ในที่สุดก็ถึงเวลารุกคืบ ก่อนรุกฆาต รมว.กลาโหมอธิบายเงื่อนไขสำหรับความก้าวหน้าของรัสเซียในยูเครน และการขยายปฏิบัติการทางทหารว่า ขึ้นอยู่กับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เคียฟได้รับจากตะวันตก ส่งมามากยิงได้ไกลมาก รัสเซียก็จะรุกคืบยึดไกลออกไปมากเท่านั้น
ในด้านกองทัพรัสเซียได้ติดตั้งรถถัง T-90M ด้วยกระสุนเจาะทะลุ 3BM-60 Svinets-2 เพื่อไว้ทำลาย ABRAMS ที่มีข่าวว่ากำลังลำเลียงมาให้ยูเครนแล้ว
วันที่ ๒๗ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เซอร์เกย์ ชอยกูรัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย ได้ระบุเงื่อนไขสำหรับการขยายปฏิบัติการทางทหารของมอสโกว์ในยูเครน โดยอธิบายว่าความก้าวหน้าที่อาจเกิดขึ้นเชื่อมโยงโดยตรงกับการส่งมอบอาวุธของชาติตะวันตกไปยังเคียฟ
ชอยกูกล่าวในการสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ ‘มอสโกว์’ เครมลิน ปูติน’ ว่า“มันขึ้นอยู่กับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตะวันตกจะจัดหา”
คำกล่าวของรัฐมนตรีดูเหมือนจะพูดสอดคล้องกับคำปราศรัยของประธานาธิบดีปูติน ต่อสมัชชาแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานนิติบัญญัติหลักของประเทศ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องชัดเจน”“ยิ่งระยะที่ตะวันตกส่งระบบอาวุธเข้ามาในยูเครนพิสัยไกลเท่าไร เราก็ยิ่งถูกบีบให้ผลักภัยคุกคามออกไปจากพรมแดนของเรามากขึ้นเท่านั้น มันชัดเจน”
รัสเซียเรียกร้องหลายครั้งให้ชาติตะวันตกหยุด”สูบฉีด”ยูเครนด้วยอาวุธ โดยยืนยันว่าการส่งอาวุธอย่างต่อเนื่องรังแต่จะยืดเยื้อความขัดแย้งมากกว่าที่จะเปลี่ยนผลลัพธ์สุดท้าย เคียฟเรียกร้องอาวุธพิสัยไกลจากผู้สนับสนุนชาติตะวันตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยยืนยันว่าระบบดังกล่าวมีความจำเป็นในการผลักดันกองทหารรัสเซียออกจากดินแดนที่ยูเครนอ้างว่าเป็นของตน แม้ว่าทั้ง ๔ ภูมิภาคใหม่และไครเมียต่างลงประชามติเข้าร่วมรัสเซียอย่างท่วมท้น
ล่าสุด หลังจากมีข้อมูลว่าโดรนของยูเครนโจมตีสนามบินมาชูลิชชี (Machulishchi) ของเบลารุส ซึ่งอยู่ห่างจากมินสค์ไปทางใต้ไม่กี่กิโลเมตร ข้อมูลเริ่มปรากฏขึ้นเกี่ยวกับการโจมตีของโดรนโจมตีของรัสเซียต่อเป้าหมายของศัตรูในภาคเหนือของยูเครน
ชัดเจนแล้วว่า หากรัสเซียพบอาวุธพิสัยไกลของตะวันตก ก็จะขยายพื้นที่แนวรบมากขึ้นแน่นอน ซึ่งหมายถึงจะยิ่งบุกลึกเข้าไปในดินแดนยูเครนนอกเหนือจาก ๔ ภูมิภาคใหม่ เตือนชัดและก็จะทำจริง
ทันทีหลังสัมภาษณ์ เช้าวันจันทร์นี้มีรายงานว่าเกิดการระเบิดขึ้นที่ไซต์ในกรุงเคียฟเมืองหลวง และจุดอื่นๆในภูมิภาคเคียฟ
“ผู้ว่าการ”ของภูมิภาคเชอร์นิฮีฟ (Chernihiv)ของยูเครน เขียนข้อความลงเทเลแกรมระบุว่า “ตรวจพบเป้าหมายทางอากาศของศัตรูบนท้องฟ้าเหนือภูมิภาค Kyiv”
ตามรายงานบางฉบับเปิดเผยถึงยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับประเภท เกรานของรัสเซีย(Geranium) โจมตีเป้าหมายในเขตเมืองหลวงของยูเครน โดยเข้าสู่เป้าหมายผ่านทางภูมิภาคเชอร์นิฮิฟ
ในเวลากลางคืน การแจ้งเตือนทางอากาศในดินแดนที่ควบคุมโดยระบอบการปกครองของเคียฟ ไม่เพียงประกาศในเขตเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในภูมิภาคชีโตเมีย, เชอร์นีฮีฟ, ดนีโปรเปสตรอฟ, ปอลตาวา และคาร์คีฟหรือคาร์คอฟ (Zhytomyr, Chernihiv, Dnipropetrovsk, Poltava ,Kharkiv)
เยอร์มัค(Yermak) หัวหน้าสำนักงานของเซเลนสกี้ กล่าวว่า “การระเบิดในภูมิภาค Kyiv เป็นผลงานของการป้องกันทางอากาศของยูเครน ในเวลาเดียวกันก่อนที่การแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศจะสิ้นสุดลง มีการระบุว่าการดำเนินการของระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพยูเครน “ประสบความสำเร็จ”แม้จะเกิดระเบิดขึ้นก็ตาม ฝ่ายยูเครนไม่ได้รายงานเกี่ยวกับจำนวนโดรนที่บินไปยังเคียฟและจำนวนโดรนที่ถูกยิงตกแต่อย่างใด
ด้านสหรัฐฯ มีความเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ เปิดเผยโดยลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐฯหัวหน้าเพนตากอน เขากล่าวว่า “สหรัฐฯ ได้ส่งกองกำลังสหรัฐฯ เพิ่มเติมมากกว่า ๒๐,๐๐๐ นายไปยังยุโรป และส่งกองกำลังถาวรชุดแรกของสหรัฐฯ ไปยังแนวรบด้านตะวันออกของนาโต้แล้ว
ขณะที่สหรัฐฯกำลังลนลานส่งคนเข้าประจำการในประเทศนาโต้รัวๆเตรียมก่อสงครามใหญ่ แต่ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก(Jens Stoltenberg) เลขาธิการ NATO กลับยอมรับว่ารัสเซียกำลังชนะด้านโลจิสติกส์เรื่องการต่อสู้เพื่อแย่งชิงการลำเลียงกระสุนปืนส่งใหยูเครน
เลขาธิการ NATO ได้เตือน โดยระบุว่าชาติตะวันตกไม่ควรลดค่าความได้เปรียบด้านอำนาจการยิงของรัสเซียในขณะที่ความขัดแย้งในยูเครนกำลังบานปลายไปสู่การสู้รบที่ดุเดือดเข้มข้น เขาคิดว่ามอสโกว์มีชัยในการแข่งขันด้านอาวุธแล้ว
สโตลเตนเบิร์กกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า จนถึงขณะนี้รัสเซียสามารถเคลื่อนย้ายเสบียงและบุคลากรไปยังแนวหน้าได้มากกว่ายูเครน สามารถปิดกั้นจุดส่งเสบียงและกำลังบำรุงได้อย่างต่อเนื่อง กระสุนที่ยูเครนใช้ต้อสู้กับรัสเซียหมดลงอย่างมาก และคลังกระสุนของนาโต้เองก็เริ่มร่อยหรอหลังจากส่งให้ยูเครนอย่างเต็มที่ เขาย้ำว่าการใช้กระสุนของยูเครนนั้น “มากกว่ากำลังการผลิตของสมาชิก NATO ทั้งหมดหลายเท่า สร้างแรงกดดันต่อภาคการป้องกันของพันธมิตร เลขาธิการนาโต้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ แต่คงไม่เป็นที่สนใจของยูเครนนัก เพราะยังคงเรียกร้องกระสุนปืนใหญ่ และระบบป้องกันอากาศยานชั้นสูงพร้อมเครื่องบินรบจากสหรัฐและยุโรป น่าเสียดายที่โดยคำสัญญานั้นจะให้แน่ แต่ความจริงที่ส่งมานั้นจำนวนน้อยและมีอาการเหมือนถ่วงเวลาอ้างผลิตไม่ทัน แบบนี้เซเลนสกี้ยังกล้าประกาสว่ายูเครนจะต้องชนะ รัสเซียกำลังพ่ายแพ้!!