จากที่วันนี้(20 เม.ย.63) ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงไทยที่มีผู้ป่วยรายใหม่ 27 รายสะสม 2,792 รายไม่มีผู้เสียชีวิต รวมเสียชีวิตสะสม 47 ราย สวนทางกับประเทศสหรัฐ และฝั่งยุโรป
โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ยังคงรุนแรง ยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 2,300,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 164,918 ศพ โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลกยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 764,265 ราย และเสียชีวิต 40,565 ศพ
ส่วนประเทศต่างๆในยุโรป ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวมกันเกิน 1 แสนศพ โดยสเปนเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลก อยู่ที่ 198,974 ราย เสียชีวิต 20,453 ศพ อิตาลีอันดับ 3 ติดเชื้อ 178,972 ราย เสียชีวิต 23,660 ศพ ฝรั่งเศสอันดับ 4 ติดเชื้อ 154,097 ราย เสียชีวิต 19,744 ศพ อันดับ 5 เยอรมนี ติดเชื้อ 145,742 ราย เสียชีวิต 4,642 ศพ และสหราชอาณาจักร อยู่อันดับ 6 ติดเชื้อ 121,172 ราย เสียชีวิต 16,095 ศพ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวบางเมืองของสหรัฐนั้น ประชาชนได้ออกมารวมตัวประท้วงคัดค้านทางการที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งที่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในประเทศสหรัฐ ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ประชาชนในหลายเมืองของสหรัฐฯคัดค้างทางการที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19ต่อไป
อย่างไรก็ตามในประเทศไทยเองก็มีความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายและมาตรการต่างๆที่ออกมาอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน โดยเฉพาะวันนี้(20เม.ย.63) ที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า NMG*FOUNDER @nmgfounder ซึ่งใช้รูปประจำทวิตเตอร์หน้านเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ซึ่งข้อความที่ทวิตเตอร์ดังกล่าวโพสต์ระบุว่า
ใครรอไม่ไหวจะล่วงหน้าไปก่อนยกมือ “ ถ้ากูไม่มีกินแล้วจริงๆ กูจะไม่พาใครไปลงถนน กูจะตรงไปที่ทำเนียบ ที่ที่ไอ่นายกกับพวก มันสุมหัวกันอยู่ที่นั่น กูยอมที่จะเป็นคนผิด ติดคุกแต่ยังมีข้าวกิน ดีกว่ายอมเป็นคนดีที่อดตายอยู่ข้างนอก โดยไม่เคยได้ต่อสู้”
ทั้งนี้เป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งกับการโพสต์ข้อความดังกล่าวของ NMG*FOUNDER @nmgfounder ซึ่งมีข้อน่าสังเกตุว่าเป็นไปในลักษณะปลุกเร้า ให้ประชาชนสร้างความไม่สงบหรือไม่ เป็นการเอาแบบอย่างมาจากต่างประเทศที่สหรัฐซึ่งประชาชนออกมาประท้วงก่อม็อบกันอยู่หรือไม่ ทั้งที่ประเทศไทยเองมีมาตรการจัดการบริหารที่ดีมีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าสหรัฐ และบรรดาประเทศในยุโรปที่มักอ้างถึงประชาธิปไตยอย่างมากมาย
ดังนั้นสิ่งที่น่าพิจารณาก็คือทั่วโลกมี208ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เฉพาะสหรัฐและ 6 ประเทศแรกที่อยู่ในลำดับประเทศติดเชื้อมากที่สุด ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตมากเกินครึ่งจากยอดสะสมทั้งหมดแล้ว อย่างวันนี้(20เม.ย.63)ที่สหรัฐยอดสะสมผู้ติดเชื้อแล้ว 764,265 ราย และเสียชีวิต 40,565 ศพ
ขณะอีก5ประเทศที่ติดลำดับต่อกันของประเทศในยุโรปยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวมกันเกิน 1 แสนศพ โดยสเปนเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 198,974 ราย เสียชีวิต 20,453 ศพ อิตาลีอันดับ 3 ติดเชื้อ 178,972 ราย เสียชีวิต 23,660 ศพ ฝรั่งเศสอันดับ 4 ติดเชื้อ 154,097 ราย เสียชีวิต 19,744 ศพ อันดับ 5 เยอรมนี ติดเชื้อ 145,742 ราย เสียชีวิต 4,642 ศพ และสหราชอาณาจักร อันดับ 6 ติดเชื้อ 121,172 ราย เสียชีวิต 16,095 ศพ
การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล 19 เมษายน 2563 สหรัฐอเมริกา ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันเดียวทะลุ 726,645 ราย ส่วนทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อตัวเลขอยู่ที่ 2,302,152 ราย เสียชีวิต 158,220 ราย โดย1.สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 726,645 ราย เสียชีวิตสะสม 37,938 ราย 2.สเปน ติดเชื้อ 191,726 ราย เสียชีวิตสะสม 20,043 ราย 3.อิตาลี ติดเชื้อ 175,925 ราย เสียชีวิตสะสม 19,345 ราย 4.ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 149,146 ราย เสียชีวิตสะสม 18,681 ราย 5.เยอรมนี ติดเชื้อ 142,325 ราย เสียชีวิตสะสม 4,426 ราย 6.สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 115,922 ราย เสียชีวิตสะสม 15,497 ราย
18 เมษายน 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทั่วโลก ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 154,261 ราย โดยประเทศที่เสียชีวิตมากที่ในโลกคือ ประเทศสหรัฐอเมริกาในจำนวน 37,158 ราย ส่วนอันดับ 2 คือประเทศอิตาลีจำนวน 22,745 ราย และประเทศสเปนในจำนวน 20,002 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งกว่า 2,250,751 คน สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดป่วยมากที่สุดในโลก จำนวน 710,021 คน อันดับ2ประเทศสเปน 190,839 คน อันดับ 3 ประเทศอิตาลี 172,434 คน สำหรับผู้ที่รักษาหายแล้วทั่วโลกมีจำนวน 571,145 คน
17 เมษายน 2563 เว็บไซต์ worldometer รายงานข้อมูลจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า นับจนถึงวันที่ 16 เม.ย. ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 2,179,905 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 145,410 ราย รักษาหายแล้วมีจำนวน 546,743 ราย
16 เมษายน 2563 ข้อมูลศูนย์ Center for Systems Science and Engineering (CSSE) ของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่ 2,077,839 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่ 134,375 ราย และมีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วทั่วโลกจำนวน 509,853 ราย
นั่นคือข้อมูลของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐที่มักถือตัวเองเป็นประเทศประชาธิปไตย มีความน่าสนใจกับยอดผู้เสียชีวิตที่เฉพาะ6ประเทศเหล่านี้ก็เกินครึ่งของทั่วโลกแล้ว ทั้งยังมีเหตุการณ์ประท้วงให้เปิดเมืองทั้งที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างหนัก เช่นนี้ยังจะมีคนไทยบางคน บางกลุ่มคิดแต่เรื่องประชาธิปไตย คิดแต่จะโจมตีรัฐบาลด้วยการปลุกระดมอยู่อีกหรือ???