จากกรณีมีรายงานถึงการบุกโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพรัสเซียต่อเมืองบัคมุต โดยที่ฝ่ายกองกำลังผสมของยูเครนต้องล่าถอย ขณะเดียวกันผู้นำประเทศก็มีคำสั่งให่เสริมกำลังพลเข้าไปช่วยด้วย
ล่าสุดวันที่ 07 มีนาคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความลง Blockdit ถึงสถานการณ์ในยูเครนในหลายเหตุการณ์ว่า
“กองทัพยูเครนกำลังถูกกองทัพรัสเซียยำหนักที่เมืองบัคมุต หนีกระเจิด กระเจิงคนละทิศคนละทาง การถอยมี ๒ รูปแบบครับแบบที่ ๑ คือ ถอยทางแท็คติก หรือ ถอยทางยุทธศาสตร์ (tactical withdrawal) หมายถึงถอยทั้งกองทัพ ถอยไปด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ เป็นการถอยเพื่อจะบุกเอาชัยในวันข้างหน้า เหมือนที่กองทัพรัสเซียเคยถอยที่ดอนบัส
แบบที่ ๒ คือการถอยแบบใส่เกียร์หลบหนีตัวใครตัวมันไปคนละทิศคนละทาง (disorderly retreat) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทหารยูเครนในเมืองบัคมุตกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้
กองทัพยูเครนโอดครวญว่าอาวุธไม่มี กระสุนไม่มีเมื่อเทียบกับรัสเซียแล้วสู้ไม่ได้ กองทัพนาโต้เองก็บ่น ไม่ใช่เฉพาะยูเครนที่ไม่มี นาโต้เองจะให้ยูเครนไปใช้หมดก็ไม่ได้ จะไม่มีอะไรเหลือให้กองทัพนาโต้เองได้ใช้
พอเห็นว่ากองทัพยูเครนกำลังหมดกระสุนจะต่อสู้กับรัสเซีย แถมล่าถอยอีกต่างหาก สื่อเทียมตะวันตกบางสำนักเช่น BBC ข้างล่างนี้ พากันใช้แรงดิ้นเฮือกสุดท้าย เขียนข่าวเท็จลวงโลกว่ากองทัพรัสเซียกำลังหมดกระสุน ใช้มือเปล่า/พลั่วต่อสู้กับกองทัพยูเครน
อย่างน้อย ก่อนที่กองทัพยูเครนจะถูกกวาดล้างจากบัคมุต สำนักข่าวลวงโลกอย่าง BBC ก็ได้เขียนข่าวเท็จลวงโลกให้คนเชียร์รัสเซียบางกลุ่มไขว้เขวได้บ้าง
https://www.bbc.com/news/world-europe-64855760
นอกจากนี้ดร.ปฐมพงษ์ ยังได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ในเมืองบัคมุตอีกครั้งว่า “ทหารยุเครนหนี …ไปจากบัคมุต:สังเกตการหนีมั้ยครับ? ทหารยูเครนหนีไปคนละทิศคนละทาง
ไม่ใช่เป็นการถอนกำลังอย่างมีระเบียบวินัยคือหนีไป ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด นี่ถ้ากองทัพรัสเซียใช้เฮลิคอปเตอร์ Ka-52 ไล่ยิงทิ้ง ก็เสร็จหมดเหมือนกัน แต่รัสเซียก็ไม่ทำ”
“ทหารยูเครนหนีจากบัคมุต:รัสเซียคงไม่อยากฆ่าแกงอะไรกองทัพยูเครนมากเพราะ เห็นๆ อยู่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์สู้รัสเซียไม่ได้ จึงใช้วิธีบีบให้ทหารยูเครนหลบหนีกันให้มากที่สุด
แต่ที่น่าข้นคือในคลิปนี้ ทหารยูเครนขนโถส้วมและถังน้ำไปด้วย แม้จะอยู่ในภาวะสงคราม แต่ยามเข้าสุขาก็ขอให้มีสุขาจริงๆ หน่อยเถอะ คงจะคิดกันอย่างนี้”