ปธน.ปูติน กล่าวในคำปราศรัยเผยแพร่บนเว็บไซต์เครมลินเนื่องในโอกาสวันผู้พิทักษ์แห่งมาตุภูมิ ยืนยันว่า กองทัพจะได้รับยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยพร้อมกับการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกประเภทที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้นำรัสเซียกล่าวย้ำว่า“เราจะยังคงจัดหายุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดให้กับกองทัพของเราต่อไป” พร้อมอธิบายว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างระบบการโจมตีแบบใหม่ การลาดตระเวนและเครื่องมือสื่อสาร โดรน และระบบปืนใหญ่
ผู้นำรัสเซียกล่าวเสริมว่าจะเน้นเป็นพิเศษในการส่งเสริมศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของประเทศ เขาตั้งข้อสังเกตว่าความสามารถในการป้องกันของประเทศจะได้รับการสนับสนุนตามประสบการณ์การสู้รบที่ได้รับ และเป็นหลักประกันของการปกป้องตนเองจากศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ ๒๔ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กลุ่มบริษัทกลาโหมที่มีสำนักงานใหญ่ในมอสโกประกอบด้วยบริษัทสาขาและสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์กว่า ๘๐๐ แห่ง และมีส่วนร่วมในการผลิตทุกอย่างตั้งแต่เครื่องบินทหารอย่าง Sukhoi Su-57 และโดรนขั้นสูงไปจนถึงรถถังอาร์มะตา (Armata) และอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์
Rostec ได้เพิ่มการส่งมอบยุทโธปกรณ์สำหรับคำสั่งป้องกันประเทศ “หลายครั้ง” ในระหว่างปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน บริษัทได้ประกาศ
สำนักงานใหญ่ของบริษัทกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “องค์กรต่างๆ ของ Rostec พัฒนาและจัดหาอาวุธที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงให้กับกองทัพอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่ โดรน Lancet และ KUB ซึ่งพิสูจน์ตัวเองในเขตปฏิบัติการทางทหารพิเศษ และระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S”
ในระหว่างการปราศรัยต่อสมัชชาแห่งสหพันธรัฐเมื่อวันอังคาร ปธน.ปูตินแสดงความขอบคุณต่อคนงานและวิศวกรของบริษัทป้องกันประเทศของรัสเซีย “ซึ่งขณะนี้ทำงานเกือบตลอดเวลา ในหลายกะ” ในการจัดหายุทโธปกรณ์และ อาวุธที่พวกเขาต้องการสำหรับปฏิบัติการพิเศษ
ปูตินเรียกร้องให้ภาคกลาโหม “เริ่มการผลิตจำนวนมาก” ของการออกแบบอาวุธใหม่ที่พัฒนาขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าหลายสิ่งเหล่านั้น “มีความสำคัญอย่างยิ่ง และรัสเซียมีเหนือกว่าต่างประเทศต้องผลิตให้เพียงพอต่อสถานการณ์”
โดยสรุปความมุ่งมั่นของเครมลินต้องการให้นำเสนอ “เทคโนโลยีล่าสุดแก่กองทัพเพื่อให้มั่นใจถึงมาตรฐานคุณภาพสูงในกองทัพบกและกองทัพเรืออย่างเต็มที่”
ผู้ผลิตโดรนของรัสเซีย ZALA Aero Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของคาลาชนิคอฟ รอนเซิร์น (Kalashnikov Concern) ของ Rostec เป็นผู้พัฒนาการออกแบบโดรน Lancet และ KUB Lancet เป็นโดรนติดอาวุธที่เปิดตัวครั้งแรกที่งานแสดงสินค้าทางทหาร ARMY-2019 ในปี๒๐๑๙ และทดสอบการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธญิฮาดในซีเรียในปี ๒๐๒๐ และ๒๐๒๑ โดรน Lancet และโดรนโจมตี KUB-UAV ที่ออกแบบด้วยปีกเดลต้าถูกนำไปใช้ในยูเครนปีที่แล้ว โดรนทำงานที่ความเร็วระหว่าง ๑๑๐ ถึง ๑๓๐ กม. ต่อชั่วโมง มีน้ำหนักบรรทุกที่เป็นประโยชน์ระหว่าง ๓ ถึง ๕ กิโลกรัม และพิสัยทำการสูงสุด ๔๐ กม.
กองทัพรัสเซียติดตั้งกระสุนระยะไกล Tornado-S MLRS ใหม่ที่มีระยะยิงไกลถึง ๑๒๐ กม. ในยูเครนเมื่อปีที่แล้ว โดยกระสุนมีทั้งระบบควบคุมการนำทางเฉื่อยและระบบนำทางด้วยดาวเทียม และหางเสือแอโรไดนามิกซึ่งปรับปรุงคุณสมบัติการร่อน
วิกฤตการณ์ยูเครนได้กลืนกินอาวุธและกระสุนจำนวนมาก เริ่มจากยุทโธปกรณ์ที่เหลือจากสงครามเย็น และค่อยๆ ขยายขนาดเป็นยุทโธปกรณ์ล่าสุดที่กองทัพนาโต้และรัสเซียส่งลงสนาม สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปยังเคียฟในปี ๒๕๖๕ และให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการสนับสนุนต่อไปในปี ๒๕๖๖ โดยไม่คำนึงถึงวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศและต้นทุนพลังงานในยุโรปที่พุ่งสูงขึ้น ในการเยือนกรุงเคียฟเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ อวดว่าชาติตะวันตกมี “รถถังเกือบ ๗๐๐ คันและรถหุ้มเกราะหลายพันคัน ระบบปืนใหญ่ ๑,๐๐๐ ระบบ กระสุนปืนใหญ่มากกว่าสองล้านนัด จรวดนำวิถีขั้นสูงมากกว่า ๕๐ ลูก” ระบบต่อต้านเรือและระบบป้องกันทางอากาศ” ซึ่งจะมอบให้กับยูเครนโดยเร็วที่สุด ในสถานการณ์ภาคสนามยังยื้อกันอยู่ มีบางส่วนเคลื่อนไหวส่งมาที่ชายแดนโปแลนด์แล้ว
ในการกล่าวปราศรัยต่อฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินประเมินว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ใช้จ่ายไปแล้วกว่า ๑๕๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อ “ช่วยเหลือและติดอาวุธ” ให้กับยูเครน ในขณะที่มีความมุ่งมั่นน้อยกว่ามากสำหรับโครงการริเริ่มระดับโลกที่ขึ้นชื่อมาก เช่น ความช่วยเหลือแก่ประเทศยากจน ต่อสู้กับความยากจน ทำงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม
สำหรับรัสเซียคาดว่าจะใช้จ่ายด้านกลาโหมประมาณ 4.98 ล้านล้านรูเบิลหรือประมาณ ๖๖.๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๖ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การใช้จ่ายด้านการป้องกันของนาโต้สูงถึง ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๕๖๕ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีปัจจุบัน!!
