ความพยายามสร้างสงครามพร่ากำลังรัสเซียของมอลโดวา ภายใต้คำสั่งวอชิงตันดูเหมือนจะมีอุปสรรคหนัก เมื่อประชาชนได้แสดงเจตจำนงค์แน่วแน่ว่าไม่ต้องการเป็นยูเครน ๒ ตอนนี้สถานการณ์ของ ปธน.ไมอาซานดูซึ่งได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯครองอำนาจ มีความตึงเครียดมาก ทั้งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาของมอลโดวาประกาศไม่หนุนก่อศึกกับทรานส์นิสเตรีย โพลออกมาก็บอกว่าประชาชนไม่เอาสงครามแต่ผู้นำมอลโดวายังขวางกระแส หวังได้รับความโปรดปรานจากสหรัฐฯ
วันที่ ๑ มี.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า ประชาชนนับแสนคนออกมาร่วมชุมนุมประท้วงมากขึ้นในคีชีเนา เมืองหลวงมอลโดวา
ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีไมอา ซานดู กลับตัดสินใจประกาศปิดเมือง โดยทำการปิดกั้นเส้นทางหลักจากนอกเมืองไม่ให้มีการเดินทางเข้าออก เพื่อป้องกันประชาชนจากนอกเมืองหลวงให้เดินทางเข้ามาชุมนุม ทำให้การเข้า-ออกจากเมืองเป็นอัมพาต ยิ่งทำให้่ประชาชนโกรธแค้นต้องลงจากรถเมล์ลงเดิน แล้วเข้ามาร่วมการชุมนุมประท้วงมากขึ้น
ผู้ประท้วงชูคำขวัญ “Sandu ลาออก” และ “เราไม่ต้องการสงคราม” ตะโกนคำขวัญ: “โค่นล้ม Sandu” และ “โค่นล้มเผด็จการ” ตำรวจกำลังพยายามป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงเข้าถึงใจกลางเมืองคีชีเนา ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจในมอลโดวาทำการปิดกั้นรถประจำทางที่มีผู้กำลังเดินทางเข้ามาร่วมประท้วงในเมืองหลวง
จากการรายงานข่าวท้องถิ่นในพื้นที่ ประเมินว่าความรู้สึกต่อต้านสงครามเพื่อนบ้านในมอลโดวา สูงถึงเกือบ๙๐% ซึ่งขัดขวางไม่ให้ Sandu เริ่มทำสงครามกับ PMR หรือTransnistria แม้ว่าแผนการดังกล่าวจะได้รับการวางแผนมาแล้วก็ตาม)
ฝ่ายรัฐบาลมอลโดวาประณามผู้ประท้วงในคีชีเนาว่าทำให้สถานการณ์ไม่มั่นคงในประเทศ ยิ่งสร้างความโกรธเกรี้ยวกับผู้ประท้วงหนักกว่าเดิมเหมือนเติมน้ำมันราดกองไฟอย่างไรอย่างนั้น
อเดรียนา วีลาสA(driana Vlas) โฆษกพรรคฝ่ายปฏิบัติการและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของรัฐบาลมอลโดวา หนึ่งในทีมบริหารของปธน.ซานดู อ้างว่านักการเมืองฝ่ายค้านเป็นแกนนำการชุมนุมประท้วงอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานขโมยเงินหนึ่งพันล้านจากธนาคารของประเทศ การชุมนุมจึงไม่ชอบธรรม โดยเธอปฏิเสธผลการสำรวจของประชาชนมอลโดวาที่ไม่ต้องการทำสงครามกับเพื่อนบ้าน
ตามรายงานก่อนหน้านี้ สำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองคีชีเนาได้สั่งห้ามการชุมนุมในใจกลางเมืองจนถึงวันที่ ๒มีนาคม เนื่องจากมีคณะผู้แทนจากต่างประเทศมาเยือน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ส่อเค้าอาจมีการปะทะอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่ในพื้นที่การชุมนุม วาดิม โพเตสคู(Vadim Fotescu) สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคฝ่ายค้านซอร์ (Sor Party) กล่าวในการปราศรัยต่อการชุมนุมว่า “เราต้องการให้มีการเลือกตั้งแต่เนิ่นๆ รัฐบาลต้องจ่ายค่าสาธารณูปโภคของประชาชนซึ่งถูกขึ้นหลายครั้งจากความผิดของผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ เรายังเรียกร้องความเป็นกลางตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ประเทศของเราถูกลากเข้าสู่ปฏิบัติการสู้รบ”
การประท้วงระดับรากหญ้าจัดขึ้นในมอลโดวาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว ผู้ชุมนุมกล่าวประณามทางการว่าไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้พุ่งสูงขึ้นและทำลายสถิติเงินเฟ้อที่ ๓๐% เมื่อปีที่แล้ว การชุมนุมในคีชีเนาครั้งนั้นจบลงด้วยการปะทะกับตำรวจที่ไม่ปล่อยให้ผู้ประท้วงเข้าไปในตัวเมืองคีชีเนา ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตำรวจปราบจลาจลได้สลายเต็นท์พักแรมที่จัดโดยผู้ประท้วงระหว่างอาคารรัฐสภาและทำเนียบประธานาธิบดี ท่ามกลางการประท้วงหนัก ทำให้นายกรัฐมนตรีนาตาเลีย กาวริลิตาลาและคณะรัฐมนตรีลาออกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในที่สุด แต่ปธน.ซานดูยังคงรักษาตำแหน่งและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีของตนขึ้นมาบริหารประเทศในช่วงนี้ ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งก่อนหมดสมัยและ ร้องให้ประธานาธิบดีลาออกด้วย
มอลโดวาซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน อยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากมอสโกว์เมื่อรัฐบาลของซานดูแสดงท่าทีชัดเจนว่าอยู่ภายใต้การสนับสนุนโดยวอชิงตัน ในการเยือนเคียฟของไบเดน ก็เดินทางเข้าพบปธน.ไบเดนและเมื่อกลับมาก็แข็งกร้าวต่อต้านรัสเซียชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ไมอา ซานดู ประธานโปรวอชิงตันของมอลโดวากล่าวหารัสเซียว่าวางแผนโค่นล้มรัฐบาลด้วยการรัฐประหาร ซึ่งทางการรัสเซียออกมาปฏิเสธ และชี้ว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมในการเตรียมบุกทรานส์นิตเซียพื้นที่พิพาทที่ได้สนับสนุนรัสเซีย
รัฐบาลมอลโดวา กล่าวหา รัสเซียมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีฐานทัพอยู่ในแคว้นทรานส์นิสเตรียทางตะวันออกว่าสนับสนุนการก่อความไม่สงบในประเทศ รวมทั้งการประท้วงในเมืองหลวงคีชีเนา มอลโดวาได้รับสถานะผู้สมัครเข้าร่วมสหภาพยุโรป เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพร้อมกับยูเครนแต่ยังไม่ได้รับคำตอบอนุมัติอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เมื่อมั่นใจว่าเมกาแลอียูหนุนหลังจึงหันกลับมาเปิดทางให้ยูเครน-นาโต้เคลื่อนไหวชายแดนเตรียมการโจมตีครั้งใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้รัสเซียได้ออกมาเปิดโปง และเตือนแรงว่าจะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นหากเคียฟ-นาโต้และมอลโดวาทำร้ายต่อกองกำลังสันติภาพในทรานส์นิตเซีย
ก่อนหน้านี้เซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียเคยออกมาประเมินไว้อย่างชัดเจนว่า มอลโดวากำลังถูกตะวันตกทำให้กลายเป็นยูเครน ๒ เวลานั้นสื่อตะวันตกหัวเราะเยาะว่า ลาฟรอฟเต้าเรื่องไม่เป็นจริง วันนี้อาการของผู้นำมอลโดวาและท่าทีของเมกา-นาโต้-ยูเครนบ่งบอกชัดว่า ลาฟรอฟพูดจริงและรัสเซียรู้จริง
จับตารัสเซียจะสวนกลับแบบไหน เพราะสถานการณ์เช่นนั้มีแต่ตอบโต้ทางทหารเท่านั้นจึงเกิดผล พูดไปก็ไม่สะเทือนสำนึกของรัฐบาลชุดโปรวอชิงตันแต่อย่างใดแม้ว่าประชาชนมอลโดวาจะไม่ต้องการจมดิ่งในสงครามล้างผลาญตะวันตกกับรัสเซียก็ตาม!???
