จากที่ Blockdit World Update รายงานภายหลังสหรัฐ คว่ำบาตรรัสเซีย ตกหล่มสงครามในยูเครน มา 1 ปี และซ้ำเติมด้วยกีดกันจีน ส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลท่วมล้นเกินเพดาน 31.4 ไปเป็น 31.6 ล้านล้านดอลลาร์ ก็เกิดอัตราเงินเฟ้อนั้น
ทั้งนี้ Blockdit World Update ยังระบุไว้บางช่วงที่สำคัญอีกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยรัวถี่ยิบจนเกิน 5% เกิดภาวะฟองสบู่แตก ทางเศรษฐกิจการเงิน แค่ 4 วันเท่านั้นธนาคารและสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ Silicon Valley Bank (SVB) , Silvergate Bank , และ Signature Bank ประกาศล้มละลาย ถูกรัฐยึดกิจการ
ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาโพสตืข้อความถึงกรณีดังกล่าวผ่าน Blockdit ด้วยว่า
“หลังจากสามธนาคารล่มสลาย หุ้นหลายธนาคารของอเมริกาตกกราวรูด หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือประเทศหลายประเทศในขณะนี้ เช่น รัสเซีย อิหร่าน จีน เริ่มไม่ใช้เงินดอลล่าร์ แสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่เอาดอลล่าร์แล้วด้วย
นักลงทุนทั่วไปรวมทั้งชาวอเมริกันเองด้วยจึงเริ่มทยอยถอนเงิน หันไปซื้อทองคำ หรือ ถือครองเงินสกุลอื่น เช่น หยวนแทน ราคาทองคำจึงเพิ่มขึ้น ๒% ต้องกำเงิน ๑,๙๐๐ ดอลล่าร์ไปซื้อทองคำแท่ง ๑ ออนซ์
บรรดาคนจำนวนมากที่ฝากเงินกับธนาคารในอเมริกาก็ไม่แน่ใจว่าธนาคารอเมริกาจะเกิดเสถียรภาพไปอย่างยั่งยืนหรือปล่าว จึงพากันแห่ไปถอนเงินจากธนาคารกันมาก เกิดปรากฎการณ์ Bank Run ทำให้ธนาคารอเมริกา ๓ แห่งล่มสลายลง
ที่จริงปัญหาทั้งหมดนี้ โจ ไบเดนวางแผนจะให้เกิดแก่ธนาคารรัสเซียด้วยซ้ำ ในปีที่แล้ว โจ ไบเดนจึงประกาศคว่ำบาตรธนาคารใหญ่ๆของรัสเซีย โดยหวังว่าธนาคารรัสเซียจะประสบปัญหา คนทั่วโลกเห็นธนาคารหลักของรัสเซียถูกประชาคม G7 คว่ำบาตรแล้วจะพากันถอนเงินจากธนาคารรัสเซีย ทำให้ธนาคารหลักรัสเซียล่ม
แต่รัฐบาลรัสเซียไม่โง่ จึงหันไปเร่งพัฒนาเครือข่ายกลุ่ม BRICS เพื่อลดหรือเลิกใช้เงินเปโตรดอลล่าร์ของอเมริกาเพราะเห็นว่าธนาคารอเมริกันผูกติดกับนิสัยล่าอาณานิคมของรัฐบาลอเมริกา นานาชาติหลายประเทศซึ่งเคยถูกอเมริกาปกครองอย่างกดขี่มาแล้วจะเข้ามาร่วมด้วย
เมื่อรัสเซียและจีนรุกคืบ ก็มีหลายชาติแสดงท่าทีไม่เอาดอลล่าร์ตามเพราะเห็นๆ อยู่ว่ารัฐบาลอเมริกาแทรกแซงการเมืองภายในประเทศพวกตนมากและอเมริกายังเดินหน้าคว่ำบาตรชาติต่างๆ ตามใจชอบ สร้างศัตรูไปทั่วเหมือนเดิม ผู้นำหลายประเทศจึงหันไปทาง BRICS กันมากกว่า
เมื่อธนาคารตนเองล่ม โจ ไบเดนจึงแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการ ๒ อย่างคือ ๑.รัฐบาลกระโดดมาอุ้มเต็มที่ หันไปปั้มเปโตรดอลล่าร์มาช่วยเสริมสภาพคล่อง ๒.ปลอบใจให้ประชาชนทราบว่าธนาคารอเมริกันยังมีเสถียรภาพอยู่เพราะรัฐบาลอุ้มเพื่อให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น
แต่ต่อให้รัฐบาลอเมริกาใช้มาตรการอะไรแก้ปัญหาขณะนี้ก็คงได้ผลแค่ช่วงสั้น เพราะหลายประเทศ ยังคงจะเดินหน้าเข้าหา BRICS และลดการใช้ หรือ เลิกใช้เปโตรดอลล่าร์เหมือนเดิม
ทางที่ดีในระยะยาวสำหรับไทยคือน่าจะทยอยลดการถือครองพันธบัตรดอลล่าร์ลง ปัจจุบันประเทศที่ถือครองดอลล่าร์ ๓๐ รายแรกส่วนใหญ่เป็นประเทศบริวารของอเมริกาทั้งนั้น ยกเว้นบางประเทศ เช่น จีน ที่ทยอยหาจังหวะเทดอลล่าร์ออก
ขณะนี้ จีนถือครองพันธบัตรดอลล่าร์ของอเมริกาอยู่ ๘๖๗.๑ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ ๒ รองจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริวารของอเมริกา ที่ถือครองอยู่ ๑๐๗๖.๓ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ส่วนไทยถือครองอยู่ ๔๖ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา อยู่อันดับ ๒๙ ของประเทศที่ถือครองพันธบัตรดอลล่าร์มากที่สุด”
