เป้าหมายสำคัญของสหรัฐฯและอิสราเอลในภูมิภาคตะวันออกกลางคืออิหร่าน ซึ่งขับเคี่ยวกันมานานหลายยุคสมัยของปธน.สหรัฐฯ ล่าสุดเตหะราน ประกาศพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลไฮเปอร์โซนิคสำเร็จ ด้านอเมริกาเพิ่งเริ่มประกาศว่ามีไฮเปอร์โซนิคแล้วไม่นานมานี้ ขณะที่รัสเซียและจีนมีพร้อมใช้ก่อนหน้าหลายรุ่นด้วยซ้ำ
ด้านกองทัพได้ประกาศทำการฝึกซ้อมเริ่มขึ้นในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มีกองกำลังป้องกันทางอากาศของกองทัพอิหร่านและกองกำลัง IRGC เข้าร่วม ฐานป้องกันทางอากาศคาแทม อัลอันเบีย Khatam al-Anbiaสำนักงานใหญ่กลางของการป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านเป็นผู้ประกาศต่อสาธารณะ
การฝึกซ้อมจัดขึ้นเพื่อประเมินความพร้อมของระบบป้องกันภัยทางอากาศทางทหาร เอกสารของฐานป้องกันทางอากาศ ระบุว่า “การฝึกซ้อมดำเนินการร่วมกับเครือข่ายป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการของอิหร่าน จัดขึ้นในบางส่วนของประเทศเฉพาะในเวลากลางคืน
วันที่ ๒๗ ก.พ.๒๕๖๖ สำนีกข่าวทาสนิมนิวส์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า อิหร่านประกาศพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลสำเร็จ โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่าน ระบุว่า กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ที่เรียกย่อว่า IRGC ประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล (Long-range cruise missile) ระยะการยิง ๑,๖๕๐ กม. และนำเข้าประจำการแล้ว
นายพลอมิราลี ฮาจิซาเดห์(Amirali Hajizadeh) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของ IRGC ระบุว่า ขีปานาวุธรุ่นใหม่สามารถโจมตีเป้าหมายใดก็ได้ ตามความต้องการของอิหร่าน
ปัจจุบันอิหร่านยังคงดำเนินโครงการขยายศักยภาพขีปนาวุธต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับชาติตะวันตก ด้านอิหร่านยืนยันว่าการพัฒนาขีปนาวุธมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันตนเอง จากภัยคุกคามภายนอกเท่านั้น
อิหร่านเปิดเผยขีปนาวุธพิสัยไกลที่พัฒนาขึ้นใหม่ด้วยความเร็วสูงสุดถึง ๑๓มัค
เตหะรานกล่าวว่าได้พัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเหนือเสียงซึ่งสามารถเข้าถึงฐานทัพทหารประจำภูมิภาคของสหรัฐฯ ได้หากจำเป็น
ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิครุ่นนี้สามารถโจมตีเป้าหมายที่ระยะ ๑,๐๒๕ ไมล์ หรือ ๑,๖๕๐ กิโลเมตร ผู้บัญชาการกองการบินและอวกาศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ให้ข้อมูลกับสื่อ
ฮาจิซาเดห์ กล่าวว่า “การใช้ขีปนาวุธทำให้อิหร่าน ตอนนี้สามารถกำหนดเป้าหมายเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกาได้ในระยะ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร ประมาณ ๑,๒๔๒ ไมล์)” เจ้าหน้าที่อิหร่านอ้างเพิ่มเติมว่าขีปนาวุธสามารถพัฒนาให้มีพิสัยทำการไกลขึ้น แต่อิหร่านระบุว่า “ด้วยความเคารพต่อชาวยุโรป”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อิหร่านกล่าวว่าได้พัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ อิหร่านเปิดเผยว่าพวกเขาสร้างขีปนาวุธนำวิถีความเร็วเหนือเสียงระดับชาติลูกแรกของตน แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจะตั้งข้อสงสัยต่อคำกล่าวอ้างเหล่านั้นในเวลานั้นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
อิหร่านกล่าวว่าโครงการขีปนาวุธเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องปรามศัตรูและปกป้องตัวเอง
เขากล่าวกระตุ้นหลังจากพูดถึงสหรัฐฯว่า “หากเราไม่เข้มแข็ง ศัตรูจะนำสงครามมาสู่อิหร่าน”“เราควรระมัดระวังให้มากเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านความมั่นคงของชาติและประเทศที่รักของเรา”
เขาย้ำว่าสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากตะวันออกกลางที่ไม่มั่นคง และเป็นตัวต้นเหตุของความขัดแย้งทั่วโลก โดยเฉพาะการกล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนและไต้หวัน
ฮาจิซาเดห์ขอบคุณโครงการขีปนาวุธอิหร่าน ที่สามารถโจมตีฐานทัพในภูมิภาคของสหรัฐฯ “ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ” วันนี้เป็นความจริงแล้ว
ความสามารถที่แท้จริงของขีปนาวุธจะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เตหะรานได้มีวิดีโอการทดสอบสดเผยแพร่ออกมาแล้ว อิหร่านอ้างว่าขีปนาวุธใหม่มีความสามารถในการพุ่งสูงถึง ๑๒-๑๓ มัค นั่นคือเร็ว ๑๒ ถึง ๑๓ เท่าของความเร็วเสียง และสามารถหลบหลีกการป้องกันขีปนาวุธได้ ส่วนหนึ่งจากเครื่องยนต์ในตัวที่เพิ่มความคล่องแคล่วของขีปนาวุธสามารถหลีกหนีเมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว AGM-183A ต้นแบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของอเมริการุ่นใหม่ล่าสุดมีความเร็วสูงสุดอ้างไว้ที่ ๒๐ มัค แต่จากการทดสอบและรับรองผลสำเร็จ ขีปนาวุธของสหรัฐฯไม่เคยถึงแม้แต่มัค ๖ ในการทดสอบ มีพิสัยไกลประมาณ ๙๙๔ ไมล์ หรือ ๑,๖๐๐ กิโลเมตร
ฮาจิซาเดห์กล่าวย้ำว่า “ผมแสดงความมั่นใจว่าศัตรูจะไม่สามารถพัฒนาขีปนาวุธแบบเดียวกันนี้ได้ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ขณะนี้ขีปนาวุธอยู่ในคลังแสงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามพร้อมนำออกใช้ได้ทันที”