จากที่ชาติยุโรปเริ่มประสบวิกฤตปัญหาทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น หลายธนาคารยักษ์ใหญ่ต้องล้มละลาย ทำให้ทั่วโลกเฝ้าจับตามองว่า มหาอำนาจจะแก้ปัญหาเหล่าได้หรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าอำนาจของขั้วเก่ากำลังจะสูญสลายไปหมดแล้ว?!?
ล่าสุดวันที่ 15 มีนาคม 2566 Blockdit World Update เผยแพร่ข้อมูลของชาติแอฟริกาที่ลุกขึ้นมาต่อต้านบรรดาประเทศตะวันตกในการบีบให้เลือกข้างว่า
“ช่วงไม่กี่ปีมานี้ชาวแอฟริกา มีความรู้สึกต่อต้านชาติตะวันตกนักล่าอาณานิคมพุ่งสูงขึ้น ส่วนสถานะของรัสเซียและจีน กลับตาลปัตรเข้มแข็งขึ้นในทวีปแอฟริกา
เมื่อต้นเดือน มีนาคม ที่ผ่านมาประธานาธิบดีมาครง ผู้นำฝรั่งเศส ตระเวนเดินสายชาติในแอฟริกา หวังจะเรียกคืนอิทธิพลคืนมา แต่กลับเจอดีเมื่อโผล่ประเทศไหน ก็เจอม็อบขับไล่ประเทศนั้น
ในแอฟริกากลาง คองโก ยูกันดา โปรรัสเซียขนานแท้ ชาติตะวันตกสหรัฐ และฝรั่งเศส เดินสายมาขอร้องให้ยุติความร่วมมือกับรัสเซีย สร้างความโกรธแค้นให้ประชาชนจึงก่อม็อบประท้วงที่แทรกแซงกิจการภายในของตน และขับไล่ผู้นำฝรั่งเศส
เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นาย Jeje Odongo รัฐมนตรีต่างประเทศยูกันดา แฉกับสื่อ RIA Novosti รัสเซียว่า บรรดาชาติในยุโรป มากดดันต้องการให้อดีตชาติที่เคยเป็นอาณานิคมเป็นศัตรูกับรัสเซีย แต่เป็นไปไม่ได้เพราะยูกันดามีความสัมพันธ์ที่ดีในประวัติศาสตร์ยาวนานกับรัสเซียตั้งแต่ปี 2503 ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เริ่มเป็นผู้นำรัสเซียสมัยแรก
ชาติเราตกเป็นอาณานิคมยุโรป และเรายกโทษให้ผู้ที่ยึดครองเราแล้ว ตอนนี้ชาตินักล่าอาณานิคมเหล่านั้นยังมาสั่งให้เราเป็นศัตรูกับรัสเซีย ซึ่งไม่เคยรุกรานเรา มันยุติธรรมไหม? เหตุใดเราต้องเป็นศัตรูกับเพื่อนของเรา
ศัตรูของพวกชาวยุโรปก็คือเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา ส่วนเพื่อนของชาวยูกันดาก็ไม่เกี่ยวกับชาวยุโรป นักเรียนของยูกันดาหลายคนได้รับการศึกษาในรัสเซีย ดังนั้นทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นปัญหา เรารักษาความสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งเคยมีมาในอดีตกับเรา
ส่วนนามิเบีย เป็นประเทศในแอฟริกาใต้ ติดฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ติดกับแอฟริกาใต้ ในปี 2427 เคยถูกเยอรมนี ส่งกองทัพมารุกรานยึดเป็นเมืองขึ้น ต่อมาก็ตกเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ และช่วงชาวตะวันตกปกครองแอฟริกาไต้ ก็ยึดนามิเบีย เป็นเมืองขึ้นอีกทอดหนึ่ง
จนปี 2533 ก็ได้รับเอกราช เป็นประเทศใหม่พร้อมรัสเซีย มีภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูงและทะเลทราย ปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-aligned Movement – NAM) มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ คือ เพชร ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ยูเรเนียม เงิน และสินทางการเกษตร
ชาวนามิเบีย ถูกชาติตะวันตกรุกราน กดขี่ปกครองยาวนาน เหมือนชาติทวีปแอฟริกาอื่นๆ จึงอยากปลดแอกตนเอง ช่วงหลังมาได้เจริญสัมพันธไมตรีกับจีน สร้างความเจริญ และเศรษฐกิจดี
ล่าสุดเกิดเรื่องฮือฮาขึ้นเมื่อมีคลิปข่าวการพูดคุยสนทนากันระหว่างประธานาธิบดีฮาเก กอตต์ฟรีด เกนโกบ ผู้นำนามิเบีย กับนายอร์เบอร์ ลามเมอร์ ทูตเยอรมนี ประจำนามิเบีย
โดยทูตเยอรมนี พยายามกีดกันจีน เขาบ่นว่า “จำนวนชาวจีนในนามิเบียมากกว่า 4 เท่าของชาวเยอรมัน ซึ่งมากเกินไปและมีบทบาทต่อสังคมนามิเบีย มากกว่าเยอรมนี”
เลยเจอผู้นำนามิเบียจัดหนักสวนกลับว่า “ท่านทูตที่รัก ท่านพูดอะไรเนี่ย” สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นปัญหาของชาวยุโรป แต่ไม่ใช่ปัญหาของเรา ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นชาวจีนมาทำลายอะไรของเราเลย แต่ชาวเยอรมันทำมาตลอด
เหตุใดเมื่อชาวยุโรป หรือ ชาวอเมริกันมาถึงที่นี่ ก็มักจะชอบพูดคุยหาเรื่องกับชาวจีน แล้วชาวจีนมีปัญหาอะไรหรือ คุณคิดว่า ชาวจีนจะแย่งนามิเบียกับพวกคุณหรือ
แต่สิ่งที่ผมได้เห็นคือ ชาวจีนให้ความเคารพ ให้เกียรติกับพวกเรา ไม่เห็นเราเป็นหุ่นเชิด ชาวจีนกระจายอยู่ทั่วแอฟริกา พวกเขากำลังดำเนินโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอยู่ เป็นการทำเรื่องดีให้กับแอฟริกา
เราเป็นประเทศที่มีอธิปไตย ข้าพเจ้ารู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน เข้าใจชาวจีน พวกเขาไม่เคยทำลายอะไรพวกเราเลย ไม่เคยมีพฤติกรรมลัทธิล่าอาณานิคม และลัทธิจักรวรรดินิยมในดินแดนของเราเลย มีแต่ประเทศตะวันตกเท่านั้นที่เคยทำมาก่อน”