ขณะที่เกิดวิกฤตภาคการเงินของสหรัฐฯ ส่อแววThe Great Recession ที่กัดกินไปถึงยุโรปและเอเชียเพราะปรากฏการณ์ธนาคารใหญ่ของเมกาล้มละลายปิดกิจการ มีการถอนเงินสดอย่างมโหฬาร มีแนวโน้มกระทบระบบการเงินของเมกาอย่างขวางไม่อยู่ เกิดเหตุการณ์หวาดเสียวเหนือน่านฟ้าไครเมีย-ทะเลดำเมื่ออยู่ๆโดรนของสหรัฐฯที่กำลังบินสอดแนมเหนือทะเลดำตก เมกาโวยวายใหญ่
มอสโกว์มองว่า UAV ของอเมริกาในทะเลดำเป็นปฏิบัติการยั่วยุมีวาระซ่อนเร้น
ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โดรนของสหรัฐฯ ละเมิดขอบเขตของน่านฟ้าที่กำหนดขึ้นเพื่อปฏิบัติการพิเศษอย่างผิดสังเกตุ หลังจากบินรบSu-27 และมีการหลบหลีกอย่างกระทันหัน โดรนซึ่งขึ้นบินโดยไม่มีผู้นำทางสูญเสียการควบคุมและตกชนกับผิวน้ำ
คำถามเซ็งแซ่ให้หัวข้อข่าววันนี้คือ สงครามใหญ่จะปะทุไหม หลังมะกันทำท่าเดือดจัดเรียกทูตมอสโกว์ประท้วง โวยเครื่องบินรบรัสเซียทำโดรนอเมริกาตกในน่านน้ำสากล ซึ่งต่างจากที่กลาโหมรัสเซียบอกกับสื่อว่าเฉี่ยวเข้ามาใกล้เส้นที่รัสเซียถือเป็นเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ซึ่งสหรัฐฯก็รู้ดีอยู่ การจงใจเช่นนี้มีเป้าหมายแฝงเร้นแน่นอน ซึ่งรัสเซียจะไม่เล่นตามเกมสหรัฐฯ ขณะที่เบลโกรอดของจริงเพราะมีโดรนยูเครนที่ผลิตโดยสหรัฐโจมตี แต่ถูกรัสเซียยิงตกนี่ยิ่งชัดกว่า
วันที่ ๑๕ มี.ค.๒๕๖๖ สำนกข่าวรัสเซียทั้ง ๓ สำนัก ทาซซ์, รัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิก รายงานว่า อนาโตลี แอนโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ (Russian Ambassador to the United States Anatoly Antonov) กล่าวให้สัมภาษณ์ทันที หลังวอชิงตันเรียกเข้าพบเพื่อประท้วง ทูตกล่าวว่า “พวกเขายั่วยุให้เราดำเนินการบางอย่าง ซึ่งจะทำให้พวกเขากล่าวหารัสเซียและกองทัพรัสเซียว่าไม่เป็นมืออาชีพ”
เขากล่าวเสริมว่า “เครื่องบินกำลังบินโดยไม่ได้ติดช่องสัญญาณ และเข้าสู่เขตของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับเขตได้เผยแพร่สู่สาธารณะผ่านช่องทางระหว่างประเทศมาก่อนแล้ว เรารัสเซียได้เตือนทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันคิดว่านี่คือ เป็นการตั้งใจยั่วยุอย่างแท้จริง”
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า “ผลจากการหลบหลีกอย่างเฉียบคมเมื่อเวลาประมาณ 09:30 น. ตามเวลามอสโก ยานบินไร้คนขับ MQ-9 ของสหรัฐฯ เข้าสู่การบินที่ควบคุมไม่ได้โดยสูญเสียความสูงและชนกับพื้นน้ำ เครื่องบินรบของรัสเซียไม่ได้ดำเนินการอะไร อาวุธไม่สัมผัสกับอากาศยานไร้คนขับและกลับสู่สนามบินบ้านเกิดอย่างปลอดภัย”
กระทรวงชี้แจงว่าในเช้าวันอังคารที่ 14 มีนาคม หน่วยควบคุมน่านฟ้าของ Russian Aerospace Forces ได้บันทึกการบินของอากาศยานไร้คนขับ MQ-9 ของสหรัฐฯ เหนือทะเลดำในบริเวณคาบสมุทรไครเมียในทิศทางของพรมแดนรัฐรัสเซีย
ในขณะเดียวกันทางฝั่งสหรัฐฯ แพต เรเดอร์ (Pat Ryder) โฆษกเพนตากอนปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าโดรน MQ-9 Reaper ของสหรัฐฯ ที่ตกเหนือทะเลดำหลังจากการสกัดกั้นโดยเครื่องบินรัสเซียติดอาวุธหรือไม่
ไรเดอร์กล่าวระหว่างการแถลงข่าว“ผมจะไม่ลงรายละเอียดเฉพาะเจาะจงของเครื่องบินลำนี้ อย่างที่คุณทราบ MQ-9 มีความสามารถในการติดอาวุธ” ไรเดอร์ยังเสริมด้วยว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้พูดคุยกับเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
กองบัญชาการยุโรปของสหรัฐฯกลับแถลงเป็นอีกแบบหนึ่งว่าเครื่องบินขับไล่ซู-๒๗ ของรัสเซีย ๒ ลำ เข้าสกัดอากาศยานไร้คนขับเอ็มคิว-๙ รีปเปอร์ เหนือน่านน้ำสากลและทำให้ใบพัดของโดรนฉีกขาด หลายครั้งก่อนการเฉี่ยวชน ซู-๒๗ ทิ้งเชื้อเพลิงและบินอยู่ด้านหน้าของเอ็มคิว-๙ รีปเปอร์ โดยขาดความยั้งคิด ในกรณีแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยและในลักษณะที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ”
ทำชาวโลกงงกับข้อมูลของสหรัฐฯจริงๆว่า ออกข่าวเกินจริงหวังผลอะไร? แต่ที่แน่ๆรัสเซียไม่เล่นด้วย ยังคงบุกหนักที่แนวหน้าในหลายจุด ขณะที่ยูเครนโหมกำลังจำนวนมากเข้ามาในบัคมุตหวังสู้กลับ
เอกอัครราชทูตแอนโทนอฟชี้ว่า โดรนเป็นประเภทที่สามารถบรรทุกขีปนาวุธและระเบิดได้หลายลูก MQ-9 ได้รับการพัฒนาให้เป็น รุ่น “ผู้ฆ่านักล่า”ของโดรนรุ่น MQ-1 Predator
สหรัฐฯ บินโดรนและเครื่องบินตรวจการณ์ใกล้ชายแดนรัสเซียมาเป็นเวลากว่า ๑ ปีแล้ว โดยให้ข้อมูลข่าวกรองและข้อมูลเป้าหมายแก่รัฐบาลยูเครน พร้อมอาวุธ กระสุน และเงิน ขณะที่ปากยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายใดและไม่ได้ขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย
เหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายไม่ได้ระบุตำแหน่งพิกัดที่แน่นอน สื่อรัสเซียรายงานว่าตำแหน่งสุดท้ายของ Reaper อยู่ห่างจากท่าเรือเซวาสโทพอลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ ๖๐ กิโลเมตรเท่านั้น กรณีนี้ถ้าบินเข้าไปถล่มท่าเรือ รัสเซียอาจมีท่าทีอีกแบบหนึ่งก็เป็นได้???