ความเคลื่อนไหวในดินแดนที่ติดกับมอลโดวาร้อนระอุไม่แพ้ย่านอื่นๆที่แวดล้อมรัสเซีย ล่าสุดทางการของทรานส์นิสเตรียออกมาโวยลั่นว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยของยูเครนอยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหารผู้นำทรานส์นิสเตรีย แต่จับได้ก่อนแผนเลยแตก และสปายสารภาพหมดเปลือกว่าได้รับคำสั่งตรงจากยูเครน
วันที่ ๑๐ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า สำนักงานอัยการของทรานส์นิสเตรีย เปิดเผยว่า การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในทรานส์นิสเตรียมีแผนที่จะเกิดขึ้นที่ใจกลางเมืองตีราสปอล โดยผู้กระทำความผิดวางแผนที่จะกำจัดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
แผนการลอบสังหารมุ่งเป้าไปที่วาดิม คราสโนเซลสกี้ (Vadim Krasnoselsky) ผู้นำ ทรานส์นิสเตรีย(Transnistria) ถูกขัดขวาง ผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวและสารภาพถึงเจ้านายผู้สั่งการ
ตามรายงานของกระทรวง การโจมตีของผู้ก่อการร้ายกำลังวางแผนโจมตีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งของสาธารณรัฐโดยหน่วยความมั่นคงของยูเครน กระทรวงฯ เสริมว่า “คดีอาญาได้เปิดขึ้นแล้วและกำลังถูกสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรม”
รัฐมนตรีต่างประเทศของสาธารณรัฐ วิทาลี อิกนาเยฟ กล่าวในถ้อยแถลงว่า “ปัจจุบัน ผู้นำกลุ่มทรานส์นิสเตรียนอยู่ในที่ทำงานและปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ”
เขากล่าวว่า Transnistria จะขอให้ยูเครนส่งข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายและจะอุทธรณ์ต่อผู้เข้าร่วมรูปแบบการตั้งถิ่นฐานของ Transnistria เพื่อป้องกันความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มขึ้น
เขาเสริมว่าสาธารณรัฐอาจยกประเด็นนี้กับสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อเรียกร้องความสนใจไปที่การโจมตีที่ขัดขวางการบรรลุสถานภาพของสาธารณรัฐ ในขณะเดียวกัน ทางการกำลังทำงานในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อตอบโต้ในกรณีที่มีการโจมตีจากยูเครน
ชาวทรานส์นิสเตรียที่พูดภาษารัสเซียส่วนใหญ่ พยายามแยกตัวออกจากมอลโดวาตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ในปี ๑๙๙๒ และได้กลายเป็นดินแดนโดยพฤตินัยที่ไม่ได้ควบคุมโดยรัฐบาลคีชีเนาของมอลโดวา หลังจากความขัดแย้งทางทหารเป็นเวลาสองปี
สันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งของชาวทรานส์นิสเตรียนได้รับการดูแลโดยกองกำลังรักษาสันติภาพร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วยรัสเซีย ๔๐๒ นาย ทรานส์นิสเตรียน ๔๙๒ นาย ทหารมอลโดวา ๓๕๕ นาย และผู้สังเกตการณ์ทางทหาร ๑๐ นายจากยูเครน เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ ๑๕ จุด ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนสำคัญของเขตรักษาความปลอดภัยระหว่างสองดินแดน
ด้านรัฐบาลในคีชีเนาแห่งมอลโดว่ากล่าวว่า กำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่าเคียฟอ้างถึงการยั่วยุของรัสเซีย และเคียฟปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ทรานส์นิสเตรียเปิดโปงว่าเป็น “การยั่วยุ” ของเครมลินในการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว ซึ่งทอดยาวตามแนวชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนติดกับมอลโดวา
นายกรัฐมนตรีโดริน เรเชียนแห่งมอลโดวา กล่าวว่า “รัฐบาลพร้อมรับมือกับการยั่วยุเรายังไม่ได้รับการยืนยันเรื่องเหล่านี้”
ปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมรัสเซียส่งสัญญาณเตือนภัยว่า กองกำลังทหารยูเครนได้เตรียมการอย่างเข้มข้นสำหรับการรุกรานของทรานส์นิสเตรีย
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “ระบอบการปกครองของเคียฟได้เตรียมการอย่างเข้มข้นสำหรับการรุกรานสาธารณรัฐ PMRหรือ พรีเนสโตรเวียน วอลโดเวียน (Pridnestrovian Moldavian) การยั่วยุของกองกำลังติดอาวุธยูเครนจะดำเนินการโดยอ้างว่า เพื่อตอบสนองต่อการโจมตีของกองทหารรัสเซียจากดินแดนทรานส์นิสเตรีย”
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า “ปัจจุบันรัสเซียเห็นการสะสมบุคลากรและยุทโธปกรณ์ทางทหารจำนวนมากของหน่วยยูเครนใกล้กับชายแดนยูเครน-ปริดเนสโตรเวีย การติดตั้งปืนใหญ่ในตำแหน่งการยิง เช่นเดียวกับการเพิ่มเที่ยวบินของเครื่องบินไร้คนขับของกองทัพยูเครนเหนือ ดินแดนทรานส์นิสเตรีย”
กระทรวงฯเน้นย้ำว่า “การดำเนินการตามแผนยั่วยุโดยทางการยูเครนเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียที่ประจำการอย่างถูกกฎหมายในทรานส์นิสเตรีย กองทัพรัสเซียจะตอบสนองต่อการยั่วยุที่จะเกิดขึ้นโดยฝ่ายยูเครนอย่างถึงที่สุด”
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมให้รายละเอียดว่ากองกำลังยูเครนตั้งใจแต่งเครื่องแบบรัสเซียเพื่อเป็นข้ออ้างในการรุกรานของ PMR พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งระบุว่ากองพันลัทธิทหารสุดโต่งอะซอฟ (Azov)ได้รับการปักหมุดว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายและถูกแบนในรัสเซียจะมีส่วนร่วมในการยั่วยุที่จะเกิดขึ้นด้วย!!??
