จากที่วันนี้ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา ประธานยุทธศาสตร์วิจัยสถาบันทิศทางไทย เผยแพร่บทความโดยกรณีที่ผลของโพลดังได้ทำการสำรวจล่าสุดของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทำการสำรวจใน ๓ จังหวัดชายแดนระหว่างวันที่ ๑๐-๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ผลปรากฏว่ามีกลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะระบุว่าคนที่ต้องการให้เป็นนายกนำคนอื่นๆ ทั้งหมด แม้แต่คนที่เคยอยู่ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องและมีบารมีมายาวนานอย่าง ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมใต้อย่าง ปัตตานี ที่ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) ด้วยสัดส่วนที่มากถึงร้อยละ ๔๕
คนในภาคอื่นอาจแปลกใจแต่สำหรับผู้เขียนเองที่เป็นคนภาคใต้และเคยรับราชการในจังหวัดปัตตานีมาหลายปีพอสมควรในระยะหนึ่งของการทำงาน ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเลย เพราะความชัดเจนของคนที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจนอย่างน้อยใน ๔ ประเด็นสำคัญ
๑. ชัดเจนกับการต้านระบอบทักษิณ ไม่เอาระบอบทักษิณ และจะต่อสู้กับระบอบทักษิณตลอดไป
๒. ชัดเจนในเรื่องของการยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความเป็นไทย
๓. ชัดเจนในความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกงชาติ ไม่กอบโกยผลประโยชน์ของชาติ
๔. ชัดเจนในการที่ตอบตรงไปตรงมาแบบลูกผู้ชายทั้งในสภาและนอกสภา
อาจจะชัดเจนอีกหลายประเด็น แต่เอาเป็นว่า ๔ ประเด็นนี้เป็นที่ถูกใจของคนในจังหวัดทางภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะคนใต้รักใครรักจริง และการต่อสู้กับระบอบทักษิณที่เคยผ่านมาสร้างความบอบช้ำให้กับคนในภาคใต้มาอย่างยาวนาน การรู้เท่าทันการโกงบ้านกินเมืองของการปกครองประเทศภายใต้ระบอบทักษิณที่ใช้การพัฒนาเศรษฐกิจ และการตลาดนำหน้า แต่กลับทำให้ประเทศเสียหาย เสียโอกาสมากมายจากการเห็นแก่ประโยชน์ตนและพวกพ้อง การปราบปรามผู้เห็นต่างด้วยความรุนแรง การใช้กฎหมายในรูปแบบรัฐตำรวจที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เป็นภาพสะท้อนที่คนต้านระบอบทักษิณ กลุ่มอนุรักษ์นิยม ไม่มีวันที่จะลืมได้ลง และวันนี้เป็นวันที่คนกลุ่มนี้มีขุนพลที่ไว้ใจได้อย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเป็นที่ยึดมั่นได้อย่างไว้วางใจได้อย่างเต็มร้อย
การที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หลุดออกไปจากพันธนาการของพรรคที่เคยสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมาในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลดีต่อความรู้สึกของคนที่ต้องการตัวแทนของคนที่เคยสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาก่อน เพราะภาพของความเคลือบแคลงสงสัยต่อการไม่สุจริต หรือส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบของคนในพรรคที่ท่านเข้าไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาฬิกาเพื่อน ความเคลือบแคลงใจจากกรณียาเสพติดที่พัวพันกับต่างประเทศ รวมถึงการเล่นการเมืองที่สร้างความสงสัยต่อปวงประชาในความโปร่งใสกรณีต่างๆ ในพรรคที่เคยเสนอท่านเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้คนที่มีฝีมืออย่างท่าน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่เคยเป็นแม่ทัพใหญ่ในการดูแลการเลือกตั้งของพรรคเก่าแก่สมัยที่ยังยิ่งใหญ่มาในอดีต ประวัติที่ขาวสะอาด มาเป็นท่านกุนซือประจำพรรคและตัวท่านร่วมกับท่านพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค การมีประวัติที่ขาวสะอาดและมีประสบการณ์ในการทำการเมืองของท่านทั้งสองนี้ หลายคนที่เป็นคนรุ่นใหม่หรือไม่ได้เคยติดตามการเมืองในอดีตมาก่อนอาจไม่รู้จักกับท่าน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี แต่สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่าท่านเป็นคนที่มีความรู้ ความเข้าใจ กว้างขวาง นำเสนอเก่งมากๆ คนหนึ่งที่เคยสร้างฝีมือมาแล้วในการดูแลการเลือกตั้งจากทั่วประเทศจนสำเร็จผลมาก่อน และอาจทำให้ทุกพรรคตะลึงกับฝีมือของท่านในครั้งนี้
และเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่าน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี นำทีมเพื่อให้ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงหาเสียงกับพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น ความชัดเจนที่คนใต้ชื่นชอบ ทั้งความชัดเจนเรื่องต้านระบอบทักษิณ ไม่เอาทักษิณ และจะต่อสู้กับทักษิณตลอดไป ความชัดเจนในเรื่องของการยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความเป็นไทย ความชัดเจนในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกงชาติ ไม่กอบโกยผลประโยชน์ของชาติมาเป็นของตนและพวก และความชัดเจนในการที่ตอบตรงไปตรงมาแบบลูกผู้ชายทั้งในสภาและนอกสภา
เมื่อนั้นแหละ… ผลของคะแนนเสียงสำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจทำให้คนทั้งประเทศตะลึง ต่อผลการเลือกตั้งของคนทั้งหมดในภาคใต้ ที่ชอบใครชอบจริง และชอบในความชัดเจน ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ …
