“รัสเซียกำลังต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ ความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องกับยูเครนไม่ได้เกี่ยวกับการบรรลุผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์” เป็นคำประกาศของปธน.ปูตินขณะตรวจเยี่ยมโรงงานการบินในเมืองอูลาน-อูเด
วันที่ ๑๕ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะพบปะกับคนงานในโรงงานผลิตเครื่องบินในอูลาน-อูเด เมืองหลวงของสาธารณรัฐบูเรียเตียของรัสเซีย
ปูตินกล่าวว่า“ความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องกับยูเครน และชาติตะวันตก เป็นการต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย ไม่ใช่เป็นเพียงเกมทางภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับสิ่งที่ชาวตะวันตกเรียกว่า ‘พันธมิตร’ เป็นศัตรูของเรา เราสามารถพูดได้อย่างเปิดเผยในวันนี้ ประเด็นนี้เกี่ยวกับการปรับปรุงจุดยืนทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกเขาเอง” พร้อมเสริมว่าสถานการณ์แตกต่างจากตะวันตกอย่างมากสำหรับมอสโกว์
“สำหรับเรา นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อจุดยืนทางภูมิรัฐศาสตร์บางอย่าง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อการคงอยู่ของความเป็นมลรัฐของรัสเซีย”
ปูตินอธิบายว่า “การทำลายเสถียรภาพและการ “แยกย่อย”รัสเซียเป็นหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของศัตรูของประเทศมานานแล้ว เพื่อนำสันติภาพและความมั่นคงเข้ามาใกล้ แน่นอนว่าเราต้องแสดงให้เห็นถึงการรวมสังคมของเราด้วยความสงบ เมื่อศัตรูเห็นว่าสังคมของเราแข็งแกร่ง มีความมั่นคงภายใน มีความเข้มแข็ง เมื่อนั้นสิ่งที่เราพยายามไขว่คว้าก็จะเกิดขึ้น ทั้งความสำเร็จและชัยชนะโดยไม่ต้องสงสัย” ปูตินประกาศเรียกร้องให้ทุกคนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันท่ามกลางความยากลำบากที่กำลังดำเนินอยู่
เขากล่าวว่า “โลกหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยผู้ชนะ คือสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต เมื่อระบบโลกสองขั้วเริ่มล่มสลาย หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ดูเหมือนว่าพื้นฐานสำหรับการเผชิญหน้ากับตะวันตกจะหายไป แต่สิ่งนี้ไม่เป็นความจริง เพราะลัทธิชาตินิยมสุดโต่งในยูเครนถูกขับเคลื่อนโดยตะวันตกมานานแล้ว
แรงกดดันต่อรัสเซียเริ่มขึ้นหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เพื่อสั่นคลอนประเทศของเรา ตะวันตกได้สร้างแนวที่ห้า ในรูปแบบของผู้ก่อการร้าย รวมทั้งก่อตัวในคอเคซัสเหนือ
เขาย้ำว่า “การปกป้องชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในยูเครนจากการประหัตประหารโดยระบอบเคียฟ ยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของมอสโกว์ และเขาได้พบกับผู้คนจากดอนบาสที่เหมือนกับเราทุกประการถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต มอสโกว์พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเป็นประโยชน์ร่วมกันกับเคียฟ แต่ความพยายามล้มเหลวในที่สุด”
เขาสรุปว่า “รัสเซียพยายามอย่างอดทนมานานหลายทศวรรษเพื่อแก้ไขความสัมพันธ์กับรัฐยูเครนสมัยใหม่ แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปในปี ๒๕๕๗ เมื่อมีการรัฐประหารตามการสนับสนุนของตะวันตก หลังจากนั้น มอสโกว์ใช้เวลาหลายปีในการพยายามแก้ไขความขัดแย้งทางในเมืองดอนบาสของยูเครนในขณะนั้นอย่างสันติ แต่เราถูกตะวันตกหลอกลวงและหักหลัง”
ด้านการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ในสถานการณ์เช่นนี้ ปูตินย้ำว่า “อุปกรณ์จากโรงงานผลิตเครื่องบินอูลาน-อูเดเป็นที่ต้องการไม่เพียงแต่ในรัสเซียเท่านั้นแต่ในตลาดโลกด้วย จึงต้องขยายสายการผลิตอย่างเต็มที่”
ในอีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู ได้ตอบสนองคำสั่งการของผู้บัญชาการสูงสุด ปธน.ปูตินโดยออกคำสั่งเพิ่มการผลิตอาวุธที่มีความแม่นยำเป็นสองเท่า
กระทรวงระบุว่า หัวหน้าฝ่ายกลาโหมรัสเซียออกคำสั่งนี้ระหว่างการเยือน Tactical Missiles Corporation
กระทรวงกลาโหมระบุในถ้อยแถลงว่า “รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู ชี้ว่า Tactical Missiles Corporation ได้ทำตามแผนจัดซื้อจัดจ้างด้านกลาโหมได้อย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เขาจึงออกคำสั่งให้เพิ่มการผลิตอาวุธที่มีความแม่นยำเป็นสองเท่า”
รัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า “บริษัทเผชิญกับงานที่หนักหนาสาหัสมาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ให้องค์กรมีกำลังสำรองยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงและความสามารถในการผลิต นั่นคือเหตุผลว่าทำไมงานจึงหนักหนาแต่สามารถบรรลุผลได้”