การเคลื่อนไหวทางทหารของพันธมิตรโลกหลายขั้ว เป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกเดือนมีนัยสำคัญถึงการกระชับขุมกำลังสำคัญที่พร้อมในการเผชิญสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันของการขับเคี่ยวทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ก่อผลสะเทือนต่อกลุ่มแองโกลแซกซอนอำนาจเดี่ยวนำโดยสหรัฐฯที่ครอบงำโลกมาเป็นเวลานาน
วันที่ ๑๖ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และโกลบัลไทมส์ รายงานว่ากระทรวงกลาโหมของจีนเปิดเผยภารกิจครั้งล่าสุดว่า กองทัพเรือจีน อิหร่าน และรัสเซียกำลังซ้อมรบร่วมกันในอ่าวโอมานใกล้กับปากอ่าวเปอร์เซียทางยุทธศาสตร์ในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มี.ค.จนถึงวันที่ ๑๙ มี.ค. ๒๕๖๖
กระทรวงฯ ระบุว่า “การฝึกซ้อมจะช่วยกระชับความร่วมมือความมั่นคงเชิงปฏิบัติระหว่างกองทัพเรือของประเทศที่เข้าร่วม”
ประเทศอื่นๆ ก็เข้าร่วมการฝึกซ้อม “Security Bond-2023” เช่นกัน กระทรวงระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียด ทั้งอิหร่าน ปากีสถาน โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ล้วนมีแนวชายฝั่งตามแนวผืนน้ำซึ่งอยู่ที่ปากอ่าวเปอร์เซียทางยุทธศาสตร์น่าเข้าร่วมด้วยแต่ไม่ออกหน้า
ฉาง จุนเช(Zhang Junshe) นักวิจัยอาวุโส ที่สถาบันวิจัย Naval Research Academy ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนกล่าวกับสื่อ Global Times เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “หลักสูตรการฝึกอบรมหลักคือการค้นหาและกู้ภัย และอ่าวโอมานเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยเส้นทางการขนส่งทางทะเลที่หลายประเทศทั่วโลกใช้ ดังนั้นการฝึกซ้อมจึงมีความสำคัญในเชิงบวกในการร่วมกันปกป้องเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ”
จางกล่าวย้ำว่า”ไม่เหมือนบางประเทศที่จัดการซ้อมรบเพื่อกำหนดเป้าหมายบุคคลที่สาม การซ้อมรบของจีน อิหร่าน และรัสเซียไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่สามใดๆ”
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่การฝึกไตรภาคีถูกกำหนดให้เป็นเข็มขัดนิรภัย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าการฝึกกลายเป็นทีมและคาดว่าจะมีขึ้นเป็นประจำในอนาคต
ตามข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนหนานหนิงเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี Type 052D ที่เข้าร่วมในการซ้อมรบร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยเฉพาะกิจคุ้มกันทางเรือที่ ๔๓ ของกองทัพเรือ PLA ได้เดินเรือไปยังอ่าวเอเดนและน่านน้ำนอกประเทศโซมาเลีย โดยออกเดินทางจากเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในเดือนกุมภาพันธ์ เรือลำดังกล่าวได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมทางเรือข้ามชาติ AMAN-23 ในปากีสถาน ก่อนที่จะเข้าร่วมนิทรรศการนาฟเด็กซ์ในชื่อเต็มว่า Naval Defence and Maritime Security Exhibition (NAVDEX) ในอาบูดาบีภายใต้คำเชิญของกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
จางกล่าวย้ำว่า “กองทัพเรือ PLA ได้ทำการซ้อมรบร่วมกับหลายประเทศ กิจกรรมดังกล่าวได้ส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพกับกองทัพเรือของประเทศเหล่านั้น ตลอดจนความสามารถในการรักษาความปลอดภัยทางทะเลร่วมกัน”
ในช่วงปลายปี ๒๕๖๒ การฝึกร่วมสามชาติที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอาหรับ โดยโฆษกกองทัพอิหร่าน อับล์ฟฟาซล์ เชคาร์ชี กล่าวว่าเป้าหมายคือเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและการละเมิดลิขสิทธิ์ และในปี ๒๕๖๕ การซ้อมรบ ‘Security Bond’ ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดียและเกี่ยวข้องกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ซึ่งเป็นกองทัพชั้นนำของกำลังทหารเตหะราน
เมื่อต้นสัปดาห์ เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างมอสโกว์และปักกิ่ง“บรรลุระดับใหม่ทั้งหมด”โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็น“หนึ่งในอุปสรรคหลักต่อกิจกรรมก้าวร้าวของสหรัฐฯ และพรรคพวกในเอเชีย- แปซิฟิก”
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนได้ทำการซ้อมรบทางเรืออีกครั้งกับรัสเซียและแอฟริกาใต้ ในขณะที่พริทอเรียแห่งอาฟริกาเรียกมันว่าเป็นวิธีการเพิ่มการประสานงานระหว่างสามประเทศ สื่อตะวันตกตราหน้าว่าการเคลื่อนไหวนี้”ขัดแย้ง”โดยตรงกับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่เมกา-นาโต้ต่างขู่คำรามห้ามประเทศต่างๆมีกิจกรรมทางทหารกับรัสเซีย
สหรัฐฯ เองก็ให้ความเห็นเช่นกัน โดยคารีน ชอนปีแอร์ (Karine Jean-Pierre) โฆษกหญิงของทำเนียบขาวระบุเมื่อเดือนมกราคมว่า วอชิงตัน“มีความกังวลเกี่ยวกับประเทศใดก็ตามที่ซ้อมรบร่วมกับรัสเซีย ในขณะที่มอสโกว์ยังคงดำเนินปฏิบัติการทางทหารในยูเครนอยู่”
จอห์น เคอร์บี โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ทำเนียบขาวไม่กังวลกับการฝึกซ้อมร่วม เคอร์บีกล่าวว่าสหรัฐฯและชาติอื่นๆ ทำการฝึกซ้อมรบตลอดเวลา และนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียและจีนฝึกซ้อมร่วมกัน เขากล่าวว่า “เราจะเฝ้าดู เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภัยคุกคามที่เกิดจากการฝึกซ้อมนี้ ต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติหรือของพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราในภูมิภาค” แต่ประเทศต่าง ๆพากันฝึกฝนทางทหาร เราทำมันตลอดเวลา เราจะเฝ้าดูอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนเป็นเจ้าภาพการเจรจาระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบีย คู่แข่งสำคัญในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในวันศุกร์เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบหลังจากตึงเครียดต่อกันมากว่า ๗ ปี หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและประธานกิจการต่างประเทศของจีน ถึงกับประกาศว่า “นี่คือชัยชนะแห่งแนวทางสันติภาพ”
การเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียสำเร็จ ทำให้จีนมีบทบาทในการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นสิ่งที่ปักกิ่งเดินหน้าอย่างจริงจังภายใต้แผนการ“Global Security Initiative” ของปธน.สี จิ้นผิง
โดยภาพรวมแล้วพันธมิตรโลกขั้วใหม่เดินหน้ารุกขั้วอำนาจเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง มีชัยชนะทั้งทางการเมือง และการประสานผนึกกำลังทางทหารอย่างมีนัยสำคัญท่ามกลางการขับเคี่ยวอย่างดุเดือดในสงครามเศรษฐกิจที่โลกกำลังจับตาว่าวิกฤติการเงินการธนาคารครั้งใหญ่เริ่มที่สหรัฐลามสู่ยุโรปจะทำให้สหรัฐล้มคว่ำพ่ายแพ้กลุ่มโลกขั้วใหม่ หรือเมการอดโดยลากทั้งโลกพังแทน??