กรรมตามทัน! โฆษกเคลมลิน ยันรัสเซียไม่มีความเสี่ยงจากแบงก์สหรัฐล่มสลาย! เย้ยแรง การเงินล้มเพราะเหตุคว่ำบาตร
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 ที่มีรายงานการล้มของ Silicon Valley Bank (SVB) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้ Fintech และ Startup และมีขนาดใหญ่ติด Top 20 ในสหรัฐเลยทีเดียว สาเหตุที่ทำให้เกิด Bank run หรือถูกลูกค้าแห่ถอนเงินออกจากธนาคารนั้น มาจากภาวะดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจ Startup ระดมทุนได้ยากขึ้น จนเกิดการถอนเงินออก
ล่าสุดมเื่อวานนี้ (14 มีนาคม 2566) สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้เปิดเผยว่ารัสเซียไม่มีความเสี่ยงจากความล้มเหลวของ Silicon Valley Bank (SVB) ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากธนาคารดังกล่าวถูกตัดขาดจากระบบการเงินตะวันตกเป็นส่วนใหญ่
เมื่อถูกถามว่ารัสเซียเผชิญกับความเสี่ยงจากการล่มสลายของ SVB ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียหรือไม่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่มีเลย”
เขากล่าวเสริมว่า “ระบบธนาคารของเรามีความเชื่อมโยงกับบางส่วนของระบบการเงินระหว่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่ผิดกฎหมาย” ซึ่งอ้างอิงถึงการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อเศรษฐกิจของรัสเซียและธนาคารชั้นนำส่วนใหญ่
“เราได้รับความคุ้มครองในระดับหนึ่งจากผลกระทบด้านลบของวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในต่างประเทศ” เปสคอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว ข้อจำกัดที่นำโดยสหรัฐฯ ต่อรัสเซียได้ตัดธนาคารหลัก 10 แห่งของประเทศออกจากระบบส่งข้อความทางการเงิน SWIFT ซึ่งตั้งอยู่ในเบลเยียม ซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมธนาคารทั่วโลก ผู้ให้กู้ 9 รายเหล่านี้ ยังถูกปิดกั้นจากการคว่ำบาตร ซึ่งห้ามสถาบันการเงินระหว่างประเทศไม่ให้ความร่วมมือกับพวกเขา สหรัฐฯ กำหนดมาตรการลงโทษกับ Sberbank ผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย โดยห้ามดำเนินการชำระเงินผ่านระบบการเงินของสหรัฐฯ
รัสเซียมีระบบการส่งข้อความทางการเงินของตนเองที่เรียกว่า SPFS ซึ่งสามารถทำหน้าที่แทน SWIFT ในตลาดภายในประเทศได้ แม้ว่าความครอบคลุมจะยังคงน้อยกว่า SWIFT ซึ่งมีองค์กรการเงิน 11,000 แห่งทั่วโลก แต่การแพร่กระจายของ SPFS นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
