กระทรวงกลาโหมรายงานสถานการณ์ล่าสุดว่า กองกำลังรัสเซีย “ได้สกัดกั้นความพยายามของรัฐบาลเคียฟในการดำเนินการโจมตีด้วยโดรนขนาดใหญ่ต่อเป้าหมายบนคาบสมุทรไครเมีย” โดรนโจมตีของยูเครน ๔ ลำใช้งานไม่ได้จากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์วอร์แฟร์ของเรา ขณะที่ ๖ ลำถูกทำลายโดยการป้องกันทางอากาศ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรืออะไรถูกทำลาย
ข้ามวันเท่านั้นเสียงไซเรนเตือนภัยก็ดังกระหึ่งทั่วยูเครนอีกครั้ง กองกำลังแอร์ฟอร์ซรัสเซียถล่มจุดสำคัญในภูมิภาคของยูเครน ๑๒ แห่ง ถือว่าเอาคืนจากส่งโดรนไปยั่วที่ไครเมีย แต่ทางการยูเครนปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่รู้ไม่เกี่ยวไม่ได้ทำ
ข่าวดีล่าสุดของรัสเซียคือ บัคมุตใกล้แตกปริ่มๆแล้ว แม้ยูเครนจะปากแข็งแค่ไหนก็ปิดบังสถานการณ์จริงไม่ได้ เพราะสถานการณ์ระดับเรียลไทม์แสดงในเทเลแกรมของทั้งสองฝ่าย ล่าสุดคนสนิทเซเลนสกี้เริ่มพูดเสียงอ่อยว่า จำเป็นก็ต้องถอยอย่างมียุทธวิธี
แต่ข่าวดีซ้ำอีกเรื่องคือรถถังเสือดาวของยูเครน ถูกกองทัพรัสเซียยึดได้ทางตะวันตกใกล้กับเมือง บัคมุต ยืนยันโดยอเล็กซี่ มูราตอฟ (Alexy Muratov)
วันที่ ๒ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ รอดยานสกี้(Alexander Rodnyansky)ที่ปรึกษาเซเลนสกี้ กล่าวว่ารัสเซียกำลังโอบล้อมเมืองบัคมุตหรืออาร์ติมอฟสค์ (Artyomovsk) ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และกองกำลังของเคียฟกำลังชั่งน้ำหนักทางเลือกของพวกเขาว่าจะถอยหรือจะรบต่อ
เขาเน้นว่า รัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมBakhmut โดยใช้กองทหารที่ดีที่สุดจากบริษัททหารเอกชน Wagner กองกำลังของเคียฟจะล่าถอยหรือ“ยอมแพ้อย่างมีกลยุทธ์”ที่เมืองนี้“หากพวกเขาเชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการยึดครองเมืองนั้นมีค่ามากกว่าผลประโยชน์ในระยะยาว” “กองทัพยูเครน“เห็นได้ชัดว่าจะต้องชั่งน้ำหนักทางเลือกทั้งหมดอย่างทันที”
ที่ปรึกษาประธานาธิบดีกล่าวอ้างว่า “จนถึงตอนนี้ พวกเขายึดเมืองนี้ไว้ แต่ถ้าจำเป็น พวกเขาจะดึงกลับอย่างมีกลยุทธ์ เพราะเราจะไม่เสียสละคนของเราทั้งหมดโดยเปล่าประโยชน์” เขาโต้แย้งว่าท้ายที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับกองทัพที่จะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องถอนตัวหรือไม่และเมื่อใด
รอดยานสกี้ระบุว่าพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองได้รับการเสริมปราการแล้ว และหากกองกำลังของเคียฟถอนกำลังออกจากบัคมุต กองทหารรัสเซียจะไม่สามารถรุกคืบได้อย่างรวดเร็ว เขายืนยันว่าแนวรับของยูเครนใกล้เข้าไปถึงจุดต่อสู้แล้ว
บัคมุต เป็นส่วนหนึ่งของแนวปราการป้องกันยูเครน ๗๐ กม. ที่สร้างขึ้นตั้งแต่เคียฟเริ่มการต่อสู้ใน Donbass ในปี ๒๐๑๔ รัสเซียอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือเมืองนี้พร้อมกับส่วนที่เหลือของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ หลังการลงประชามติเข้าร่วมรัสเซีย
ในการต่อสู้ที่ดุเดือดกินเวลานานหลายเดือน กองกำลังรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของวากเนอร์ ได้ยึดการตั้งถิ่นฐานรอบเมืองอย่างเป็นระบบ และตอนนี้ก็ยึดพื้นที่ล้อมรอบจากทางเหนือ ทางใต้ และทางตะวันออก
ซีเอ็นเอ็นยังได้พูดคุยกับทหารยูเครนผู้ซึ่งไม่ประสงค์จะออกนาม และกล่าวถึงสถานการณ์ในบัคมุตว่า“แย่กว่าที่รายงานอย่างเป็นทางการมาก” “เราควรเพิ่มความยากอีก ๑๐๐% ในรายงานอย่างเป็นทางการ ในทุกทิศทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทิศทางเหนือซึ่ง รัสเซียได้รุกคืบครั้งใหญ่ที่สุด”
Anna Malyar รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครนกล่าวเมื่อวันอังคารว่า กำลังส่งกำลังเสริมเพิ่มเติมไปยังเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ สิ่งนี้ได้รับการยืนยันเมื่อวันพุธโดย Evgeny Prigozhin หัวหน้าของ Wagner ซึ่งกล่าวว่าเคียฟได้ส่งนักสู้ที่ดีที่สุดหลายหมื่นคนไปยัง Artyomovsk “พวกเขากำลังต่อต้านอย่างรุนแรง การนองเลือดในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน” Prigozhin กล่าว
ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่าผู้สนับสนุนตะวันตกของเคียฟเรียกร้องให้ Zelensky ลดความสูญเสียและถอนตัว ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียูเครนเคยประกาศว่า“ไม่มีใครยอมจำนนต่อบัคมุต”แต่เพิ่งเปลี่ยนท่าทีเมื่อกองกำลังของเคียฟประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ขณะนี้ผู้นำยูเครนอ้างว่าเมืองนี้จะถูกควบคุมตัว”ในขณะที่ยังสมเหตุสมผล”ที่จะทำเช่นนั้น
ณเวลานี้ฝ่ายบัญชาการของยูเครนยังลังเลเพราะยังไม่มีคำสั่งโดยตรงจากเซเลนสกี้ เซอร์เก เชอร์เรวาตี (Sergey Cherevaty) โฆษกของกลุ่มกองกำลัง UAF Eastern ยืนยันว่าคำสั่งดังกล่าวยังไม่ได้กำหนดว่าจะถอนกองกำลังติดอาวุธยูเครน (UAF) ออกจากบัคมุต (Bakhmut)ตอนไหน หากเห็นว่าจำเป็นก็ต้องทำเช่นนั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าเครื่องบินรบ Wagner PMC ไปที่โครโมโว (Khromovo) หลังจากกระทรวงกลาโหมของยูเครนยืนยันการถ่ายโอนกองหนุนใหม่ไปยังพื้นที่บัคมุตสถานการณ์เป็นเช่นนั้นหาก วาร์กเนอร์ปิดพื้นที่ได้ กองหนุนที่คำสั่งของยูเครนเคลื่อนไปที่นั่นเพื่อยึดเมืองคืนจะถูกตัดขาด
ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่ากองทัพยูเครนถูกกล่าวหาว่าได้รับคำสั่งให้ออกจากเมืองเป็นกลุ่ม แต่เยฟเกนี ปริโกชิน (Yevgeny Prigozhin) หัวหน้าของ Wagner ปฏิเสธรายงานเหล่านี้ว่าไม่น่าจะใช่ โดยกล่าวว่ากองทหารรักษาการณ์ของศัตรูยังคงต่อต้านอย่างดุเดือดเช่นเดียวกับกองหนุนของกองทัพยูเครนที่ถูกย้ายมาชุมนุมกันที่บัคมุต มีรายงานว่าเป็นกลุ่มทหารต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
