ขณะที่กำลังพ่ายแพ้ในเมืองยุทธศาสตร์บักมุต เคียฟ-นาโต้ได้ส่งหน่วยสังหารบุกไปที่เมืองชายแดนของรัสเซีย คร่าชีวิตพลเรือนแล้วถูกไล่ล่าหนีเข้าในเขตยูเครน
ปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวในที่ประชุมกับผู้เข้าร่วมโครงการ Mentor School ของโครงการการศึกษานำร่องว่า “การโจมตีโดยผู้ก่อวินาศกรรมยูเครนในเขตบริยันสค์ (Bryansk) ที่มีพรมแดนติดกับยูเครนเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย ทหารและเจ้าหน้าที่ของกองทัพรัสเซียปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องรัสเซีย “ปกป้องพวกนีโอฯสุดโต่งและต่อต้านผู้ก่อการร้าย เช่น พวกที่ทรมานและฆ่าผู้คนในดอนบาสเป็นเวลาแปดปี เช่น พวกที่สังหารดาร์ยา ดูจินาในมอสโกว์ เช่นพวกที่ก่อการก่อการร้ายอีกในปัจจุบัน ก่ออาชญากรรมอีก แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ชายแดนและเปิดฉากยิงใส่พลเรือน”
ประธานาธิบดีเน้นย้ำว่า “ผู้ก่อวินาศกรรมทราบดีว่าพวกเขากำลังโจมตีรถพลเรือน พวกเขาเห็นว่าเป็นรถพลเรือน เห็นว่ามีพลเรือนและเด็กอยู่ข้างใน เห็นว่าเป็นรถ Niva แต่พวกเขาเปิดฉากยิงใส่ทันที”
เป็นคนแบบนี้เองที่ “วางแผนที่จะกีดกันชาวรัสเซียจากความทรงจำทางประวัติศาสตร์ พรากเราจากประวัติศาสตร์ ประเพณี และภาษาของเรา”
“นี่คือความรุนแรง อาชญากรรมที่แท้จริง กระทำโดยพวกนีโอฯที่ฉันเพิ่งพูดถึง และโดยเจ้านายของพวกเขา ฉันแน่ใจว่าพวกปรมาจารย์เหล่านี้จะไม่จดจำอาชญากรรมในปัจจุบัน ไม่มีใครแม้แต่จะสนใจมัน พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ เราจะบีบพวกเขา” ปูตินให้คำมั่น
หลังเกิดเหตุ อเล็กซานเดอร์ คอตส์(Alexander Kots) สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งรัสเซีย เรียกร้องให้ทบทวนแนวคิดในการกำหนดให้กองทัพยูเครนและหน่วยบริการพิเศษของยูเครนเป็นองค์กรก่อการร้าย
เขากล่าวว่า “หลังจากการโจมตีเมืองบริยันสค์ ถึงเวลาแล้วที่เราจะคิดอีกครั้งเกี่ยวกับแนวคิดที่จะกำหนดให้กองทัพยูเครนและหน่วยบริการพิเศษของยูเครนเป็นองค์กรก่อการร้ายพร้อมกับผลที่ตามมาที่เหมาะสม” เขาเขียนลงใน Telegram ของสภาฯ
ปธน.ปูติน ระบุก่อนหน้านี้ว่าการโจมตีของผู้ก่อวินาศกรรมยูเครนใกล้กับชายแดนของภูมิภาคบริย้นสค์ ถูกจัดประเภทเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ผู้ก่อเหตุทราบว่าพวกเขากำลังโจมตีรถพลเรือน เขาย้ำว่า “พวกเขาเห็นพลเรือนและเด็กๆ อยู่ในนั้น แต่พวกเขาก็เปิดฉากยิงใส่พวกเขา”
คอตส์กล่าวว่า “ผู้ก่อการร้ายไม่ใช่ “มือปืนรับจ้าง” แต่เป็นหน่วยปกติที่ดำเนินการตามคำสั่งทางอาญาของผู้นำ ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต อาชญากรรมเหล่านี้ไม่ควรมีการจำกัดเวลา ไม่ควรมีผู้กระทำความผิดแม้แต่คนเดียวที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับกรณีอื่น”
ล่าสุดปธน.ปูตินได้เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงด้วน และสั่งทางกองทัพตอบโต้เอาคืนอย่างสาสม สิ้นคำแอร์ฟอร์ซรัสเซียบุกถล่ม ๓ ภูมิภาคยูเครนที่อยู่ติดบริยันสค์ทันที
วันที่ ๓ มี.ค.๒๕๖๖ สื่อรัสเซียทั้งรัสเซียทูเดย์,สปุํตนิกและทาซซ์ รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ โบโกมาซ(Alexander Bogomaz) ผู้ว่าการแคว้นบริยันสค์ (Bryansk)ของรัสเซียเปิดเผยว่า “หน่วยแทรกซึมจากยูเครนบุกเข้าไปในหมู่บ้านลิวบีคาเน (Lyubechane) เขตคลิมอฟสกี (Klimovsky) ผู้ก่อวินาศกรรมยิงใส่ยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ ผลจากการโจมตี ทำให้ผู้อยู่อาศัยเสียชีวิต ๑ ราย และเด็กอายุ๑๐ ขวบได้รับบาดเจ็บ”
สถานการณ์ในการตั้งถิ่นฐานในเขตคลิมอฟสกี (Klimovsky) ของภูมิภาคบริยันสค์ อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยบริการความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย หรือที่รู้จักในนามหน่วย FSB
ก่อนหน้านี้สำนักงานความมั่นคงกลางของรัสเซียยืนยันว่ากลุ่มนิโอฯยูเครนกลุ่มหนึ่งได้รุกล้ำพรมแดน และกำลังติดตามดำเนินการกวาดล้างผู้บุกรุก
ในขณะเดียวกัน โรมัน สตาโรวอยต์ (Roman Starovoyt) ผู้ว่าการภูมิภาคเคิร์สต์ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต ๑ คนและบาดเจ็บอีก ๒ คนจากการทิ้งระเบิดของรัฐบาลเคียฟที่นิคมเตตคิโน (Tetkino) โจมตีหมู่บ้านชายแดน บ้าน ๓ หลังได้รับความเสียหาย
หน่วยบริการความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) รายงานว่า “เจ้าหน้าที่ของเคียฟที่ข้ามเข้าไปในแคว้น Bryansk ของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีถูกไล่ล่าบีบให้กลับเข้าไปในดินแดนของยูเครนและถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ไล่หลัง
FSB ระบุว่าพบอุปกรณ์ระเบิดประเภทต่างๆ จำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว หน่วยเก็บกู้ระเบิดถูกนำไปใช้เพื่อปลดอาวุธระเบิด Aleksandr Bogomaz ผู้ว่าการ Bryansk ยังรายงานว่ามีการโจมตีด้วยปืนใหญ่และปืนครกในพื้นที่
FSB และกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้รายงานว่าพวกเขากำลังดำเนินมาตรการเด็ดขาดเพื่อกำจัดผู้โจมตี
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่า“รัสเซียกำลังดำเนินมาตรการเพื่อทำลายล้างผู้ก่อการร้ายเหล่านี้” มอสโกว์จะยังคงเปิดโปงแก่สาธารณชนทั่วโลกให้สนใจการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่คนเหล่านี้เป็นผู้ดำเนินการ”
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวหาเคียฟว่าใช้กลยุทธ์ก่อการร้ายหลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่สะพานไครเมียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว คร่าชีวิตพลเรือน ๓ คนและทำให้โครงสร้างเสียหาย หน่วยบริการความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) พบหลักฐานหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนเป็นผู้ลงมือทิ้งระเบิด!!??
