จีนข่มสหรัฐฯ! ยื่นมือช่วยขาใหญ่ยุโรป ผลักดันการทูตครั้งใหญ่-เสนอแผนสันติภาพ สร้างเขตปลอดทหารรัสเซีย-ยูเครน

0

จีนข่มสหรัฐฯ! ยื่นมือช่วยขาใหญ่ยุโรป ผลักดันการทูตครั้งใหญ่-เสนอแผนสันติภาพ สร้างเขตปลอดทหารรัสเซีย-ยูเครน

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ให้สัมภาษณ์กับซีบีเอส โดยแสดงความมั่นใจว่า ผู้นำจีนกำลังพิจารณาจัดหาอาวุธร้ายแรงให้รัสเซีย แต่สำทับว่า ยังไม่พบว่า มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายและการจัดส่งอาวุธในขณะนี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่จีนเข้ามาช่วยเหลือ ฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลี โดยบอกว่า

เมื่อต้นเดือน ก.พ.2023 ภายหลังประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน หุ่นเชิดสหรัฐ เดินทางไปแบมือขอเครื่องบินรบไอพ่นจากสหราชอาณาจักร แต่ได้กินแห้วเพราะอังกฤษจะขายให้ก็ต่อเมื่อสงครามสิ้นสุดลงแล้ว จากนั้นผู้นำยูเครน เดินทางต่อไปแบบมือขอเครื่องบินไอพ่นจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลล์ ผู้นำเยอรมนี แต่ก็ได้กินแห้วอีกเช่นกัน

ผู้นำยุโรปทั้ง 2 ชาติ ยื่นเงื่อนไขกดดันผู้นำยูเครนว่า จะให้กู้ยืมรถถังและระบบป้องกันภัยทางอากาศอีกเพียงเล็กน้อย โดยแลกกับการเปิดเจรจาสงบศึกกับรัสเซีย แม้ว่าเงื่อนไขนี้สหรัฐ จะขัดขวาง เพราะธุรกิจในสหภาพยุโรป ประกาศล้มละลาย มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 26.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ก่อนหน้า วิกฤติเศรษฐกิจยุโรป มีความร้ายแรงอย่างมาก

นายดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย คู่หูปูติน ยืนยันว่ารัสเซียจะมีชัยชนะเหนือกองกำลังผสมในสมรภูมิยูเครนและพร้อมที่จะบุกไปยังพรมแดนโปแลนด์ กำจัดภัยคุกคามต่อรัสเซียให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะเป็นพรมแดนของโปแลนด์ก็ตาม ภายหลังรัสเซีย ได้ประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน นับจากนั้นโลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โลกระหว่างตะวันออกและตะวันตกมีระยะห่างกว้างขึ้น เกิดวิกฤตด้านพลังงานและอาหาร ส่งผลให้ราคาสินค้าและเงินเฟ้อในโลกตะวันตกสูงขึ้นต่างจากโลกตะวันออกหลายเท่าตัว

ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยุโรปพยายามโน้มน้าวให้จีนช่วยพวกเขายุติสงครามระหว่าง NATO และรัสเซีย แต่จีนยังนิ่งเฉยปล่อยให้สหรัฐ จูงยุโรปไปติดหล่มสงครามยูเครน จนสต็อคอาวุธหมด รัฐบาลถังแตก ธุรกิจล้มละลาย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จีนได้แสดงท่าทีเป็นตัวกลางสันติภาพเพื่อแข่งขันกับสหรัฐ ที่มุ่งผลักดันสงคราม จีนได้โน้มน้าวยุโรปคู่สงครามต่างๆ โดยเริ่มจากนายหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงสุดของจีน เดินทางเยือนยุโรปเจรจากับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และฮังการี

จีนมองว่า ผู้นำชาติเหล่านี้ ไม่ได้มีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อรัสเซียมากนัก เศรษฐกิจชาติขาใหญ่สหภาพยุโรปกำลังพินาศ จึงมีแนวโน้มว่าจีนจะสามารถโน้มน้าวยุโรปบางส่วนให้เข้ามาอยู่ในวงสันติภาพของจีนได้ แต่สหรัฐฯ มีอำนาจที่ครอบงำยุโรป และได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวจากความขัดแย้ง การส่งอาวุธให้กับฝ่ายที่ทำสงครามอยู่ ถือว่าเป็นการยกระดับเติมเชื้อเพลิงสงครามเพิ่มขึ้น ยุโรปมีแต่เสียกับเสีย การเดินทางเยือนหลายประเทศของนายหวัง บอกว่าจีนไม่มีปัญหาอะไรกับยุโรป

แต่มีปัญหาเฉพาะกับสหรัฐฯ หัวอกเดียวกัน จีนสามารถแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้กับชาวยุโรปได้ และจำเป็นต้องเข้าใจว่า สหรัฐฯ กำลังนำชาวยุโรปไปสู่หนทางที่เป็นปัญหา เขาหารือกับนายปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและต่างประเทศฮังการี จนนำมาซึ่งคณะของรัฐบาลฮังการีเดินทางไปเยือนเบรารุส เพื่อหารือแผนสันติภาพ จากนั้นเขาเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในกรุงมอสโก โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ต่อมาจีนได้ออกเอกสารแสดงจุดยืน 2 ฉบับ ได้เสนอทางออกของสงครามนี้

โดยเสนอแผนการสำหรับทำให้เกิดสันติภาพขึ้น เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นประเด็น ปกป้องผลประโยชน์ความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย และต่อต้านการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ จีนริเริ่มเสนอแผนสันติภาพเขตปลอดทหารระหว่างรัสเซียและยูเครน ทางทิศเหนือ แต่ 4 ดินแดนที่ทำประชามติไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตามรัฐธรรมนูญแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ในแผนมีเฉพาะดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดนีเปอร์เหนือจรดใต้ เป็นเขตปลอดทหารกองกำลังผสม NATO และยูเครน ซึ่งสหรัฐ คงไม่ชื่นชอบท่าทีของจีนในการพยายามสงบศึก เพราะเป้าหมายหลักของสหรัฐ คือแตกรัสเซียออกเป็นรัฐเล็กๆ คล้ายแตกสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายของจีนคือ แสดงวิสัยทัศน์ทางเลือกต่อการเป็นผู้นำฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วผู้สร้างสันติภาพโลกอย่างชัดเจน เชื่อมโยงไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , แอฟริกา และอเมริกาใต้ ขอการสนับสนุนจากประเทศที่เหลือในโลก ที่เอือมระอาสหรัฐฯ

ที่ชัดเจนคือ ท้าทายระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวที่นำโดยสหรัฐฯ ที่มีแต่ขยายความขัดแย้งด้วยสงคราม จนทำให้สถานการณ์ต่างๆ เลวร้ายลง จีนฉวยจังหวะข่มสหรัฐฯ ด้วยความพยายามผลักดันการทูตครั้งใหญ่เพื่อให้เกิดสันติภาพ
ยังไม่มีใครรู้ว่าจีนจะประสบความสำเร็จในเป้าหมายแผนสันติภาพนั้นหรือไม่ ตราบเท่าที่สหรัฐ ยังเป็นจระเข้ขวางคลอง แต่จีนได้แสดงให้เห็นว่าตนคือทางเลือกที่ดีกว่าสหรัฐ

โดยจีนจะสนับสนุนทางตรงกับรัสเซียต่อไปในการส่งเสริมการค้าขาย และสนับสนุนทางทหารต่อรัสเซียทางอ้อมในรูปแบบผ่านประเทศที่ 3 รวมทั้งสนับสนุนให้ชาติพันธมิตร คือ ซาอุดิอาระเบีย ฮังการี เดินเกมส์เยือนยูเครน ในรูปแบบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แข่งขันกับฝ่ายสหรัฐ ที่ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเติมแต่อาวุธเชื้อไฟสงครามให้ยืดเยื้อต่อไป จนส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่รัสเซียจำเป็นต้องใช้อาวุธร้ายแรงต่อยุโรป

ช่วงหลังปีใหม่ 2023 มาเป็นระยะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศว่าสองชาติคู่หู “มีมิตรภาพที่ไม่มีขีดจำกัด” ยุโรป มาถึงจุดที่ต้องเลือก เมื่อสหรัฐ ใช้มุกเก่าผลักดันหลังให้ตกหล่มความขัดแย้งและสงครามจนชาติวินาศ แต่จีนกลับแสดงวิสัยทัศน์พาดบันไดขึ้นจากหล่มปัญหาทุกอย่าง ด้วยการผลักดันสันติภาพและความสงบกลับมาได้แน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : http://facebook.com/profile.php?id=100077775671454