การ์ดไม่ตกนะลุง!”สนธิญาณ” เตือนดังๆ ต้องไม่เลิกภาวะฉุกเฉินพวกบ้า ปชต. อารมณ์ค้างรอเคลื่อนไหว ไม่สนชีวิตคน

0

การ์ดไม่ตกนะลุง!”สนธิญาณ” เตือนดังๆ ต้องไม่เลิกภาวะฉุกเฉินพวกบ้าประชาธิปไตย อารมณ์ค้างมา2เดือน รอจังหวะเคลื่อนไหว จุดไฟความเดือดร้อน ปลุกม็อบ ไม่สนชีวิตคน

ในรายการ ทิศทางไทยในช่วงเวลา 00.00 กับ สนธิญาณ ทางช่องสถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ผ่านทางยูทูป  ทางด้าน สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ของไทยและโลกขณะนี้ระบุว่า..

พูดจาสุขภาพมาหลายวันภายใต้บรรยากาศโควิค 19 เพราะต้องการความรู้สึกที่ดีของคนไทยจะร่วมกันฝ่าฟันแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ซึ่งเราได้เดินมาและพบแสงสว่างปลายทาง พูดได้ว่าประสบความสำเร็จกว่าประเทศอื่นอย่างมากมาย เป็นที่ยกย่องทั่วโลก

แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่อารมณ์ค้างมา 2 เดือนเต็มจากความต้องการก่อม็อบขึ้น กำลังเตรียมการ เหตุผลเพราะกระแสที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงจะจบสภาวะฉุกเฉิน กระแสความเรียบร้องกำลังเปิดประเด็นให้  1.ลุงตู่อย่าต่อสภาวะฉุกเฉิน 2.ให้คลายล็อค อ้างเหตุคนต้องมาทำหากิน

สนธิญาณกล่าวต่อว่าเรียนลุงตู่ต้องต่อสภาวะฉุกเฉินและการคลายล็อคนั้นจะต้องทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน มีแผนการไม่ไปบ้าคลั่งตามกระแสของพ่อค้านายทุนซึ่งเห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า จะต้องคิดไตร่ตรองอย่างละเอียด ถ้าเราคลี่คลายปัญหาได้เข้มแข็งก่อนคนอื่น เดี๋ยวธุรกิจจะมาเองอดทนอีกนิด

สิ่งที่จะถูกเปิดเป็นกระแสในเลิกสภาวะฉุกเฉิน อ้างผู้ป่วยโควิด-19เหลือแค่วันละ 20-30คนแลัว ซึ่งเป็นเรื่องจริง นั่นเป็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล คณะแพทย์และความร่วมมือของประชาชน สถานการณ์ปัจจุบันไทย(20 เม.ย.63) ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19ทั้งสิ้น 2,792 คน สามารถกลับบ้านได้แล้ว 1,999 คน ยังรักษาตัวอยู่ 746 คนเท่านั้น ภาระของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ลดลง สาระสำคัญคือจังหวัดที่ตรวจไม่พบ ไม่เจอคนป่วยโควิด-19 ในช่วง 14 วัน เพิ่มจาก 33 จังหวัดเป็น 35 จังหวัด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้น

สนธิญาณกล่าวอีกว่า แต่ถึงภาพรวมที่ดูดีทั้งหมดไม่ใช่เหตุผลที่จะไปเลิกสภาวะฉุกเฉิน เพราะก่อนหน้าประกาศสภาวะฉุกเฉินก็อยู่ในระดับประมาณนี้ 40-50 คน  และตูม!!ขึ้นมา เช่น ประเด็นที่พูดมาตลอดก็คือสิงคโปร์จากอันดับ 50 เคยตามหลังไทยอยู่ในขณะนั้น วันนี้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 37 คนป่วยทะลุแซงหน้าไทยไป 200- 300% อยุ่ที่ 6,588 คน คนป่วยเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 500 คน  สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆคนไม่กี่ล้านคนคุมไม่อยู่ ขณะที่ไทยเอาอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเหตุผลที่จะเลิกสภาวะฉุกเฉิน ต้องให้สะเด็ดน้ำเสร็จก่อน

เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในกรุงเทพ ซึ่งกรุงเทพนั้นเป็นตัวที่เคลื่อนไหวสัญจรตลอดเวลา อยู่ๆห้างบางห้างประกาศเรียกเตรียมความพร้อมพนักงาน เพราะคิดว่าหมดสภาวะฉุกเฉินวันที่ 30 เม.ย.จะสามารถเปิดทำการได้ ยังดีที่ออกมาแถลงแค่เตรียมการ  สนธิญาณ”กล่าว

สนธิญาณ ย้ำว่า ยังเปิดไม่ได้ ห้างคนเข้าไปเป็นแสนๆ คิดดูว่ามีกี่ห้าง และผู้ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการที่ยังหลงเหลืออยู่จะออกไปเพ่นพ่าน ดังนั้นจะเลิกสภาวะฉุกเฉินได้ จะปลดล็อคได้โดยเฉพาะกรุงเทพ จะต้องชัดเจนว่าในพื้นที่นั้นไม่มีผู้ป่วย หรือมีผู้ป่วยอยู่เหลือเพียงจำนวนน้อย และสามารถทำให้กรุงเทพไปอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม ต่อเนื่องกัน 14 วันซึ่งถ้าจะให้ดีต้อง 18 วันให้ในกรุงเทพรวมถึงนนทบุรี สมุทรปราการซึ่งเป็นสถิติผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่จะต้องสะเด็ดน้ำ

ส่วนต่างจังหวัดก็ค่อยๆคลี่ครายกันไปผู้ป่วยอยู่ที่ไหนก็ไปว่ากันเป็นตำบล ทั้งนี้ที่ตําบลท่าศาลา อําเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตอนนี้กำลังทำเป็นตำบลตัวอย่างสร้างโมเดลในการที่จะทำให้เป็นตำบลปลอดเชื้อ ปลอดโรค ช่วยกันดูแล ซึ่งต้องขยายความคิดเหล่านี้ให้กระจายไปทั่วทั้งประเทศ

สนธิญาณพูดต่อว่า ถึงวันนี้แม้จะคลี่คล้ายสถานการณ์ลงไปมาก  แต่ห้ามประมาท ซึ่งในช่วงต้นที่ได้กล่าวไปแล้วว่ามีคนอารมณ์ค้างมา 2 เดือน เมื่อวันที่ 21 ..ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ กระแสเปิดอย่างเต็มที่จัดม็อบลุกฮือขึ้นสู้ นักศึกษาจัดม็อบตามที่ต่างๆสร้างภาพต่อเนื่อง ย้ำว่าสร้างภาพ รัฐบาลก็ตกใจ และหลายคนก็ไปอวยนักศึกษาว่ามาแล้วพลังบริสุทธิ์ ซึ่งไม่มีทางเป็นสิ่งที่ตนได้กล่าวไว้เพราะแรงจุงใจในการออกมานั้นมันต้องมีเงื่อนไข

แต่วันนี้มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเรื่องความอดอยากลำบากของคนหาเช้ากินค่ำ ของคนยากคนจน ซึ่งได้เตือนมาตั้งแต่ต้น และรัฐบาลพลาดเรื่องนี้ สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรทำคือจ่ายเงินออกไปทั่วประเทศ แยกกลุ่มแยกประเภท จำนวนไม่ต้องเท่ากัน แต่จ่ายไปเลย อย่ามาทำท่าคัดกรองอย่างโน้นอย่างนี้ มีเกณฑ์ต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ชัดเจน และใครที่ไม่ชัดเจนจึงเป็นเงื่อนไขให้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น

มี Twitter ใช้ชื่อNMG*FOUNDER เอารูปของ ต้อม ยุทธเลิศ ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเขาเองหรือไม่ แต่ทวิตเตอร์นี้ไปพาดหัวเคลื่อนไหวระบุใครรอไม่ไหวจะล่วงหน้าไปก่อนยกมือ พร้อมภาพข้อความ..ถ้ากูไม่มีจะกินแล้วจริงๆกูจะไม่พาใครไปลงถนนกูจะตรงไปที่ทำเนียบที่ที่ไอ่นายกกับพวกมันสุมหัวกันอยู่ที่นั่นกูยอมที่จะเป็นคนผิดติดคุกแต่ยังมีข้าวกินดีกว่ายอมเป็นคนดีที่อดตายอยู่ข้างนอกโดยไม่เคยได้ต่อสู้ดูมันพูดดูมันปลุกซึ่งไม่ใช่แค่กระแสเดียวนี่เป็นตัวอย่าง ที่กำลังแพร่กระจาย กำลังจุดไฟ

 

 

ตนอยากจะบอกไอ้พวกนี้ มาดูคนติดเชื้อโควิด-19ทั้งโลก 2,407,339 คน สหรัฐอเมริกาสูงสุด ถึงวันนี้ปาเข้าไป 760,000กว่าคน ตายไปกว่า 40,000 ราย ที่สำคัญ6ประเทศแรก ประกอบไปด้วย 1สหรัฐอเมริกา 2สเปน 3อิตาลี 4ฝรั่งเศส 5เยอรมนี 6อังกฤษ ซึ่งจำนวนคนป่วยรวมกันทั้งสิ้น 1,560,614 คน  ส่วนประเทศอื่นๆอีก202ประเทศ รวมกันแค่896,725 คน  ที่เอาตัวเลขหรือเอียดมาก็เพื่อให้ตระหนักว่าประเทศเหล่านี้ ประเทศประชาธิปไตย ประเทศที่บอกว่าจะต้องเอาเรื่องเศรษฐกิจก่อนชีวิตคนมาทีหลัง สนธิญาณ”กล่าาว

รู้หรือไม่ว่าสหรัฐยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้ 40,005 คน สเปน 20,453 คน อิตาลี 23,660 คนฝรั่งเศส 19,718 คน  รวมเฉพาะ4ประเทศนี้แสนคน บวก เยอรมนี 4,642 คนอังกฤษ 16,060 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ120,000คน

พวกนี้คิดได้อย่างไร ..อยากม็อบ อยากให้ไม่ต่อสภาวะฉุกเฉิน อยากให้รีบปลดล็อค คิดถึงแต่เงื่อนไขเรื่องการเมือง