สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มโลกขั้วเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่มีสหรัฐฯเป็นหัวโจก เริ่มเปิดหน้าเล่นงานรัสเซียและจีนอย่างโจ่งแจ้งปิดบังไม่มิด แม้ว่าแอนโทนี่ บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯออกมาให้สัมภาษณ์อย่างไม่อายปากว่า “สหรัฐฯไม่เคยทำร้ายประเทศเล็กๆ มีแต่ช่วยสนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ ไม่ได้รังแกประเทศเล็กอย่างที่รัสเซียกำลังรังแกยูเครน….” ช่างกล้าพูดแสดงว่าดูถูกชาวโลกอย่างมาก ทุกวันนี้ใครๆต่างก็รู้เช่นเห็นชาติของสหรัฐฯและพวกว่า ฝักใฝ่แสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวพร้อมทำลายล้างทุกคนทุกประเทศที่ต่อต้านการครอบงำ ยึดครองของตัวเอง ผลงานทำลายล้างประเทศที่มีอาวุธด้อยกว่าสหรัฐเช่นในตะวันออกกลาง อาฟริกาเป็นบทพิสูจน์เชิงประจักษ์ที่ยากปฏิเสธ เพียงแต่ว่า รัสเซียและจีนมีศักยภาพทางทหารแข็งแกร่งพอปะฉะดะกับเมกาฯ จึงได้เห็นสภาพบริวารสหรัฐในนามองค์กรทหารอย่างนาโต้ องค์กรเศรษฐกิจอย่างอียูและองค์กรทางการเมืองอย่างยูเอ็น พากันรุมใส่รัสเซียอย่างหนักและกำลังตั้งท่าย้ายวิกไปอัดจีนอีกด้วย
หลังสหรัฐฯและนาโต้หมายหัวจีนให้เป็นศัตรูร้ายที่ต้องควบคุมและต่อต้าน โอกาสแห่งสงครามอวกาศก็เริ่มส่อเค้าตึงเครียดมากขึ่น มีรายงานทั้งจากสื่อจีนและสื่อรัสเซียว่า จีนเตรียมเปิดตัวเครือข่ายดาวเทียม ๑๓,๐๐๐ ดวงเพื่อ ‘ปราบปราม’ อำนาจสูงสุดของ Starlink ที่จีนมองว่ามีพฤติกรรมคุกคามต่อจีน เป็นตัวแทนของสหรัฐฯในการสอดแนมและพร้อมทำลายระบบดาวเทียมของจีนและจับได้หลายครั้ง
วันที่ ๒๗ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสตร์รายงานว่า จีนได้เปิดเผยแผนการตอบโต้ ‘Starlink’ ของอีลอน มัสค์ (Elon Musk) เป็นครั้งแรก ปักกิ่งได้แสดงความกังวลด้านความปลอดภัยของประเทศที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย SpaceXในอวกาศ
บทความล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารจีน Command Control and Simulation กลุ่มเครือข่ายดาวเทียมจีนมีแผนที่จะนำดาวเทียม ๑๒,๙๙๒ ดวงขึ้นสู่วงโคจรอย่างรวดเร็วซึ่งสอดคล้องกับเอกสารที่ยื่นต่อสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศในเครือสหประชาชาติ ซึ่งระบุถึงแผนการของจีนในการสร้างเครือข่ายการสื่อสารผ่านดาวเทียม ๑๓,๐๐๐ ดวง
จีนเปิดเผยว่า นักวิจัยชาวจีนกำลังเตรียมส่งดาวเทียมเกือบ ๑๓,๐๐๐ ดวงสู่วงโคจรระดับต่ำ ซึ่งเป็นการเฝ้าติดตาม เครือข่าย SpaceX ‘Starlink’ ของ Elon Musk ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ๒๕๖๒ และให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมไปยัง ๕๐ ประเทศ
โครงการซึ่งมีชื่อรหัสว่า ‘GW’ และนำโดยรองศาสตราจารย์ฉู คัน (Xu Can) จาก People’s Liberation Army’s (PLA) Space Engineering University ในกรุงปักกิ่ง จะเร่งส่งดาวเทียม ๑๒,๙๙๒ ดวงที่ดำเนินการโดย China Satellite Network Group Co ปล่อยขึ้นสู่วงโคจร โดย ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการสื่อสารในขอบข่าวทั่วโลก
กำหนดการเปิดตัวยังไม่ได้มีการเปิดเผย แต่ทีมที่นำโดยฉู คัน กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะปรับใช้”ก่อนที่ Starlink จะเสร็จสมบูรณ์” พวกเขาเสริมว่าสิ่งนี้จะ”ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศของเรามีสถานที่ในวงโคจรต่ำและป้องกันกลุ่มดาว Starlink จากการตักตวงทรัพยากรในวงโคจรต่ำมากเกินไป”
จำนวนดาวเทียม ‘GW’ ที่คาดการณ์ไว้จะเกินจำนวนรวมปัจจุบันของ Starlink ที่ประมาณ ๓.๕๐๐ ดวง SpaceX วางแผนที่จะมีอุปกรณ์ ๑๒,๐๐๐ เครื่องในกลุ่มดาวบริวารภายในปี ๒๕๗๐ โดยตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น ๔๒,๐๐๐ เครื่องในที่สุด
ทีมของ Xu อธิบายอย่างละเอียดว่าพวกเขาจะวางดาวเทียมของจีนใน”วงโคจรที่กลุ่มดาว Starlink ยังไปไม่ถึง”และพวกเขาจะ”ได้รับโอกาสและความได้เปรียบในระดับความสูงวงโคจรอื่นๆ และแม้แต่ยับยั้ง Starlinkไม่ให้คุกคามความั่นคงของประเทศได้”
ทีมนักวิจัยกล่าวเสริมว่าเครือข่าย ‘GW’ ยังสามารถติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อให้”การเฝ้าระวังระยะยาวของดาวเทียม Starlinkอีกด้วย”
ฉู คันและทีมงานของเขายังเสนอว่ารัฐบาลจีนสามารถจัดตั้งแนวร่วมต่อต้าน Starlink กับรัฐบาลอื่น ๆ และ”เรียกร้องให้ SpaceX เผยแพร่ข้อมูลวงโคจรที่ของดาวเทียม Starlinkที่ส่งผลกระทบกับประเทศอื่นๆด้วย”
ตามรายงานของนักวิจัย กลุ่มดาว Starlink เป็นภัยคุกคามต่อดาวเทียมของประเทศอื่นๆ เนื่องจาก Pentagon ซึ่งทำสัญญากับ SpaceX สามารถสั่งให้บริษัทมีดาวเทียม Starlink “โจมตีและทำลายเป้าหมายใกล้เคียงในอวกาศ” นั่นคือแม้จะทีชื่อเป็นของเอกชนแต่อยู่ภายใต้อำนาจและคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้ข้อตกลงที่สตาร์ลิงค์ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
ก่อนหน้านี้ ตัวเลขทางการทหารของจีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติที่เกิดจากดาวเทียมของ SpaceX และเรียกร้องให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี”hard kill” เพื่อ “ทำลายระบบปฏิบัติการของกลุ่มดาว”หากจำเป็น
ความพยายามของจีนในการตอบโต้ Starlink เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานทางทหารที่มีศักยภาพของเครือข่ายดาวเทียมทั่วโลก เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการสื่อสารโดยกองกำลังทหารของยูเครนตลอดความขัดแย้งกับรัสเซีย แม้ว่า SpaceX จะดำเนินการเมื่อต้นเดือนนี้เพื่อจำกัดการใช้งานในการควบคุมโดรนทางทหารในประเทศ และเป็นเชิงหลักการในทางปฏิบัติ สามารถดำเนินการในพื้นที่สู้รบโดยบริษัทเสปซเอ็กอาจปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นได้!!