ขณะที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพเกมสงครามเพื่อผู้บัญชาการยูเครน นายทหารของเคียฟเข้าร่วมการฝึกเป็นเวลาหลายวันที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพพื้นที่ นายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯเป็นผู้ประกาศอย่างเปิดเผย
มิลลีย์กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ยูเครนหลายสิบนายเข้าร่วมการฝึกที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในเมืองวีสบาเดน มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้บัญชาการของเคียฟเตรียมพร้อมสำหรับระยะต่อไปของความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย” แต่เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบที่กำลังจะเกิดขึ้น
ด้านพันธมิตรรัสเซีย หลังจากเลขาธิการความมั่นคงของรัสเซียเดินสายเยือนประเทศละตินอเมริกาอย่างเวเนซูเอลาและคิวบา ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นโดยเฉพาะเวเนซูเอลา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงของเวเนฯแสดงจุดยืนชัดว่าเลือกเป็นพันธมิตรทางทหารกับรัสเซียและพร้อมสนับสนันทุกเรื่อง
ขณะเดียวกันหลังเบลารุสเยือนจีนตามคำเชิญของสี จิ้นผิงแล้วกลับมาก็เตรียมรับศึกประชิดชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวกำลังทหารของโปแลนด์และเคียฟอย่างต่อเนื่อง ประกาศกำลังพร้อม อาวุธพร้อม
วันที่ ๕ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของรัสเซียได้ไปเยือนเวเนซุเอลาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้พบปะกับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร และพูดถึง“แรงกดดันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน”ของสหรัฐฯ ที่มีต่อพันธมิตรของมอสโกว์
นิโคเลย์ ปาทรุเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซีย (Nikolay Patrushev :Secretary of the Security Council of Russia) กล่าวระหว่างเยือนการากัสว่า “มอสโกรู้สึกขอบคุณเวเนซุเอลาที่ประณามนโยบาย “ทำลายล้าง” ของชาติตะวันตก”
สหรัฐฯ จะใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อบีบให้ประเทศต่างๆ ตัดความสัมพันธ์กับมอสโก นิโคเลย์ ปาทรุเชฟ เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย กล่าวระหว่างเยือนเวเนซุเอลา เขายังเตือนด้วยว่าวอชิงตันตั้งใจรักษาระเบียบโลกขั้วเดียว
ปาตรุเชฟได้จัดการพบปะหารือให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยกับ โฮเซ อเดลิโน เฟอร์เรียรา(Jose Adelino Ornelas Ferreira) เลขาธิการความมั่นคงเวเนซุเอลาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ในการากัสเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของรัสเซียแย้งว่า“ขณะนี้รัฐอธิปไตยทั้งหมดกำลังประสบกับช่วงเวลาแห่งความจริง เมื่อพวกเขาต้องเลือกว่าจะปกป้องเสรีภาพในการเลือกเส้นทาง คุณค่าและอัตลักษณ์ของตนเอง หรือยอมจำนนต่อคำสั่งของกลุ่มตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ”
ปาตรุเชฟยืนกรานว่า “ในความพยายามที่จะรักษาระเบียบโลกขั้วเดียว วอชิงตันและพันธมิตรหันไปใช้แรงกดดันทางการเมือง การแบล็กเมล์ทางทหาร การข่มให้เป็นทาสทางการเงิน การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวงดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์”
“พันธมิตรระหว่างประเทศของมอสโกว์ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนจากสหรัฐฯ ซึ่งพยายามบีบให้พวกเขาตัดความสัมพันธ์ใดๆ กับรัสเซีย ไม่ว่าพวกเขาจะใกล้ชิดและได้ประโยชน์เพียงใด”
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกล่าวเพิ่มเติมว่า “รัสเซีย“ขอบคุณต่อเวเนซุเอลาที่ต่อต้านความพยายามเหล่านั้นและสนับสนุนมอสโก “เราขอขอบคุณที่ผู้นำโบลิวาเรียซึ่งหมายถึงเวเนซุเอลา ประณามต่อสาธารณะเกี่ยวกับนโยบายทำลายล้างโดยตะวันตกและนาโต้ เช่นเดียวกับความก้าวร้าวที่ตะวันตกปลดปล่อยออกมาต่อรัสเซีย”
ในระหว่างการปรึกษาหารือ ได้มีการหารือถึงโอกาสของการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงยุติธรรม ความมั่นคง และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งสองประเทศ คณะมนตรีความมั่นคงรัสเซียกล่าว มีการให้ความสนใจเป็นพิเศษในการตอบโต้ ‘การปฏิวัติสี’ ที่ตะวันตกหนุนหลัง
ในที่สุดสภาความมั่นคงของเวเนซูเอลา ก็ได้ออกแถลงการณ์ยืนหยัดพร้อมสนับสนุนรัสเซียในทุกด้าน และต่อมาปาตรุเชฟได้พบหารือกับนิโคลัส มาดูโร (Nicolas Maduro) ประธานาธิบดีของประเทศละตินอเมริกาที่ทำเนียบมิราฟลอร์ส(Miraflores)
หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของรัสเซียบอกกับมาดูโรว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกว์และการากัสเป็น“หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์”ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพระหว่างประเทศ
ผู้นำเวเนซุเอลาเขียนบน Twitter ว่าได้มีการหารือถึงความร่วมมือในระดับต่างๆ เพื่อประโยชน์และการพัฒนาของทั้งสองประเทศและย้ำว่า เวเนซุเอลากำลัง“ก้าวอย่างมั่นคงไปสู่การสร้างโลกใหม่แห่งความเท่าเทียม ด้วยความเคารพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความร่วมมือ”