ความแตกแยกร้าวลึกของสังคมอเมริกันนับวัน โผล่ออกมาให้เห็นเป็นระลอก ล่าสุดเรื่องความเห็นของการสนับสนุนเคียฟอย่างไม่มีวันจบสิ้นของไบเดนก็ถูกขัดขวางโดยพรรครีพับลิกันจนทำให้เซเลนสกี้ต้องออกมาโวย ยังมีแนวคิดในการจัดการปัญหาหนี้สินล้นทะลุเพดาน และโอกาสผิดนัดชำระหนี้รอทะเลาะกันอยู่อีกมิหนำซ้ำวิกฤตธนาคารใหญ่ล้มละลายเป็นระลอก มีการถอนเงินสดอย่างต่อเนื่องจนเฟด และไบเดนต้องออกมายอมช่วยแบงก์ และยอมให้มีการจ่ายเงินค้ำประกันหนี้ของลูกค้าแบงก์ เพราะเกรงจะล้มกันเป็นโดมิโนอย่างมโหฬาร
ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวายทางเศรษฐกิจระดับมหภาพของสหรัฐ เท็กซัดก็ออกมาประกาศว่ากำลังร่างกฎหมายของแยกประเทศ โดยจะสามารถจัดการลงประชามติได้ปลายปีนี้ ขณะที่จอร์เจียเอาด้วยขอแยกประเทศเป็นสองฝ่ายชัดๆไปเลยหรือและอำนาจรัฐบาลกลางลง เค้าลางระส่ำระสายและความแตกแยกร้าวลึกของคนอเมริกัน นอกจากถูกปลุกเร้าให้เกลียดกลัวรัสเซียและจีนแล้ว ยังโกรธเกลียดกันเองอย่างลึกซึ้ง
วันที่ ๑๓ มี.ค. ๒๕๖๖ สำนักข่าวนิวยอร์กโพสต์และยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเท็กซัส ยื่นร่างกฎหมาย ‘TEXIT’ ที่จะจัดให้มีการลงประชามติเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพิจารณาว่ารัฐเท็กซัสควรแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ซึ่งหากร่างกฎหมาย ‘TEXIT’ ผ่านสภาของรัฐเท็กซัส จะมีกำหนดการทำประชามติในวันที่ ๗ พ.ย. นี้
“รัฐธรรมนูญของรัฐเท็กซัสระบุไว้อย่างความชัดเจนว่า อำนาจทางการเมืองทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน” “หลังจากที่สิทธิและเสรีภาพของชาวเท็กซัสถูกริดรอนโดยรัฐบาลกลางมานานหลายทศวรรษ ถึงเวลาแล้วที่ชาวเท็กซัสจะต้องส่งเสียงของตนเองให้ชาวอเมริกันได้รับรู้แล้ว” ไบรอัน สลาตัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส (Bryan Slaton (R-Houston) สังกัดพรรครีพับลิกันจากฮุสตัน กล่าวในแถลงการณ์
ทั้งนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐเท็กซัส ได้ยื่นร่างกฎหมายในลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งได้ถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการกิจการของรัฐ ก็ตามร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้รับการไต่สวนหรือลงมติแต่ประการใด
ความพยายามผลักดันร่างกฎหมายในครั้งนี้มีขึ้นเพียง ๒ สัปดาห์หลังจากที่ มาเจอรีน เทย์เลอร์ กรีน สมาชิกสภาคองเกรสแห่งรัฐจอร์เจีย สังกัดพรรครีพับลิกัน เสนอแนวคิดให้ออกกฎหมาย “การหย่าร้างแห่งชาติ” (national divorce) หรือกฎหมายที่จะแบ่งประเทศออกเป็นรัฐสีแดง (พรรครีพับลิกัน) – รัฐสีฟ้า (พรรคเดโมแครต) และลดขนาดรัฐบาลกลางลง
เท็กซัสเป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นที่กว่า ๖๙๖,๐๐๐ตารางกิโลเมตร เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ถ้านับรัฐที่อยู่ในแผ่นดินแม่อเมริกา แต่ถ้านับครบทุกรัฐ จะใหญ่เป็นอันดับ ๒ รองจากรัฐอลาสก้า รวมทั้งรัฐเท็กซัสมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทย มีประชาชนมากอันดับ ๒ ในอเมริกา รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย มี GDP ใหญ่อันดับที่ ๒ ของอเมริกา รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย
ถ้าหากรัฐเท็กซัสแยกตัวออกจากอเมริกา ถ้าเป็นประเทศ จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ ๙ ของโลก
GDP รัฐ Texas คิดเป็นสัดส่วนประมาณ ๙% ของมูลค่า GDP ของสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่ากว่า ๖๑๐ ล้านล้านบาท และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรเท่ากับ ๑.๘ ล้านบาทต่อปี
ในปี ๒๐๑๘ สหรัฐอเมริกา ผลิตน้ำมันได้ ๑๐.๙ ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรัฐ Texas รัฐเดียวนั้นผลิตน้ำมันได้ ๔.๔ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ ๔๐% ของการผลิตน้ำมันในประเทศ ดังนั้นถ้า Texasแยกตัวเป็นประเทศ Texas จะเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดลำดับที่ ๔ โลก เท่ากับประเทศอิรักในปัจจุบันเลยทีเดียว
ข้อมูลจากหน่วยงานด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกานั้น ระบุว่า รัฐ Texas มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองกว่า ๑๕,๙๔๐ ล้านบาร์เรล หรือประมาณ ๔๕% ของปริมาณน้ำมันดิบสำรองในประเทศ เช่นนี้ทำให้คนเท็กซัสซึ่งเป็นฐานเสียงที่แข็งแกร่งของรีพับลิกันพร้อมสนับสนุนแนวคิดแยกประเทศเพราะฐานเศรษฐกิจเจ๋งนั่นเอง
ในขณะเดียวกันความขัดแย้งเรื่องการสนับสนุนยูเครนก็เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองพรรคใหญ่มากขึ้น
ปธน.เซเลนสกี้แห่งยูเครน ออกปากเชิญประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เควิน แมคคาร์ธี เยือนเคียฟ เพื่อขอให้ช่วยเขาในเรื่องการช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน สนับสนุนข้อเสนอของเดโมแครตในสภา แตีแมคคาร์ธีให้คำมั่นว่าจะไม่อนุญาตให้”เช็คเปล่า”แก่เคียฟ แม้ว่าเขาได้สนับสนุนชุดอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วก็ตาม
เซเลนสกี้ตำหนิผู้นำสภาสหรัฐฯว่า “นาย. แมคคาร์ธี เขาต้องมาที่นี่เพื่อดูว่าเราทำงานอย่างไร เกิดอะไรขึ้นที่นี่ สงครามอะไรทำให้เราเกิด คนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ตอนนี้ จากนั้นค่อยตั้งสมมติฐานของคุณ” ผู้นำยูเครนกล่าวกับ CNN เมื่อวันพุธสัปดาห์ที่ผ่านมา
แมคคาร์ธียืนยันว่า เขาไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ เขากล่าวว่า“ไม่ต้องมาพูดกันให้ชัดเจนกว่านี้ ไม่มีกาเครื่องหมายว่างหรือ โอเค? จากมุมมองนั้น ผมไม่ต้องไปยูเครนเพื่อทำความเข้าใจว่ามีเช็คเปล่าหรือไม่”ไม่จำเป็นต้องไปถึงยูเครนหรือเคียฟเพื่อพบเขาคนนั้น” ความจริงแล้วความสงสัยเรื่องการทุตริตคอรัปชั่นในหมู่ผู้นำชั้นสูงของยูเครนยังแพร่หลายทั้งในสหรัฐฯเองและยุโรป เมการู้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพื่อเป้าหมายใหญ่ทางภูมิรัฐศาสตร์ทำลายรัสเซียแล้วไม่คิดเลือกวิธี
ยูเครนยังไม่เท่าไหร่ เหตุการณ์ประท้วงจลาจลในกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล เนทันยาฮูผู้นำอิสราเอลออกปากว่า ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน สัมพันธ์ร้าวฉานกับอิสราเอลที่แสนจะเคยแนบแน่นสั่นคลอนได้ขนาดนี้เพราะมีเบื้องหลังอะไรต้องจับตาดู เรียกว่าร้อนระอุทั้งปัญหาภายในประเทศและต่างประเทศไม่เฉพาะกับศัตรูขู่แข่งแม้แต่พันธมิตรก็ไม่เว้น!!??