กระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้าของอิหร่านประกาศในสัปดาห์นี้ว่านักธรณีวิทยาได้ค้นพบลิเธียมประมาณ ๘.๖ ล้านตันในจังหวัดฮามาดันทางตะวันตก ทำให้ชาวอิหร่านภาคภูมิใจในทันทีที่เป็นเจ้าของหนึ่งในห้าแหล่งสำรองโลหะมีค่าที่ใหญ่ที่สุดอันดับ ๒ ในโลก
ในโลกปัจจุบันทรัพยากรเชิงกลยุทธ์และมีค่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเทคโนโลยีขั้นสูง เพราะลิเธียมเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และมีปริมาณการใช้ถึง ๑๓๔,๐๐๐ ตันในปี ๒๕๖๕ เพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของยานพาหนะประเภทนี้ทั่วโลก
หากปริมาณทั้งหมดนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ อิหร่านยังมีน้ำมันและก๊าซสำรองจำนวนมาก เป็นอันดับสามและสี่ของโลก แต่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้ไม่สามารถทำการตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ตามปกติ
ผู้สังเกตการณ์กลัวว่าตะวันตกจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ประเด็นนี้สื่อสปุ๊ตนิคของรัสเซียออกมาแซะว่า น่ากลัวเมกาและตะวันตกคงกำลังตัดสินใจส่งประชาธิปไตยให้อิหร่านเร็วขึ้นแน่ หลังที่รายงานว่า สหรัฐฯและอิสราเอลเตรียมแผนถล่มอิหร่านมาตั้งแต่ปี ๒๐๑๘
วันที่ ๕ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิคและอัลมายาดีน รายงานว่า โมฮัมหมัด ฮาดี อาห์มาดี(Mohammad Hadi Ahmadi) รองประธานฝ่ายเหมืองแร่และอุตสาหกรรมแร่ของ Industry, Mining ของจังหวัดฮามาดัน (Hamadan) และองค์การค้าแห่งอิหร่านแถลงเมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา
อาห์มาดี ยกย่องศักยภาพการส่งออกอันมหาศาลของโลหะมีค่า และความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมในประเทศอิหร่านหลายแห่งจะใช้ประโยชน์ได้
ลิเธียมเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการ มีปริมาณสำรองจำกัด แต่โลหะมีความสำคัญต่อการใช้งานที่หลากหลาย แบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้สำหรับโทรศัพท์ แล็ปท็อป อุปกรณ์อื่นๆ และแบตเตอรี่ที่ใช้ในยานพาหนะไฟฟ้า ประมาณสามในสี่ของลิเธียม ขุดทุกปีใช้ในแอพพลิเคชั่นแบตเตอรี่ โลหะมีค่ายังใช้ในการผลิตแก้วเรืองแสงเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต โดยประมาณ ๑๔ เปอร์เซ็นต์ของการผลิตเพื่อจุดประสงค์นี้ ลิเธียมซัลไฟด์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ในการจัดเก็บสารเคมี และเป็นแหล่งกระแสไฟฟ้า โลหะนี้ยังใช้ในการใช้งานนิวเคลียร์ โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งที่มาของไอโซโทปกัมมันตรังสีไอโซโทปไอโซโทปที่พร้อมใช้งาน ซึ่งใช้ในการผลิตแท่งควบคุมระบบป้องกันเครื่องปฏิกรณ์
ลิเธียมยังใช้ในโลหะวิทยาในฐานะสารกำจัดออกซิไดเซอร์ และเพื่อเพิ่มความเหนียวและความแข็งแรงของโลหะผสม ในการแพทย์ และระบบทำความเย็นในรูปของลิเธียมโบรไมด์ ประการสุดท้าย โลหะชนิดนี้มีการใช้งานที่สำคัญในภาคการขนส่งและการป้องกัน โดยมีลิเธียมไฮไดรด์ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงจรวด และเป็นจาระบีในการใช้งานเชิงกลต่างๆ เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องบิน คุณเคยใช้จาระบีลิเธียมในครัวเรือน หากคุณเคยซื้อ WD-40 กระป๋อง
การประมาณการในปี ๒๕๖๔ โดย US Geological Service ทำให้ปริมาณสำรองทั่วโลกของลิเธียมอยู่ที่ ๘๖ ล้านตัน หมายความว่าการค้นพบโดยอิหร่านในสัปดาห์นี้เพิ่งเพิ่มปริมาณสำรองขึ้น ๑๐ เปอร์เซ็นต์ โลหะมีค่ามีราคาตลาดประมาณ ๕๗,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หมายความว่าเงินฝากที่เพิ่งค้นพบของอิหร่านมีมูลค่าประมาณ ๔.๙๔๕ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากการใช้งานในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดระดับโลก ลิเธียมจึงเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในปี๒๐๒๐ ท่ามกลางความวุ่นวายในโบลิเวียหลังการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX ทวีตอย่างไม่ไยดีว่าสหรัฐฯ “จะทำรัฐประหารใครก็ได้ที่เราต้องการ!” หลังจากมีคนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของสหรัฐฯ ในการสมรู้ร่วมคิดในการถอดประธานาธิบดี Evo Morales ของโบลิเวียออกจากอำนาจ Morales ตอบโต้โดยชี้ว่า Musk “เจ้าของโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่” ยอมรับว่าฒ๊การรัฐประหารเกิดขึ้นเหนือลิเธียมของโบลิเวีย และให้คำมั่นว่าชาวโบลิเวีย “จะปกป้องทรัพยากรของเราเสมอ!” พรรคของโมราเลสกลับสู่อำนาจในอีกหนึ่งปีต่อมาทำให้เขาสามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย
การ์แลนด์ นิกสัน ผู้จัดรายการ Sputnik Radio ทวีตประชดประชันว่า “ความมั่งคั่งของลิเธียมของอิหร่านจุดประกายความกังวลของสหรัฐฯและพันธมิตรว่าจะสามารถยับยั้งตนเองจากการพยายาม “นำเสรีภาพและประชาธิปไตย” มาสู่ประเทศในตะวันออกกลางด้วยปลายกระบอกปืนได้หรือไม่ เพราะตอนนี้อิหร่านต้องการประชาธิปไตยอย่างเร่งด่วน”
วิเคราะห์ไม่ทันข้ามวัน ปรากฎว่า พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯเดินทางถึงอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อพูดคุยกับกองทัพอิสราเอล
พันเอกเดฟ บัตเลอร์ โฆษกทั่วไปกองกำลังอิสราเอลกล่าวว่า “พวกเขาจะจัดการกับความท้าทายและโอกาสมากมายที่อิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลางเผชิญอยู่”
มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมเดินทางถึงอิสราเอลพบกับนายพลเฮอร์ซี ฮาเลวี(Herzi Halevi)รมว.กลาโหมและผู้บัญชาการกองกำลังอิสราเอล และเจ้าหน้าที่จากสถาบันความมั่นคงของอิสราเอล ด้วย”
“ในระหว่างการประชุม เจ้าหน้าที่ได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค โอกาสในการเพิ่มความร่วมมือในการปฏิบัติงาน การประสานงานเพื่อป้องกันภัยคุกคามในระดับภูมิภาค และประเด็นอื่น ๆ ที่มีผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ร่วมกัน สหรัฐฯ และอิสราเอลรักษาความสัมพันธ์ทางทหารต่อกองทัพที่แน่นแฟ้นในฐานะพันธมิตรสำคัญที่มุ่งมั่นที่รักษาสันติภาพและความมั่นคงในตะวันออกกลาง”
ดูเหมือนว่าทางการอิสราเอลชุดนี้จะไม่หวั่นไหวต่อกระแสต่อต้านรัฐบาลเนทันยาฮู ที่การชุมนุมประท้วงครั้งมโหฬารยังดำเนินอยู่ ด้วยเชื่อมั่นว่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสำคัยกลุ่มมหาอำนาจโลกเดี่ยวที่มีสหรัฐฯเป็นหัวโจก คงต้องจับตาต่อไปว่า สถานการณ์ในตะวันออกกลางจะปะทุเดือดมากแค่ไหน เมื่่อที่เวสต์แบงก์มีการต่อสู้และการประท้วงจากชาวปาเลสไตน์อย่างดุเดือด และมีการโจมตีซีเรียโดยกองกำลังอิสราเอลอยู่เป็นระยะ!!??