำในแง่ปริมาณ รายงานจาก globalfirepower:2023 ระบุว่า จีนมีเรือดำน้ำณ ปัจจุบันเป็นอันดับ ๑ จำนวน ๗๘ ลำ รัสเซียอันดับ ๒ จำนวน ๗๐ ลำ ตามมาด้วยสหรัฐฯ ๖๘ ลำ เกาหลีเหนือ ๓๕ ลำ เกาหลีใต้ ๒๒ ลำ ญี่ปุ่น ๒๑ ลำ อิหร่าน ๑๙ ลำ อินเดีย ๑๘ ลำและตุรเคีย ๑๒ ลำตามลำดับ
มอสโกว์มีเหตุผลที่ดีที่จะต้องกังวลต่อการเคลื่อนไหวของนาโต้ เนื่องจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร พื้นที่ครอบคลุมเขตเวลา ๑๑ เขต รัสเซียตั้งอยู่ทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยตะวันออกไกลของรัสเซียโดยทั่วไปจะรวมอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กว้างขึ้น รัสเซียเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงการเพิ่มกำลังทางทหารของสหรัฐฯ-นาโต้ทั้งในยุโรปและเอเชีย และในภูมิภาคที่อยู่ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย
แต่กระนั้น รัสเซียก็ยังมั่นใจว่าสามารถป้องกันตัวเองได้เนื่องจากมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยทัดเทียมหรือบางครั้งก็ล้ำหน้ากว่าของนาโต้ด้วยซ้ำ!